ใส่ใจสุขภาพ : อาการอย่างนี้ชี้ชัด..ตับป่วย

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับตับ ไม่ใช่เรื่องจิ๊บๆ แต่เป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ธรรมดา เพราะตับเกี่ยวข้องกับระบบการทำงานในร่างกายมากกว่า 200 ชนิด โรคใดๆที่รบกวนการทำงานสำคัญๆของตับ ก็จะส่งผลกระทบไปยังส่วนต่างๆของร่างกายด้วย

แต่อาการของโรคตับอาจคล้ายคลึงกับโรคอื่นๆ ดังนั้น คุณจึงต้องใส่ใจกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เช่น ผิวหนัง ความอยากอาหาร การขับถ่าย และรูปร่างหน้าตา ดังนี้

1. สีผิวเปลี่ยนเป็นเหลือง
อาการที่เห็นเด่นชัดของคนเป็นโรคตับแข็ง คือ การเปลี่ยนแปลงของสีผิว มีอาการดีซ่าน คือ ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มกว่าปกติ เช่นเดียวกับภาวะตับอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง

2. เบื่ออาหาร
อาการเบื่ออาหาร คือหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของภาวะตับทำงานล้มเหลว ซึ่งโดยทั่วไป ถือเป็นอาการเตือนล่วงหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้คนไข้มีน้ำหนักตัวลดลง บางรายอาจมีอาการโลหิตจาง และคลื่นเหียนอาเจียนเป็นพักๆร่วมด้วย

3. สีอุจจาระอ่อนกว่าปกติ
สังเกตดูการเปลี่ยนแปลงของสีอุจจาระ หากตับมีปัญหา มักส่งผลให้สีของอุจจาระเปลี่ยนไปด้วย อาจมีสีอ่อนกว่าปกติ ซึ่งบ่งบอกถึงภาวะตับผิดปกติในขั้นแรก

4. ท้องบวม
อาการทางร่างกายอีกอย่างหนึ่งที่แสดงว่าตับทำงานผิดปกติ คือ ท้องบวมหรือท้องมาน คนไข้จะรู้สึกถึงอาการปูดบวมบริเวณชายโครงด้านขวา และมีอาการเจ็บร่วมด้วย ซึ่งอาจส่งผลข้างเคียงไปกดทับกะบังลม ทำให้หายใจลำบาก

5. เล็บมือผิดปกติ
เล็บมือซีด มีสีเหลือง หรือสีขาวมากๆ อาจชี้ให้เห็นถึงภาวะผิดปกติของตับ ซึ่งเล็บมือของคนไข้บางรายอาจโค้ง และนิ้วมือดูคล้ายกระบอง

• คำแนะนำ
หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อย ซึ่งทำให้ตับทำงานผิดปกติ คือ การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์และไม่เป็นเวลา รวมถึงการรับประทานของทอด ของมัน หรืออาหารที่ขายริมถนน มากเกินไป อาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อตับได้เช่นกัน

การรักษาด้วยสมุนไพรหรือตำรายาแผนโบราณ อาจเป็นทางเลือกที่ให้ประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงรักษาโรคตับให้หายขาด แต่ยังช่วยฟื้นฟูตับให้คืนสู่สภาพปกติและสมบูรณ์ได้

• คำเตือน
- ใส่ใจต่ออาการเบื้องต้นต่างๆที่ชี้ว่า ตับทำงานผิดปกติ
- อย่าเพิกเฉยต่อสภาพอารมณ์ที่แปรปรวน หรืออาการปวดศีรษะเฉียบพลัน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยเบื้องต้นว่า ตับกำลังมีปัญหา

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 171 มีนาคม 2558 โดย เบญญา)