xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวสารผ่านโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ญี่ปุ่น : โจรชุกชุม..วัดญี่ปุ่นแห่นำพระพุทธรูปสำคัญ ฝากพิพิธภัณฑ์ เพื่อกันขโมย
โจรชุกชุม..วัดญี่ปุ่นแห่นำพระพุทธรูปสำคัญ ฝากพิพิธภัณฑ์ เพื่อกันขโมย
ญี่ปุ่น : วัดเซไทจิ เมืองโกทสึ จังหวัดชิมะเนะ ประเทศญี่ปุ่น ได้นำรูปจำลองกระดาษ 3 มิติ ของรูปปั้นพระอมิตาภพุทธะ มาประดิษฐานแทนองค์จริง เพื่อป้องกันการโจรกรรมที่เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ที่มีประชากรอยู่อาศัยน้อยลง

“อาตมาไม่มีทางเลือกอื่น ที่ต้องทำเช่นนี้เพื่อป้องกันพระพุทธรูปถูกขโมย แต่ประชาชนยังสามารถมากราบไหว้ได้ แม้ว่าจะเป็นรูปจำลองก็ตาม” พระชิเซน อิโนะชิตะ เจ้าอาวาสวัดเซไทจิ วัย 70 ปี กล่าว

วัดเซไทจิมิใช่เป็นเพียงวัดเดียวที่นำมาตรการพิเศษมาใช้ในช่วงเวลาที่สถิติประชากรในญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลง และโจรชุกชุมมากขึ้น โดยรายงานของหน่วยงานด้านวัฒนธรรมระบุว่า มีทรัพย์สินทางวัฒนธรรมอย่างน้อย 105 ชิ้น ถูกโจรกรรมจากพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยบางตา ระหว่างปีค.ศ. 2007-2009

โดยประชากรของเมืองโกทสึได้ลดจำนวนลง วัดเซไทจิจึงแทบกลายเป็นวัดร้างมานานกว่า 30 ปีแล้ว ทางวัดจึงตัดสินใจนำรูปปั้นพระอมิตาภพุทธะองค์จริง ขนาดสูง 90 ซม. อายุราว 600-700 ปี และได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติจังหวัด ไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ชิมะเนะ เมืองอิซุโมะ ตั้งแต่ปีค.ศ. 2014 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีกว่าที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์ชิมะเนะได้รับฝากพระพุทธรูปจากวัดต่างๆ ที่ไม่สามารถเก็บรักษาไว้เองได้ เนื่องจากประชากรลดน้อยลงและเต็มไปด้วยผู้สูงวัย และตั้งแต่ปีค.ศ. 1995 เป็นต้นมา วัดต่างๆและชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ ได้นำพระพุทธรูปสำคัญ 164 องค์ ไปฝากรักษาหรือบริจาคยังพิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆที่เป็นของรัฐ

เคนซุเกะ เนดาชิ ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ประติมากรรมญี่ปุ่น แห่งมหาวิทยาลัยเกียวโต กล่าวว่า “วิธีแก้ปัญหาอย่างหนึ่งคือ การจัดหาสถานที่เก็บรักษาพระพุทธรูปเป็นการชั่วคราว และต้องสร้างระบบป้องกันในชุมชน ด้วยการให้คนที่เกษียณอายุและอาสาสมัครช่วยกันสอดส่องดูแลภายในวัด”

(จาก The Asahi Shimbun)

อินเดียระดมสมองปกป้อง “ถ้ำอชันตาแห่งเทือกเขาหิมาลัย”
อินเดีย : วัดทาโบที่ตั้งอยู่ในหุบเขาสปิติ-ลาฮอร์ รัฐหิมาจัลประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดีย เป็นที่รู้จักกันดีว่าคือ “ถ้ำอชันตาแห่งเทือกเขาหิมาลัย” ซึ่งได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานหลายศตวรรษ แต่ปัจจุบันกำลังพ่ายแพ้ต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รัฐบาลท้องถิ่นจึงได้วางแผนระดมสมองเพื่อหาหนทางปกป้อง

วัดทาโบสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 996 ประกอบด้วยวิหาร 9 แห่ง สถูป 4 องค์ แท่นบูชาในถ้ำ และตำราเขียนด้วยลายมือจำนวนมาก อยู่ภายใต้การดูแลของกองสำรวจทางโบราณคดีแห่งอินเดีย (ASI)

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โครงสร้างของวัดที่ทำด้วยดินโคลน และภาพวาดพุทธศิลป์บนผนัง กำลังตกอยู่ในอันตราย เนื่องจากฝนและความชื้นที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการบูรณปฏิสังขรณ์โดย ASI ซ้ำๆหลายครั้งซึ่งส่งผลเสียต่อโครงสร้าง รัฐบาลท้องถิ่นจึงร่วมมือกับ ASI เตรียมจัดสัมมนาที่วัดทาโบ เพื่อหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ ในการอนุรักษ์วัดแห่งนี้ให้อยู่ในสภาพดี

นอกจากนี้ เรื่องที่น่าห่วงคือ มีสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นทั้งภายในและรอบวัด ซึ่งควรมีการควบคุมให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เนื่องจากวัดทาโบมีชื่อเสียงด้านพุทธศึกษา และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาด้วย

(จาก Hindunstan Times)

คืนชีพ “หลวงพ่อโตแห่งบามิยัน”
อัฟกานิสถาน : ชาวจังหวัดบามิยัน ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศอัฟกานิสถาน พากันส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจเมื่อมีโอกาสได้เห็นพระพุทธรูปยืนที่สูงที่สุดในโลกปรากฏขึ้นอีกครั้ง หลังจากสามีภรรยาชาวจีนคู่หนึ่ง คือ จางซินอวี๋และเหลียงหง ได้ทุ่มเงินราว 3.3 ล้านบาท ใช้เทคโนโลยีการฉายภาพสามมิติ หรือโฮโลแกรม เพื่อฉายภาพ “พระพุทธรูปแห่งบามิยัน” พระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ 1 ใน 2 องค์ เป็นภาพสามมิติสีทองอร่าม บนหน้าผาสูงในหุบเขาบามิยัน เพื่อเตือนใจชาวบามิยันให้ตระหนักถึงมรดกวัฒนธรรมที่ประเมินค่ามิได้ และอารยธรรมอันสูงส่งที่พวกเขาเคยมี

หลังสิ้นสุดภารกิจ พวกเขาได้บริจาคอุปกรณ์การฉายภาพให้แก่หน่วยงานท้องถิ่น เพื่อใช้ในการจัดฉายภาพดังกล่าวในเดือนมีนาคมของทุกปี

อนึ่ง ในเดือนมีนาคม 2001 รัฐบาลตอลิบานในยุคนั้น ได้ระเบิดทำลายพระพุทธรูปแห่งบามิยันทั้งสององค์ ท่ามกลางเสียงประณามอย่างรุนแรงจากนานาประเทศ ต่อมาองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนพระพุทธรูปแห่งบามิยันเป็นมรดกโลกในปี 2003

(จาก Xinhua)

ญี่ปุ่นสร้างอัฐิสถานแนวไซไฟ เลียนแบบโลกอนาคต
ญี่ปุ่น : ปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาอัตราการเกิดของประชากรที่ลดลง เข้าสู่ยุคประชากรสูงวัยอย่างเต็มตัว จึงเกิดอัฐิสถานแนวแฟนตาซี ที่ดูราวกับจำลองฉากในภาพยนตร์ไซไฟมาตั้งไว้ภายในวัด

อัฐิสถานภายในวัดโกโกกุจิ แขวงชินจุกุ เมืองโตเกียว เป็นหนึ่งในอัฐิสถานหลายแห่งในประเทศ ที่นำเสนอรูปแบบโลกแห่งอนาคตบนผนังซึ่งแบ่งเป็นช่องเก็บอัฐิ 2,046 ช่อง ด้านหน้าแต่ละช่องเป็นรูปพระพุทธรูปขนาดเล็กแกะสลักจากแก้ว ภายในบรรจุอุปกรณ์ LED ที่จะเปล่งแสงต่างๆ อาทิ แดง น้ำเงิน เหลือง ม่วง และขาว เมื่อผู้เข้าเยี่ยมนำการ์ดอิเล็กทรอนิกส์โบกเหนือแท่นปักธูป แสงจากพระพุทธรูปจะกระพริบที่ช่องซึ่งมีรหัสตรงกับการ์ดนั้น

พระไตจุน ยาจิมะ เจ้าอาวาสวัดโกโกกุจิ กล่าวว่า คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็สามารถจองช่องเก็บอัฐิให้ตัวเองล่วงหน้าได้ โดยคนกลุ่มใหญ่สุดที่มาจองนั้นอยู่ในวัย 50-70 ปี ซึ่งบางคนเลือกที่จะแยกเก็บอัฐิตนเองโดยลำพัง ไม่รวมกับคู่ครอง

ทั้งนี้ มีคนจำนวนมากต้องการเก็บอัฐิบุคคลอันเป็นที่รักไว้ภายในอัฐิสถาน มากกว่าที่จะนำไปฝังในสุสาน ซึ่งยุ่งยากในการดูแลรักษา

(จาก The Asahi Shimbun)

จีนทุ่ม 300 ล้าน ใช้เวลา 7 ปี บูรณปฏิสังขรณ์ รูปแกะสลักหินพระโพธิสัตว์กวนอิม 1,000 มือ
จีน : จีนได้จัดพิธีเฉลิมฉลองเสร็จสิ้นการบูรณปฏิสังขรณ์รูปแกะสลักหินพระโพธิสัตว์กวนอิม 1,000 มือ ซึ่งมีชื่อเสียง โดยใช้เวลา 7 ปี สิ้นค่าใช้จ่ายราว 60 ล้านหยวน (กว่า 300 ล้านบาท)

โครงการบูรณปฏิสังขรณ์เริ่มต้นในปีค.ศ. 2008 มีการซ่อมแซม 830 พระหัตถ์ และชิ้นส่วนต่างๆ 227 ชิ้น ปิดด้วยทองคำเปลว 1 ล้านแผ่น

“ซาน ชางฟา” นักวิจัยแห่งสถาบันศึกษามรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ผู้ดูแลโครงการนี้เผยว่า คาดว่าจะช่วยให้รูปแกะสลักยังคงเปล่งประกายความงามได้นานถึง 50 ปีเป็นอย่างน้อย

รูปแกะสลักหินพระโพธิสัตว์กวนอิม 1,000 มือ มีอายุราว 800 ปี สูง 7.7 เมตร กว้าง 12.5 เมตร แกะสลักบนหน้าผาสูงของภูเขาเบาดิง อำเภอต้าจู๋ เขตนครฉงชิ่ง ในยุคราชวงค์ซ่งใต้ (ค.ศ. 1127-1279)

หลายร้อยปีที่ผ่านมา รูปแกะสลักพระโพธิสัตว์กวนอิม 1,000 มือ เริ่มทรุดโทรมลง สีจืดจาง ทองคำเปลวหลุดลอก และมีรอยร้าวทั่วองค์ ทั้งนี้ ได้เคยมีการบูรณะมาแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง ล่าสุดถือเป็นโครงการบูรณะครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

(จาก Xinhua)

ที่ประชุมสุดยอดชาวพุทธโลก ถวายพระราชสมัญญานาม “พระศรีโลกธรรมิกราชา” แด่กษัตริยกัมพูชา
กัมพูชา : เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2015 รัฐบาลกัมพูชาได้จัดพิธีเฉลิมฉลองพระราชสมัญญานามทางพุทธศาสนาของพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี กษัตริย์องค์ปัจจุบัน ว่า “พระศรีโลกธรรมิกราชา” อันมีความหมายว่า “กษัตริย์ผู้ทรงศีลที่ทรงเผยแผ่พุทธศาสนาไปทั่วโลก” ซึ่งทรงได้รับการทูลเกล้าถวายอย่างเป็นเอกฉันท์ในที่ประชุมสุดยอดชาวพุทธโลก ครั้งที่ 6 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2014

ในพระราชพิธีดังกล่าว มีขบวนแห่ราชรถที่อัญเชิญใบประกาศพระราชสมัญญานาม โดยมีพระสงฆ์ แม่ชี ข้าราชการ ประชาชน และนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และมองโกเลีย ร่วมในขบวนนับหมื่นคน ขณะที่เจ้านโรดม สีหมุนี ได้ตรัสถึงศาสนาพุทธว่า “เป็นหนทางที่ดีพร้อมสำหรับพวกเราในการนำไปใช้ดำเนินชีวิต”

ซอย โบตัม ชาวจังหวัดกัมปงชัม ที่เข้าร่วมในพิธีกล่าวว่า เจ้านโรดม สีหมุนี ทรงดำเนินรอยตามพระพุทธศาสนา ช่วยเหลือราษฎรในชนบท “ทั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ ผมเห็นพระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ที่ทรงงานหนักเพื่อประชาชน”

พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี เสด็จขึ้นครองราชย์ ค.ศ. 2004 พระองค์ทรงอยู่เหนือการเมือง และทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านศาสนาและราชประเพณี รวมถึงการเสด็จเยี่ยมราษฎรในจังหวัดต่างๆ และเสด็จเยือนต่างประเทศเป็นครั้งคราว

(จาก VOA Khmer)

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 175 กรกฎาคม 2558 โดย เภตรา)
อินเดีย : ระดมสมองปกป้อง “ถ้ำอชันตาแห่งเทือกเขาหิมาลัย”
อินเดีย : ระดมสมองปกป้อง “ถ้ำอชันตาแห่งเทือกเขาหิมาลัย”
อัฟกานิสถาน : คืนชีพ “หลวงพ่อโตแห่งบามิยัน”
ญี่ปุ่น : สร้างอัฐิสถานแนวไซไฟ เลียนแบบโลกอนาคต
จีน : ทุ่ม 300 ล้าน ใช้เวลา 7 ปี บูรณปฏิสังขรณ์ รูปแกะสลักหินพระโพธิสัตว์กวนอิม 1,000 มือ
กัมพูชา : ที่ประชุมสุดยอดชาวพุทธโลก ถวายพระราชสมัญญานาม “พระศรีโลกธรรมิกราชา” แด่กษัตริยกัมพูชา
กัมพูชา : ที่ประชุมสุดยอดชาวพุทธโลก ถวายพระราชสมัญญานาม “พระศรีโลกธรรมิกราชา” แด่กษัตริยกัมพูชา
กำลังโหลดความคิดเห็น