จันทบุรี - คณะกรรมการวัด จับกุมคนร้ายก่อเหตุใช้ลวดยาวปลายติดด้วยหมากฝรั่งแหย่เอาเงินในตู้รับบริจาคค่าน้ำค่าไฟ วัดดังกลางเมืองจันทบุรี ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมานำไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (31 ธ.ค.) ร.ต.อ.เฉลิมกิต นุ่มเอือม ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งจากนายสมโภช หิรัญเจริญ คณะกรรมการวัดโยธานิมิต ว่า สามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุใช้ลวดยาวปลายติดด้วยหมากฝรั่งแหย่เอาเงินในตู้รับบริจาคค่าน้ำค่าไฟได้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบ และจับกุมคนร้ายไปดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.เฉลิมกิต นุ่มเอือม ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ได้รุดไปที่วัดโยธานิมิต พบคณะกรรมการวัด และผู้นำชุมชนได้จับคนร้ายที่ก่อเหตุขโมยเงินในตู้รับบริจาคค่าน้ำค่าไฟไว้ได้ โดยได้ควบคุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุไว้ได้อยู่ภายในโบสถ์ โดยมีเงินของกลางที่คนร้ายได้ใช้ลวดยาวปลายติดด้วยหมากฝรั่งแหย่ลงไปในตู้รับบริจาคในการนำธนบัตร และเหรียญออกมาจากตู้รับบริจาค จำนวน 2,410 บาท ต่อมาทราบชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายขอนแก่น แสงวงค์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 5 ตำบลเชียงเสือ อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร
ทั้งนี้ นายขอนแก่น แสงวงค์ คนร้ายยังได้ใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า นูโว สีดำ หมายเลขทะเบียน คยล 159 ชลบุรี เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ นายขอนแก่น คนร้ายได้ลองทำวิธีการขโมยธนบัตรภายในตู้รับบริจาคให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู โดย นายขอนแก่น ได้ใช้ลวดยาวปลายติดด้วยหมากฝรั่งแหย่ลงไปในตู้รับบริจาคก่อนที่จะจิ้มไปที่ธนบัตรเพื่อให้ธนบัตรติดกับหมากฝรั่งขึ้นมา และก็สามารถหยิบธนบัตรออกมาตู้รับบริจาคได้ ซึ่ง นายขอนแก่น ให้การยอมรับว่า ต้องการเงินกลับบ้านที่จังหวัดสกลนคร ในช่วงปีใหม่
ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว นายขอนแก่น แสงวงค์ คนร้ายที่ก่อเหตุไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสมโภช หิรัญเจริญ คณะกรรมการวัดโยธานิมิต กล่าวว่า คนร้ายรายนี้ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่วัด และมานอนพักอยู่ภายในวัดเพื่อดูลาดเลาตั้งแต่เช้าแล้ว โดยมาหลายวันก่อนจะสบโอกาสที่ไม่มีคน และผู้มาทำบุญขึ้นไปบนโบสถ์ก่อนจะก่อเหตุขโมยเงินในตู้รับบริจาค ทั้งนี้ ตนเองเห็นผิดสังเกตจึงได้ให้คณะกรรมการวัด และผู้นำชุมชนได้ช่วยกันเฝ้าดู และก็พบว่า คนร้ายรายนี้ได้ก่อเหตุ และกำลังจะหนีจึงได้ช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนที่จะโทร.แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และจับกุมไปดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว