ข่าวสารผ่านโลก

• กินเนสส์บุ๊คบันทึกพิพิธภัณฑ์จีน จัดนิทรรศการ “ทังก้า” ใหญ่สุดในโลก
จีน : เมื่อเดือนมิถุนายน 2015 มีพิธีเฉลิมฉลองการเปิด Shambhala Kalachakra Altar (แท่นบูชาชัมบาลา หรือศัมภลา กาลจักร) พิพิธภัณฑ์และศูนย์จัดแสดงนิทรรศการในพุทธศาสนาแบบทิเบต ตั้งอยู่ในแชงกรีลา มณฑลยูนนาน ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ในงานนี้ได้มีการจัดแสดงภาพวาดทังก้าจำนวนมากที่สุด โดยหนังสือบันทึกสถิติโลก กินเนสส์บุ๊ค ได้บันทึกและมอบหนังสือรับรองว่า เป็นการจัดแสดงนิทรรศการใหญ่ที่สุดในโลกของภาพวาดทังก้า

พิพิธภัณฑ์ดังกล่าว เป็นตึกสูง 12 ชั้น ใช้เวลา 10 ปี และเงินราว 3,000 ล้านบาท ในการก่อสร้างและเก็บรวบรวมโบราณวัตถุ อาทิ พระพุทธรูปสูง 21 เมตร ภาพแขวนทังก้า 1,699 ชิ้น และโบราณวัตถุอื่นๆราว 2,000 ชิ้น

ไฮไลท์ของนิทรรศการอยู่ที่ภาพแขวนทังก้าที่มีราคาแพงที่สุด ขนาดสูง 8 เมตร กว้าง 14 เมตร แสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์พุทธศาสนาแบบทิเบต ซึ่งบรรดาช่างฝีมือชาวทิเบตได้ใช้เทคนิคโบราณ หลอมทองคำหนัก 15 กก. นำมาใช้วาดภาพ

อนึ่ง ภาพทังก้าเปรียบเสมือนสารานุกรมของวัฒนธรรมทิเบต ซึ่งภาพที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการนี้ ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของพุทธศิลป์ แต่ยังแสดงถึงวิถีชีวิตของชาวทิเบตอีกด้วย

(จาก Xinhua)

• รัฐบาลพม่าสั่งระงับชั่วคราวโปรเจกต์ คอมเพล็กซ์รอบเจดีย์ชเวดากอง
พม่า : เมื่อเดือนกรกฎาคม 2015 รัฐบาลพม่ามีคำสั่งล่าสุด ให้ระงับการก่อสร้างชั่วคราวโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 5 แห่งที่รายล้อมเจดีย์ชเวดากอง อันเป็นพุทธสถานสำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ ซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงกัน

เนื่องจากมีผู้คัดค้านจำนวนมาก นำโดยบรรดาพระสงฆ์ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และประชาชน ซึ่งกังวลว่าการก่อสร้างดังกล่าวอาจสร้างความเสียหาย และเป็นการดูหมิ่นต่อองค์เจดีย์ อันเป็นมรดกวัฒนธรรมโบราณ จึงเรียกร้องรัฐบาลให้ลดขนาดโครงการลง มิฉะนั้น พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศจะออกมาชุมนุมต่อต้านอย่างแน่นอน

โดยคณะกรรมการการลงทุนแห่งชาติและกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า จะเจรจาหารือกับกลุ่มผู้ลงทุนในโครงการดังกล่าว เพื่อให้แน่ใจว่า จะไม่มีความเสียหายใดๆเกิดขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อเดือนมกราคม 2015 รัฐบาลได้สั่งหยุดการก่อสร้างโครงการดังกล่าวนาน 1 เดือน เนื่องจากมีการร้องเรียนเรื่องความสูงของสิ่งก่อสร้างที่อยู่ใกล้เจดีย์ชเวดากองเกินไป โดยเฉพาะหนึ่งในโครงการนั้น คือ Dagon City One ที่เตรียมพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมหรูหลายร้อยยูนิต อาคารสำนักงานเกรดเอ และศูนย์การค้า บนเนื้อที่ราว 55 ไร่ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งภายหลังรัฐบาลได้อนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไป

(จาก Reuters)

• อินเดียขุดพบพระพุทธรูปวัชรยาน
อินเดีย : เมื่อเร็วๆนี้ ศูนย์วัฒนธรรมเมืองวิชยวาท รัฐอานธรประเทศ ของอินเดีย ได้ทำการสำรวจซากปรักหักพังทางโบราณคดี พื้นที่ประวัติศาสตร์ รวมทั้งอนุสรณ์สถานต่างๆ และได้ค้นพบพระพุทธรูปหินแกรนิตปางภูมิผัสส มุทรา (ปางมารวิชัย) หรือที่เรียกกันว่า “พระอักโษภยพุทธะ” ภายในหมู่บ้านไวคันธปุรัม เมืองอมราวดี เขตคันทุระ แสดงให้เห็นถึงการลงหลักปักฐานของพุทธศาสนาฝ่ายวัชรยานในรัฐอานธรประเทศ

ก่อนหน้านั้นพระพุทธรูปดังกล่าวถูกพบบริเวณริมฝั่งแม่น้ำกฤษณา เมื่อชาวบ้านรู้ว่าเป็นพระพุทธรูปโบราณ จึงช่วยกันนำมาประดิษฐานภายในหมู่บ้าน

ศีวนาคี เรดดี้ ผู้บริหารสูงสุดของศูนย์วัฒนธรรมฯ ซึ่งนำทีมสำรวจ ได้ชี้ให้เห็นถึงการปรากฏขึ้นของพุทธศาสนาอย่างแพร่หลายตลอดฝั่งขวาของแม่น้ำกฤษณา และบริเวณเนินเขาของหมู่บ้านไวคันธปุรัม

“พื้นที่ทั้งหมดเต็มไปด้วยเศษหม้อแตกสีดำและภาชนะสีแดง ในยุคจักรวรรดิสาตวาหนะ (คริตส์ศตวรรษที่1-2) ซึ่งการพบพระพุทธรูปดังกล่าว เป็นการยืนยันว่า หมู่บ้านไวคันธปุรัมเคยเป็นศูนย์พุทธศาสนาฝ่ายวัชรยานมานานจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 9”

(จาก Thehindu.com)

• จีนพบคัมภีร์พระสูตรโบราณฉบับสมบูรณ์
จีน : เมื่อเร็วๆนี้ มีการค้นพบคัมภีร์พุทธศักดิ์สิทธิ์โบราณ “สัทธรรมปุณฑริกสูตร” หรือ “พระสูตรบัวขาว” ซึ่งเป็นหนึ่งในพระสูตรสำคัญของพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ใกล้วัดยันจู เขตฝางชาน ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

คัมภีร์ดังกล่าวบันทึกด้วยภาษาจีน ซึ่งได้รับการแปลในยุคแรกๆ ถือเป็นเล่มที่สมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา เนื่องจากคัมภีร์เล่มอื่นๆที่พบในเมืองตุนหวงและส่วนอื่นๆของประเทศ ส่วนใหญ่ขาดความสมบูรณ์

สัทธรรมปุณฑริกสูตร มีเนื้อหาหลักเรื่องการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข อันเป็นธรรมะขั้นสูงสุดในพุทธศาสนา ซึ่ง หลัวเซา นักวิจัยแห่งสถาบันสังคมศาสตร์ด้านศาสนาและลัทธิความเชื่อ กล่าวว่า “สัทธรรมปุณฑริกสูตรเข้ามาเผยแผ่ในจีน ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3 และนี่เป็นครั้งแรกที่เราพบเล่มที่สมบูรณ์ ที่ย้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของพระสูตรดังกล่าวที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์จีน

(จาก CCTV.com)

• “ดวงอาทิตย์ส่องประกายเหนือยอดเขาฟูจิ” สุดยอดผลงานภาพถ่ายฝีมือพระญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น : โชชิน ชินบายาชิ ภิกษุญี่ปุ่นที่มีผลงานภาพถ่ายภูเขาไฟฟูจิเป็นที่รู้จักกันดีนั้น เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ถ่ายภาพปรากฏการณ์อันน่าประทับใจ ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังขึ้นหรือตก สาดส่องแสงเป็นประกายเหนือยอดภูเขาไฟฟูจิ ดูงดงามราวกับเพชรที่ส่องประกายแวววาว ซึ่งเรียกว่า “Diamond Fuji”

โชชิน ชินบายาชิ เจ้าอาวาสวัย 46 ปี ของวัดแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เมืองเทนริ ได้ถ่ายวิดีโอและภาพภูเขาไฟฟูจิ เมื่อเวลา 4.40 น. เช้ามืดของวันที่ 4 มิถุนายน 2015 จากจุดที่อยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 277 กม.มองเห็นประกายแสงสีขาวแวววาวของดวงอาทิตย์ที่กำลังโผล่เหนือยอดภูเขาไฟ ซึ่งดูราวกับเพชรเม็ดงาม

“อาตมาได้ถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิจากระยะไกลตามจุดต่างๆ เกือบ 30 ภาพแล้ว แต่ไม่มีภาพใดที่น่าประทับใจเท่าครั้งนี้” พระชินบายาชิ กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อเดือนกันยายน 2014 ภิกษุหนุ่มได้ถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิในช่วงเช้าตรู่ จากสันเขาแห่งหนึ่งในเมืองเกียวโตที่อยู่ห่างออกไป 261 กม. เป็นการตอกย้ำความเชื่อที่ว่า เกียวโตซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นนั้น อยู่ห่างจากภูเขาไฟฟูจิไปทางสุดแดนตะวันตก

ผลงานท้าทายชิ้นต่อไปของพระชินบายาชิ คือ การถ่ายภาพ “Diamond Fuji” จากยอดเขาบัสโชงาทาเกะ ในจังหวัดนารา ซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาไฟฟูจิ 292 กม. “นั่นเป็นจุดที่ไกลที่สุดเพื่อถ่ายภาพฟูเขาไฟฟูจิ อาตมาอยากถ่ายภาพ Diamond Fuji ที่สมบูรณ์แบบที่สุดจากจุดนั้นสักวันหนึ่ง” พระชินบายาชิ กล่าว

อนึ่ง ภูเขาไฟฟูจิ มีความสูง 3,776 เมตร เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2013

(จาก The Asahi Shimbun)

• จีนขุดพบสวนพุทธโบราณอายุ 1,200 ปี
จีน : เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2015 ทีมนักโบราณคดีจีนได้ขุดพบสวนพุทธโบราณสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907) อายุกว่า 1,200 ปี ใกล้พื้นที่ก่อสร้างบริเวณใจกลางเมืองเฉิงตู อันเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน

ยิ ลี้ หัวหน้าทีมสำรวจเผยว่า สวนพุทธดังกล่าวมีเนื้อที่ 2,500 ตารางเมตร ประกอบด้วยคลองยาว 90 เมตร และสระน้ำ 1 แห่ง คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์ที่สร้างขึ้นติดกับวัดแห่งหนึ่งในยุคนั้น โดยในยุคราชวงศ์ชิงได้พบรูปปั้นทางพุทธศาสนาหลายชิ้นใกล้วัดดังกล่าว

นอกจากสวนพุทธแล้ว ยังขุดพบเครื่องปั้นดินเผาและพระพุทธรูปหินแกะสลักจำนวนหนึ่ง ตอนแรกนักโบราณคดีคาดว่า สวนดังกล่าวอาจเป็นส่วนหนึ่งของราชสำนัก วัด หรือบ้านพักส่วนตัว ในสมัยราชวงศ์ถัง แต่เมื่อดูจากซากเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นงานธรรมดาๆ จึงสรุปได้ว่า เป็นสวนที่อยู่ภายในบริเวณวัด มากกว่าจะอยู่ในราชสำนักหรือบ้านพัก ซึ่งนิยมใช้เครื่องปั้นดินเผาที่มีความประณีตมากกว่า

(จาก Xinhua)

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 176 สิงหาคม 2558 โดย เภตรา)