• เปิดตัวแสตมป์เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ
สมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ส.ต.ท.) และสหพันธ์ตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และพันธมิตรต่างๆ จัดแถลงข่าวความพร้อมการจัดงานตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย ครั้งที่ 32 (THAILAND 2016) พร้อมเปิดตัวแสตมป์ชุด “มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” และแสตมป์ชุด “ที่ระลึกงานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย พ.ศ.2559” พร้อมนำตู้ไปรษณีย์แบบแขวนที่เก่าแก่ที่สุดมาจัดแสดง
นายสุรจิตร ก้องวัฒนา ประธานสหพันธ์ตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เพื่อเทิดพระเกียรติและเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลวโรกาสที่จะทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา 12 สิงหาคม 2559 และเปิดโอกาสให้นักสะสมชาวไทยก้าวเข้าสู่เวทีการประกวดในระดับระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการสะสมแสตมป์โดยเน้นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของสิ่งสะสม ประเภทดวงตราไปรษณียากรผ่านสิ่งสะสมที่นำมาแสดงในงานจัดการประกวด รวมทั้งส่งเสริมตราไปรษณียากรเพื่อการสะสม งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-15 ส.ค. 59 นี้ ที่ห้องคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์งามวงศ์วาน
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยจัดทำตราไปรษณียากรชุดไฮไลต์ 2 ชุด ได้แก่ ชุด “ที่ระลึกงานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย พ.ศ. 2559” เป็นภาพ “บัวควีนสิริกิติ์” พันธุ์ไม้ที่สมาคมพฤกษศาสตร์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ขอพระราชทานพระราชานุญาตพระราชทานนามให้บัวลูกผสมพันธุ์ใหม่ในโอกาสพระชนมายุ 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2554 และในโอกาสที่พระองค์ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญา “พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ” จากรัฐบาลไทยเมื่อปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่สมัชชาองค์การสหประชาชาติประกาศให้เป็นปีสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ
เป็นบัวที่มีดอกสีม่วงตรงปลายกลีบ โคนกลีบมีสีขาว ดอกมีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ สีขาวอมเขียว และกลีบดอก 24 กลีบ ดอกตูมเป็นรูปรี ส่วนดอกบานเป็นรูปถ้วย ซองวันแรกจำหน่าย วันที่ 10 ส.ค. 59 จำหน่ายราคา 14 บาท จำนวนพิมพ์ 700,000 ดวง ราคาดวงละ 5 บาท
ส่วนชุด “มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” เป็นตราไปรษณียากรที่ระลึกเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 จัดสร้างขึ้นเป็นรูปเจ็ดเหลี่ยม ใช้เทคนิคการพิมพ์สี่สีบนฟอยล์เงิน พระฉายาลักษณ์ปั๊มดุนนูน คำว่า “ประเทศไทย THAILAND 100 บาท BAHT” ปั๊มฟอยล์ทองคำ 22 กะรัต เพื่อให้เข้าชุดกับตราไปรษณียากรที่ระลึกในโอกาสเดียวกัน เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ซองวันแรกจำหน่าย วันที่ 12 ส.ค.59 จำหน่ายราคา 117 บาท จำนวนพิมพ์ 500,000 ดวง ราคาดวงละ 100 บาท”
กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปณท กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้มีนิทรรศการ “84 พรรษา นวมินทราชินีศรีแผ่นดิน” รวบรวมตราไปรษณียากรที่เกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จำนวน 25 ชุด 63 ดวง มาจัดแสดงพร้อมข้อมูลประกอบ โดยแบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆ สอดคล้องกับพระราชกรณียกิจด้านส่งเสริมงานศิลปะ ผ้าไทย ผ้าไหม เอกลักษณ์การแต่งกายของไทย การส่งเสริมศิลปาชีพ รวมถึงดอกไม้พระนามควีนสิริกิติ์
• สบส. ชูไอเดีย! ดัน “นวดไทย” เป็นมรดกวัฒนธรรมโลก !!
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สบส.ได้เร่งเดินหน้าดำเนินการผลักดันการสร้างเศรษฐกิจรายได้ประเทศจากบริการสุขภาพ ตามนโยบายรัฐบาลที่จะพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติหรือเมดิคัลฮับ (Medical Hub) โดยยกระดับบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพประเภทนวดไทยและสปาไทย ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ ให้เป็นแบรนด์หรือสัญลักษณ์ของประเทศไทย โดย สบส.มีแนวคิดผลักดันให้นวดไทยเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างชื่อเสียงและคุณค่าแก่ภูมิปัญญาไทย เนื่องจากการนวดไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาของไทยที่สืบทอดมายาวนานกว่า 600 ปี จนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ นวดแบบราชสำนัก และนวดแบบเชลยศักดิ์
อธิบดี สบส. กล่าวต่อว่า จากการหารือร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกระทรวงวัฒนธรรม องค์กรยูเนสโก (UNESCO) ประจำประเทศไทย และภาคเอกชน ทุกหน่วยงานมีความเห็นตรงกัน และจะร่วมกันเร่งผลักดันตามขั้นตอน หากเป็นผลสำเร็จจะถือว่าเป็นมรดกชิ้นแรกของโลกที่สามารถนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ
ขณะเดียวกันได้หารือกับกระทรวงแรงงาน ในการปรับปรุงกฎหมายเพิ่มเติมอาชีพนวดไทยให้เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย เพื่อรักษาคุณภาพ มาตรฐาน เอกลักษณ์ และชื่อเสียงของการนวดไทย ซึ่งเปรียบเสมือนรสสัมผัสที่สามารถรับรู้ผ่านการนวดโดยฝีมือคนไทยเท่านั้น
• สธ.ขยายผลการสวดมนต์และทำสมาธิสู่ชุมชน หลังเห็นผล ช่วยโรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ ดีขึ้น
นายแพทย์ภานุวัตน์ ปานเกตุ โฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าว่า ขณะนี้ประชาชนไทยมีแนวโน้มป่วยจากโรคเอ็นซีดีหรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากขึ้น โดยเฉพาะ 3 โรค ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจและหลอดเลือด
สบส.จึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิอุทัย สุดสุข ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ ส่งเสริมประชาชนในชุมชนที่ป่วยเรื้อรัง 3 กลุ่มโรคที่กล่าวมา ได้ปฏิบัติศาสนธรรมคือการสวดมนต์และทำสมาธิ ควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมตามหลักการของแพทย์ คือ การคุมอาหาร การออกกำลังกาย การปรับอารมณ์ และการกินยาตามแพทย์สั่ง เนื่องจากมีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พบว่าการสวดมนต์ การทำสมาธิ ทำให้จิตใจสงบ ปรับสมดุลและสารเคมีในร่างกาย ช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมอาการได้ดีขึ้น โดยนำร่องศึกษาในชุมชนของ 12 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ ลำพูน กำแพงเพชร ชลบุรี ชัยภูมิ ตรัง พังงา กาญจนบุรี ในปี 2557 พบว่าผู้ป่วยในชุมชนมีสุขภาพดีขึ้นมากถึงร้อยละ 83 ไม่เครียด ระดับน้ำตาลและความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนผู้ป่วยโรคเรื้อรังในโรงพยาบาล มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาของแพทย์ดียิ่งขึ้น
นายแพทย์ภานุวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2559 ได้ขยายผลการสวดมนต์และทำสมาธิลงสู่ชุมชน โดยร่วมกับมูลนิธิพัฒนาการสาธารณสุขมูลฐาน มูลนิธิแสงสิทธิการ มูลนิธิอุทัย สุดสุข และมูลนิธิไพจิตร ปวะบุตร จัดอบรมวิทยากรทั้ง 5 องค์กรเครือข่าย เพื่อนำไปขยายผลเข้าสู่ตำบลจัดการสุขภาพแบบบูรณาการ รวม 88 ตำบล ใน 12 เขตสุขภาพ
• รัฐบาลเชิญชวนประดับธงตราสัญลักษณ์ เฉลิมพระเกียรติ “84พรรษา” มหาราชินี
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปี 2559 เป็นปีมหามงคล รัฐบาลจัดงานเฉลิมพระเกียรติยิ่งใหญ่ 2 งาน คือ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี และงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559
โดยรัฐบาลได้กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลหลายกิจกรรม และมีกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญในโอกาสนี้ คือ การจัดสร้างพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ทรงพระราชทานชื่อพระพุทธรูปว่า พระสัมพุทธโคดม สิริกิติ์บรมราชินีนาถ จตุราศีติวรรษมงคล แปลว่า พระสัมพุทธโคดม องค์เป็นมงคล สร้างเมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในเดือนสิงหาคม 2559
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนทั่วประเทศพร้อมใจกันประดับตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมกล่าวถึงความหมายของตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า
อักษรพระนามาภิไธย ส.ก. อักษร ส.ถมสีครามเข้ม เป็นสีแห่งวันพระราชสมภพ อักษร ก.ถมสีขาว ซึ่งเป็นสีเดชของวันพระราชสมภพ อักษรพระนามาภิไธย ส.ก. อยู่ภายใต้พระมหามงกุฎสีทอง ภายใต้พระมหามงกุฎประดิษฐานพระแสงจักรตรี ว่าทรงสถิตอยู่ในพระบรมมหาราชวงศ์จักรี พระนามาภิไธย ส.ก. อยู่ภายในกรอบวัชรรัตน์ 7 ดวง ว่าทรงเจริญพระชนมายุได้ 7 รอบ มีพื้นสีมอคราม(ฟ้า) เป็นสีวันพระราชสมภพ
นอกกรอบวัชรรัตน์ อลงกรณ์ประกอบหน้าราชหงส์ทองอยู่ทั้งซ้าย-ขวา ว่าทรงงามสง่า ดังราชหงส์ทอง หน้าราชหงส์มีกระหนกแนบ ห้อยพวงดอกไม้ทิพย์ อันมีดอกไม้ในพระนามเป็นอาทิ มีพรรณมอครามปนทอง ถัดออกไปเป็นขอบเขียนอักษรสีทอง พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา (พุทธศักราช) 2559 ระบายพื้นด้วยสีหงชาด(ชมพู) อันเป็นสิริแห่งวันพระราชสมภพ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในอภิลักขิตสมัยที่ทรงเจริญพระชนมายุบรรจบครบ 84 พรรษา ดังมีเลขมหามงคลเขียนอยู่ใต้อักษรพระนามาภิไธย ประกอบเถาไม้ทิพย์ชื่อ จิตรลดา(ป.จิตฺตลตา)
จิตรลดาวัลย์นี้ ตามตำราว่าเป็นเครือเถาไม้ทิพย์มีอยู่ในจิตรลดาวัน ชื่อสวน 1 ใน 4 แห่ง ของพระอินทร์ หมายว่าสมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงเนาวนิเวศน์สถานชื่อพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน อันเป็นที่ประทับเถาว์ไม้นี้ ว่าเป็นเถาว์ไม้แห่งความหวัง ดุจดังสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นความหวังแห่งปวงชน ราษฎรพ้นจากความยากไร้ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ อันมีโครงการศิลปาชีพเป็นอาทิ อาณาประชาราษฎร์จึงน้อมใจถวายพระพรให้ทรงเจริญพระชนม์ยิ่งยืนนาน
“ในโอกาสนี้รัฐบาลขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ประชาชน ประดับธงชาติไทย คู่กับธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ทำงานตามความเหมาะสมโดยพร้อมเพรียงกัน” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 188 สิงหาคม 2559 โดย กองบรรณาธิการ)
สมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ส.ต.ท.) และสหพันธ์ตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และพันธมิตรต่างๆ จัดแถลงข่าวความพร้อมการจัดงานตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย ครั้งที่ 32 (THAILAND 2016) พร้อมเปิดตัวแสตมป์ชุด “มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” และแสตมป์ชุด “ที่ระลึกงานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย พ.ศ.2559” พร้อมนำตู้ไปรษณีย์แบบแขวนที่เก่าแก่ที่สุดมาจัดแสดง
นายสุรจิตร ก้องวัฒนา ประธานสหพันธ์ตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เพื่อเทิดพระเกียรติและเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลวโรกาสที่จะทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา 12 สิงหาคม 2559 และเปิดโอกาสให้นักสะสมชาวไทยก้าวเข้าสู่เวทีการประกวดในระดับระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการสะสมแสตมป์โดยเน้นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของสิ่งสะสม ประเภทดวงตราไปรษณียากรผ่านสิ่งสะสมที่นำมาแสดงในงานจัดการประกวด รวมทั้งส่งเสริมตราไปรษณียากรเพื่อการสะสม งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-15 ส.ค. 59 นี้ ที่ห้องคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์งามวงศ์วาน
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยจัดทำตราไปรษณียากรชุดไฮไลต์ 2 ชุด ได้แก่ ชุด “ที่ระลึกงานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย พ.ศ. 2559” เป็นภาพ “บัวควีนสิริกิติ์” พันธุ์ไม้ที่สมาคมพฤกษศาสตร์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ขอพระราชทานพระราชานุญาตพระราชทานนามให้บัวลูกผสมพันธุ์ใหม่ในโอกาสพระชนมายุ 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2554 และในโอกาสที่พระองค์ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญา “พระมารดาแห่งการคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ” จากรัฐบาลไทยเมื่อปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่สมัชชาองค์การสหประชาชาติประกาศให้เป็นปีสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ
เป็นบัวที่มีดอกสีม่วงตรงปลายกลีบ โคนกลีบมีสีขาว ดอกมีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ สีขาวอมเขียว และกลีบดอก 24 กลีบ ดอกตูมเป็นรูปรี ส่วนดอกบานเป็นรูปถ้วย ซองวันแรกจำหน่าย วันที่ 10 ส.ค. 59 จำหน่ายราคา 14 บาท จำนวนพิมพ์ 700,000 ดวง ราคาดวงละ 5 บาท
ส่วนชุด “มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” เป็นตราไปรษณียากรที่ระลึกเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 จัดสร้างขึ้นเป็นรูปเจ็ดเหลี่ยม ใช้เทคนิคการพิมพ์สี่สีบนฟอยล์เงิน พระฉายาลักษณ์ปั๊มดุนนูน คำว่า “ประเทศไทย THAILAND 100 บาท BAHT” ปั๊มฟอยล์ทองคำ 22 กะรัต เพื่อให้เข้าชุดกับตราไปรษณียากรที่ระลึกในโอกาสเดียวกัน เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ซองวันแรกจำหน่าย วันที่ 12 ส.ค.59 จำหน่ายราคา 117 บาท จำนวนพิมพ์ 500,000 ดวง ราคาดวงละ 100 บาท”
กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปณท กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้มีนิทรรศการ “84 พรรษา นวมินทราชินีศรีแผ่นดิน” รวบรวมตราไปรษณียากรที่เกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จำนวน 25 ชุด 63 ดวง มาจัดแสดงพร้อมข้อมูลประกอบ โดยแบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆ สอดคล้องกับพระราชกรณียกิจด้านส่งเสริมงานศิลปะ ผ้าไทย ผ้าไหม เอกลักษณ์การแต่งกายของไทย การส่งเสริมศิลปาชีพ รวมถึงดอกไม้พระนามควีนสิริกิติ์
• สบส. ชูไอเดีย! ดัน “นวดไทย” เป็นมรดกวัฒนธรรมโลก !!
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สบส.ได้เร่งเดินหน้าดำเนินการผลักดันการสร้างเศรษฐกิจรายได้ประเทศจากบริการสุขภาพ ตามนโยบายรัฐบาลที่จะพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติหรือเมดิคัลฮับ (Medical Hub) โดยยกระดับบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพประเภทนวดไทยและสปาไทย ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ ให้เป็นแบรนด์หรือสัญลักษณ์ของประเทศไทย โดย สบส.มีแนวคิดผลักดันให้นวดไทยเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างชื่อเสียงและคุณค่าแก่ภูมิปัญญาไทย เนื่องจากการนวดไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาของไทยที่สืบทอดมายาวนานกว่า 600 ปี จนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ นวดแบบราชสำนัก และนวดแบบเชลยศักดิ์
อธิบดี สบส. กล่าวต่อว่า จากการหารือร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกระทรวงวัฒนธรรม องค์กรยูเนสโก (UNESCO) ประจำประเทศไทย และภาคเอกชน ทุกหน่วยงานมีความเห็นตรงกัน และจะร่วมกันเร่งผลักดันตามขั้นตอน หากเป็นผลสำเร็จจะถือว่าเป็นมรดกชิ้นแรกของโลกที่สามารถนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ
ขณะเดียวกันได้หารือกับกระทรวงแรงงาน ในการปรับปรุงกฎหมายเพิ่มเติมอาชีพนวดไทยให้เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย เพื่อรักษาคุณภาพ มาตรฐาน เอกลักษณ์ และชื่อเสียงของการนวดไทย ซึ่งเปรียบเสมือนรสสัมผัสที่สามารถรับรู้ผ่านการนวดโดยฝีมือคนไทยเท่านั้น
• สธ.ขยายผลการสวดมนต์และทำสมาธิสู่ชุมชน หลังเห็นผล ช่วยโรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ ดีขึ้น
นายแพทย์ภานุวัตน์ ปานเกตุ โฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าว่า ขณะนี้ประชาชนไทยมีแนวโน้มป่วยจากโรคเอ็นซีดีหรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมากขึ้น โดยเฉพาะ 3 โรค ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจและหลอดเลือด
สบส.จึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิอุทัย สุดสุข ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ ส่งเสริมประชาชนในชุมชนที่ป่วยเรื้อรัง 3 กลุ่มโรคที่กล่าวมา ได้ปฏิบัติศาสนธรรมคือการสวดมนต์และทำสมาธิ ควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมตามหลักการของแพทย์ คือ การคุมอาหาร การออกกำลังกาย การปรับอารมณ์ และการกินยาตามแพทย์สั่ง เนื่องจากมีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พบว่าการสวดมนต์ การทำสมาธิ ทำให้จิตใจสงบ ปรับสมดุลและสารเคมีในร่างกาย ช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมอาการได้ดีขึ้น โดยนำร่องศึกษาในชุมชนของ 12 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ ลำพูน กำแพงเพชร ชลบุรี ชัยภูมิ ตรัง พังงา กาญจนบุรี ในปี 2557 พบว่าผู้ป่วยในชุมชนมีสุขภาพดีขึ้นมากถึงร้อยละ 83 ไม่เครียด ระดับน้ำตาลและความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนผู้ป่วยโรคเรื้อรังในโรงพยาบาล มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาของแพทย์ดียิ่งขึ้น
นายแพทย์ภานุวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2559 ได้ขยายผลการสวดมนต์และทำสมาธิลงสู่ชุมชน โดยร่วมกับมูลนิธิพัฒนาการสาธารณสุขมูลฐาน มูลนิธิแสงสิทธิการ มูลนิธิอุทัย สุดสุข และมูลนิธิไพจิตร ปวะบุตร จัดอบรมวิทยากรทั้ง 5 องค์กรเครือข่าย เพื่อนำไปขยายผลเข้าสู่ตำบลจัดการสุขภาพแบบบูรณาการ รวม 88 ตำบล ใน 12 เขตสุขภาพ
• รัฐบาลเชิญชวนประดับธงตราสัญลักษณ์ เฉลิมพระเกียรติ “84พรรษา” มหาราชินี
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปี 2559 เป็นปีมหามงคล รัฐบาลจัดงานเฉลิมพระเกียรติยิ่งใหญ่ 2 งาน คือ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี และงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559
โดยรัฐบาลได้กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลหลายกิจกรรม และมีกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญในโอกาสนี้ คือ การจัดสร้างพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ทรงพระราชทานชื่อพระพุทธรูปว่า พระสัมพุทธโคดม สิริกิติ์บรมราชินีนาถ จตุราศีติวรรษมงคล แปลว่า พระสัมพุทธโคดม องค์เป็นมงคล สร้างเมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในเดือนสิงหาคม 2559
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนทั่วประเทศพร้อมใจกันประดับตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมกล่าวถึงความหมายของตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า
อักษรพระนามาภิไธย ส.ก. อักษร ส.ถมสีครามเข้ม เป็นสีแห่งวันพระราชสมภพ อักษร ก.ถมสีขาว ซึ่งเป็นสีเดชของวันพระราชสมภพ อักษรพระนามาภิไธย ส.ก. อยู่ภายใต้พระมหามงกุฎสีทอง ภายใต้พระมหามงกุฎประดิษฐานพระแสงจักรตรี ว่าทรงสถิตอยู่ในพระบรมมหาราชวงศ์จักรี พระนามาภิไธย ส.ก. อยู่ภายในกรอบวัชรรัตน์ 7 ดวง ว่าทรงเจริญพระชนมายุได้ 7 รอบ มีพื้นสีมอคราม(ฟ้า) เป็นสีวันพระราชสมภพ
นอกกรอบวัชรรัตน์ อลงกรณ์ประกอบหน้าราชหงส์ทองอยู่ทั้งซ้าย-ขวา ว่าทรงงามสง่า ดังราชหงส์ทอง หน้าราชหงส์มีกระหนกแนบ ห้อยพวงดอกไม้ทิพย์ อันมีดอกไม้ในพระนามเป็นอาทิ มีพรรณมอครามปนทอง ถัดออกไปเป็นขอบเขียนอักษรสีทอง พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา (พุทธศักราช) 2559 ระบายพื้นด้วยสีหงชาด(ชมพู) อันเป็นสิริแห่งวันพระราชสมภพ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในอภิลักขิตสมัยที่ทรงเจริญพระชนมายุบรรจบครบ 84 พรรษา ดังมีเลขมหามงคลเขียนอยู่ใต้อักษรพระนามาภิไธย ประกอบเถาไม้ทิพย์ชื่อ จิตรลดา(ป.จิตฺตลตา)
จิตรลดาวัลย์นี้ ตามตำราว่าเป็นเครือเถาไม้ทิพย์มีอยู่ในจิตรลดาวัน ชื่อสวน 1 ใน 4 แห่ง ของพระอินทร์ หมายว่าสมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงเนาวนิเวศน์สถานชื่อพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน อันเป็นที่ประทับเถาว์ไม้นี้ ว่าเป็นเถาว์ไม้แห่งความหวัง ดุจดังสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นความหวังแห่งปวงชน ราษฎรพ้นจากความยากไร้ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ อันมีโครงการศิลปาชีพเป็นอาทิ อาณาประชาราษฎร์จึงน้อมใจถวายพระพรให้ทรงเจริญพระชนม์ยิ่งยืนนาน
“ในโอกาสนี้รัฐบาลขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ประชาชน ประดับธงชาติไทย คู่กับธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ทำงานตามความเหมาะสมโดยพร้อมเพรียงกัน” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 188 สิงหาคม 2559 โดย กองบรรณาธิการ)
