1. เชื่อว่า..กินอาหารล้างพิษดีต่อสุขภาพ
ประโยชน์ของการล้างพิษต่อสุขภาพนั้น มีน้อยมาก เว้นแต่ว่า คุณมีอาการท้องผูก เพราะมันอาจส่งผลเสียต่อกระบวนการย่อยอาหารตามธรรมชาติ
การบีบตัวของทางเดินอาหาร เกิดจากกล้ามเนื้อหดตัวเป็นช่วงๆเหมือนคลื่น นำพาของเสียผ่านร่างกาย และในคนส่วนใหญ่ กระบวนการนี้จะทำงานเป็นปกติ
2. เชื่อว่า..ความเครียดก่อให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร
แผลในกระเพาะอาหารเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย การทานยาแก้ปวด (แอสไพริน,ไอบูโพรเฟน) หรือโรคมะเร็ง
อาหารรสเผ็ดและความเครียด อาจทำให้อาการแผลในกระเพาะอาหารแย่ลง
3. เชื่อว่า..กาแฟแก้ท้องผูก
กาแฟมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ อาจทำให้อุจจาระแข็งขึ้นจนเคลื่อนตัวลำบาก
แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม และชาที่มีสารคาเฟอีน ก็ออกฤทธิ์ขับปัสสาวะเช่นกัน จึงอาจทำให้ท้องผูกมากขึ้น
4. เชื่อว่า..กินน้อยลงจะทำให้กระเพาะอาหารหดตัว
ในวัยผู้ใหญ่กระเพาะอาหารของคุณจะหยุดเติบโตและมีขนาดเท่าเดิม นอกจากว่า คุณผ่าตัดเพื่อให้มันเล็กลง
5. เชื่อว่า..หมากฝรั่งตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานถึง 7 ปี
ควรคายหมากฝรั่งทิ้งลงในถังขยะ แต่หากคุณเผลอกลืนมันลงท้องไป ก็ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ร่างกายของคุณจะจัดการกับมันเหมือนกับการกินแอปเปิ้ล 1 ชิ้น
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 183 มีนาคม 2559 โดย กองบรรณาธิการ)
ประโยชน์ของการล้างพิษต่อสุขภาพนั้น มีน้อยมาก เว้นแต่ว่า คุณมีอาการท้องผูก เพราะมันอาจส่งผลเสียต่อกระบวนการย่อยอาหารตามธรรมชาติ
การบีบตัวของทางเดินอาหาร เกิดจากกล้ามเนื้อหดตัวเป็นช่วงๆเหมือนคลื่น นำพาของเสียผ่านร่างกาย และในคนส่วนใหญ่ กระบวนการนี้จะทำงานเป็นปกติ
2. เชื่อว่า..ความเครียดก่อให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร
แผลในกระเพาะอาหารเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย การทานยาแก้ปวด (แอสไพริน,ไอบูโพรเฟน) หรือโรคมะเร็ง
อาหารรสเผ็ดและความเครียด อาจทำให้อาการแผลในกระเพาะอาหารแย่ลง
3. เชื่อว่า..กาแฟแก้ท้องผูก
กาแฟมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ อาจทำให้อุจจาระแข็งขึ้นจนเคลื่อนตัวลำบาก
แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม และชาที่มีสารคาเฟอีน ก็ออกฤทธิ์ขับปัสสาวะเช่นกัน จึงอาจทำให้ท้องผูกมากขึ้น
4. เชื่อว่า..กินน้อยลงจะทำให้กระเพาะอาหารหดตัว
ในวัยผู้ใหญ่กระเพาะอาหารของคุณจะหยุดเติบโตและมีขนาดเท่าเดิม นอกจากว่า คุณผ่าตัดเพื่อให้มันเล็กลง
5. เชื่อว่า..หมากฝรั่งตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานถึง 7 ปี
ควรคายหมากฝรั่งทิ้งลงในถังขยะ แต่หากคุณเผลอกลืนมันลงท้องไป ก็ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ร่างกายของคุณจะจัดการกับมันเหมือนกับการกินแอปเปิ้ล 1 ชิ้น
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 183 มีนาคม 2559 โดย กองบรรณาธิการ)