xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมะกับสุขภาพ : “โยคะ” วิถีทางแห่ง สุขภาพองค์รวม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ท่านผู้อ่านครับ โลกในปัจจุบันเป็นระบบทุนนิยม ระบบวัตถุนิยม ซึ่งผู้รู้กล่าวว่า ทุนนิยมทำให้เราเจ็บป่วย เป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เนื่องจากระบบนี้จะทำให้มีการผลิตสินค้าออกจำหน่ายหากำไรกันอย่างไม่มีขีดจำกัด ทั้ง อาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค รถยนต์ เครื่องบิน เครื่องมือเครื่องใช้ เทคโนโลยีชั้นสูงต่างๆ อาคารบ้านเรือน ฯลฯ ซึ่งทำให้มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดมลภาวะมากเกินไป จนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก และนำไปสู่ภาวะโลกร้อน

อากาศที่ร้อนมากขึ้นจะทำให้เราเสียชีวิตและเป็นโรคต่างๆตามมาได้ ผลกระทบจากโรคร้อนทำให้แผ่นดินไหว พายุพัดถล่ม น้ำท่วมสลับกับภาวะแห้งแล้ง ซึ่งเรากำลังประสบอยู่ในขณะนี้

อุตสาหกรรมอาหารพัฒนาทันสมัยขึ้นมาก มีการแปรรูปอาหารบรรจุหีบห่อสวยงาม น่ารับประทาน และมีจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน อาหารแปรรูปเหล่านี้ นักวิจัยพบว่า มีโทษต่อร่างกาย เพราะมีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วนผสม เช่น ขนมเค้ก คุกกี้ ขนมปัง น้ำอัดลม น้ำผลไม้ น้ำชาเขียว เป็นต้น อาหารเหล่านี้มีน้ำตาลมากเกินไป หากรับประทานมากๆจะเป็นสาเหตุสำคัญของโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.จอห์น ยุดกิน (John yudkin) ศาสตราจารย์ด้านสรีรวิทยาและโภชนาการ แห่งมหาวิทยาลัยลอนดอน ได้ศึกษาและเขียนไว้ในหนังสือ Pure, white and Deadly ตั้งแต่ปี 1962 โดยงานวิจัยใน 20-30 ปีต่อมาพบว่า สิ่งที่ ดร.ยุดกินพูดไว้นั้นถูกต้อง น้ำตาลคือสาเหตุสำคัญของโรคเหล่านี้!! ไม่ใช่ไขมัน (www.youtube.com/the secrets of sugar-the fifth estate-CBC News)

การใช้ไขมันทรานซ์ (Trans Fat) ใส่อาหารให้แห้ง กรอบ เป็นผงร่วน จำพวกเนยเทียม ครีมเทียม มาการีน เป็นต้น จะก่อให้เกิดโรคหัวใจ ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (USFDA) ได้ประกาศห้ามใช้ไขมันชนิดนี้ผสมอาหาร โดยผ่อนผันให้บริษัทผลิตอาหาร ค่อยๆถอนออกจากตำรับอาหารภายใน 3 ปี!! (www.fda.gov/food/final Determination Regarding Partially Hydragenated oils)

นอกจากนั้น ในโลกทุนนิยมจะมีการสะสมทรัพย์กันมากเกินจำเป็น เป็นระบบเศรษฐกิจแบบไม่รู้จักพอ ทำให้เกิดการคอรัปชั่นกันมาก เกิดปัญหาการค้ายาเสพติด การพนัน การค้าของผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ การทำลายทรัพยากร การตัดไม้ทำลายป่า การเบียดเบียนกัน ฆ่ากัน หรือฆ่าตัวตาย

ระบบแบบนี้มีการแข่งขันสูง ตำแหน่งงานน้อย คนตกงานมาก เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง ค่าครองชีพสูง ซึ่งทำให้ผู้คนต้องใช้ชีวิตด้วยความเครียดมาก คุณภาพชีวิตก็จะตกต่ำลง ขาดความสุข เข้าลักษณะโลกเจริญขึ้น แต่คนมีความสุขน้อยลง ปัญหาเหล่านี้กำลังเป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศต่างๆในโลกปัจจุบัน เช่น อินเดีย ไทย ฟิลิปินส์ อินโดนีเซีย และประเทศต่างๆในอาฟริกา

ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาความทุกข์ของคนในโลกปัจจุบันนี้ นักปราชญ์ ผู้รู้ทั้งหลาย ต่างก็แนะนำให้กลับมาใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม (Back to basic) โดยการปฏิบัติธรรมตามหลักศาสนาต่างๆ ตามที่ตนเองนับถือ ผู้เขียนขอยกตัวอย่าง สวามี บาบา รามเทพ คุรุโยคะชาวอินเดียในยุคปัจจุบัน ซึ่งรณรงค์ให้ผู้คนหันมาใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมตามหลักปรัชญาโยคะของฮินดู

สวามี รามเทพ ได้นำพาคนอินเดียฝึกโยคะ เพื่อรักษาโรคโดยวิถีธรรมชาติ กินอาหารมังสวิรัติ ฝึกบริหารกายด้วยท่าอาสนะต่างๆ ฝึกการหายใจ และฝึกสมาธิ โดยให้ใช้ชีวิตตามหลักยามะ ข้อควรงดเว้น 5 ประการ ได้แก่ อหิงสา การไม่เบียดเบียน สัตยา ความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา อัสเตยะ การไม่ลักขโมย พรหมจริยะ การสำรวมในกาม อปริครหะ การไม่โลภสะสมทรัพย์สมบัติเกินจำเป็น ได้ทรัพย์มาโดยประกอบอาชีพสุจริต

และข้อควรปฏิบัติตามหลักนิยามะ 5 ประการ คือ เศาจะ การฝึกจิตให้บริสุทธิ์จากอกุศล สันโดษ มีความพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ตบะ การพัฒนาตนเอง สวาชยายะ การศึกษาด้วยตนเอง อิศวรปณิธาน การปฏิบัติตามคำสอนของปรัชญาโยคะของฮินดู ทำให้ชาวอินเดียมีความเข้มแข็งมากขึ้น ในขณะที่ทุนนิยมกำลังรุกเข้ามาอย่างรุนแรงในอินเดีย ทำให้คนจำนวนมากทอดทิ้งวิถีชีวิตที่ดีงามแบบดั้งเดิม หันไปหาลัทธิทุนนิยม บริโภคนิยม ทำให้อินเดียกำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้

เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา สวามี รามเทพ เคยนำประชาชนเดินขบวนใหญ่ต่อต้านคอรัปชั่น ต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศในอินเดีย จนรัฐบาลต้องออกกฎหมายต่อต้านคอรัปชั่นอย่างจริงจัง และเอาจริงเอาจังกับปัญหาผิดศีลธรรมต่างๆที่เกิดขึ้น (www.youtube.com/Watch June 21 International Yoga Day Rehearsal with Baba Ramdev)

แต่ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา โยคะของอินเดียได้รับความสนใจจากชาวตะวันตกอย่างมาก มีชาวตะวันตกเดินทางมาเรียนโยคะกันอย่างมากมาย และนำกลับไปใช้ในโลกตะวันตกอย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบัน ทำให้คนทั่วโลกรู้จักศาสตร์แขนงนี้เป็นอย่างดี และมีสถานที่สอนโยคะอยู่ทั่วโลก ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างใหญ่หลวงในด้านสุขภาพกายและจิต ทำให้เกิดการพัฒนามนุษย์ในทุกๆด้าน

ขณะที่โลกกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤติต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาโลกร้อน ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงได้อย่างไร รวมทั้งโรคเรื้อรังที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตปีละ 36 ล้านคน วิถีชีวิตแบบโยคะจึงเป็นความหวังหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เพื่อสร้างมนุษย์ให้อยู่อย่างพอเพียง ไม่เบียดเบียนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กินน้อยใช้น้อย รู้จักพัฒนาจิตใจตนเองให้มีคุณธรรม

นานาชาติได้เห็นคุณประโยชน์ของโยคะว่า จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนามนุษย์ จึงได้ประกาศให้ วันที่ 21 มิถุนายน ของทุกปี เป็น “วันโยคะนานาชาติ” ซึ่งเริ่มปี 2015 เป็นปีแรก นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้กล่าวคำประกาศวันโยคะนานาชาติ โดยมีประเทศต่างๆ ให้การรับรอง 177 ประเทศ ในที่ประชุมใหญ่สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ สมัยประชุมที่ 69 เพื่อให้คนทั่วโลกเฉลิมฉลองพร้อมกันในวันนี้ ซึ่งในอินเดียมีการเฉลิมฉลองกันยิ่งใหญ่ทั่วประเทศ (www.un.org/en/events/yogaday)

นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี กล่าวว่า “โยคะเป็นมรดกอันล้ำค่าของอินเดียแต่โบราณ ซึ่งทำให้กายและจิต ความคิดและการกระทำรวมเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมดุล เป็นวิถีทางแห่งสุขภาพองค์รวม ไม่ใช่เป็นเพียงการออกกำลังกายอย่างเดียว แต่เป็นการค้นพบเอกภาพในตนเอง ในโลก และในธรรมชาติ โดยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต สร้างจิตสำนึกที่ดี ซึ่งจะช่วยเราเผชิญหน้ากับปัญหาโลกร้อนได้ ขอให้เราจงร่วมมือกัน นำมาแก้ปัญหาของโลกตั้งแต่วันโยคะนานาชาตินี้เป็นต้นไป” (www.youtube.com/PMModi leads yoga day event at Rajpath)

นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ มีสารแสดงความยินดี ในโอกาสประกาศวันโยคะนานาชาติ ความตอนหนึ่งว่า “ระหว่างที่ผมไปเยือนอินเดียในปีนี้ ก็ได้มีโอกาสฝึกโยคะกับที่ปรึกษาอาวุโสชาวอินเดีย โยคะเป็นวิถีชีวิตของคนอินเดียแต่โบราณ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก สหประชาชาติเองก็เห็นคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของโยคะ โยคะให้ประโยชน์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ เหมาะสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับ ทุกชนชั้น ผมพบด้วยตัวเองว่า ท่าแรกที่เหมาะสำหรับคนเริ่มฝึกใหม่ คือ ท่าต้นไม้ มันทำให้การทรงตัว มั่นคง สมดุลดี ผมหวังว่า ในวันโยคะนานาชาติครั้งแรกในปีนี้ เราจะได้รับประโยชน์จากการฝึกโยคะ ในด้านสุขภาพ ด้านสาธารณสุข และสันติภาพในโลกร่วมกัน” (www.youtube.com/Yoga does not discriminate,bringssatisfaction:UN Chief.)

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 176 สิงหาคม 2558 โดย นพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)
สวามี บาบา รามเทพ คุรุโยคะ ผู้นำจิตวิญญาณชาวอินเดีย ผู้รณรงค์ให้คนอินเดียทั่วประเทศหันมาฝึกโยคะ
นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียกล่าวในที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติ เนื่องในงานประกาศวันโยคะนานาชาติ
นายนเรนทรา โมดี และสวามี รามเทพ
นายบัน คี-มูน ฝึกโยคะกับที่ปรึกษาชาวอินเดีย
บัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ฝึกโยคะ ในวันโยคะโลก
นายนเรนทรา โมดี นำเจ้าหน้าที่รัฐ นักเรียนนักศึกษา และประชาชน ราว 35,000 คน ร่วมเล่นโยคะหมู่ 15 ท่า ฉลองวันโยคะโลก ที่กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย
นายนเรนทรา โมดี นำเจ้าหน้าที่รัฐ นักเรียนนักศึกษา และประชาชน ราว 35,000 คน ร่วมเล่นโยคะหมู่ 15 ท่า ฉลองวันโยคะโลก ที่กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย
นายนเรนทรา โมดี นำเจ้าหน้าที่รัฐ นักเรียนนักศึกษา และประชาชน ราว 35,000 คน ร่วมเล่นโยคะหมู่ 15 ท่า ฉลองวันโยคะโลก ที่กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย
นายนเรนทรา โมดี นำเจ้าหน้าที่รัฐ นักเรียนนักศึกษา และประชาชน ราว 35,000 คน ร่วมเล่นโยคะหมู่ 15 ท่า ฉลองวันโยคะโลก ที่กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย
โยคะปฏิวัติชีวิต “ป้าจิ๊ อัจฉราพรรณ”
โยคะปฏิวัติชีวิต “ป้าจิ๊ อัจฉราพรรณ”
“อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ” หรือ “ป้าจิ๊” ที่ใครต่อใครต่างเรียกขาน เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักดารานักแสดงมากบทบาทและความสามารถที่กวาดรางวัลมาได้ทั้ง 4 รางวัลชั้นนำของวงการ อาทิ รางวัลพระสุรัสวดี, รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์, รางวัลโทรทัศน์ทองคำและรางวัลเมขลา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่โลดแล่นอยู่ในวงการไม่น้อยกว่า 30 ปี นอกจากบทบาทงานเบื้องหน้าอันเป็นที่ประจักษ์จนสามารถกล่าวได้ว่าเป็นโลโกต้นแบบหนึ่งที่สามารถเอาเป็นเยี่ยงอย่างได้ ในเรื่องชีวิตส่วนตัวเธอยังเป็นทั้งนักเผยแผ่ธรรมะและครูสอนโยคะที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างถึงขั้น “ปรมาจารย์” คนหนึ่งของเมืองไทยอีกด้วย จากคนที่ไม่เคยออกกำลังกายจนกระทั่งอายุล่วงเลยวัย 52 ปี กระทั่งโยคะก้าวเข้ามาในชีวิตถึงวันนี้ 10 กว่าปีให้หลัง ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่เราเห็นได้อย่างชัดแจ้งคือไม่ว่าจะรูปร่างหรือผิวพรรณยังคงไม่ต่างเหมือนวันวานก่อนหน้า แต่ทว่าที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ “ภายใน” เรื่องของจิตใจ ที่เดินทางนำไปสู่เรื่องราวทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น