เอเอฟพี - กระแสหวาดกลัวเชื้อโรคปนเปื้อนในอาหารลุกลามในแดนจิงโจ้อีกครั้ง เมื่อมีชาวออสเตรเลีย 9 รายล้มป่วยด้วยโรคไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A) หลังรับประทานผลเบอร์รีแช่แข็งที่นำเข้าจากจีน
บริษัท แพตตีส์ ฟูดส์ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้าได้แถลงขออภัยวันนี้ (17 ก.พ.) พร้อมประกาศเรียกคืนผลิตภัณฑ์ 4 ชนิด รวมถึงมิกซ์เบอร์รียี่ห้อครีเอทีฟ กูร์เมต์ (Creative Gourmet) และราสป์เบอร์รียี่ห้อนานนาส์ (Nanna’s) หลังจากพบผู้บริโภคล้มป่วยในรัฐวิกตอเรีย ควีนส์แลนด์ และนิวเซาท์เวลส์
ผลไม้แช่แข็งซึ่งแบ่งบรรจุในจีนเหล่านี้ถูกกระจายออกไปจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำทั่วออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อตับอักเสบเอทุกรายล้วนเกิดจากการรับประทานผลเบอร์รีแช่แข็งยี่ห้อนานนาส์ ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ถูกเรียกคืนเพียงเพื่อป้องกันความเสี่ยง
โรสแมรี เลสเตอร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรียซึ่งเป็นรัฐที่พบผู้ป่วย 3 ราย ระบุว่า “การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอพบได้ไม่บ่อยนัก และผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะเคยเดินทางไปยังประเทศที่ไวรัสแพร่ระบาดอยู่... อย่างไรก็ตาม จุดเชื่อมโยงระหว่างกรณีการติดเชื้อครั้งนี้มีเพียงผลิตภัณฑ์เบอร์รีแช่แข็ง ไม่ได้เกิดจากการเดินทางไปต่างประเทศ หรือรับประทานอาหารจากภัตตาคารที่มีการปนเปื้อน”
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ไวรัสในผลเบอร์รีอาจมีต้นตอมาจากสุขอนามัยที่ไม่ดีของแรงงานชาวจีน หรือไม่ก็ปนเปื้อนมากับน้ำประปาในจีน
“ในสถานการณ์เช่นนี้ ต้นเหตุน่าจะอยู่ที่ความสะอาดของแหล่งผลิตสินค้า” เอ็นโซ ปาลอมโบ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหารจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสวินเบิร์นกล่าว
“ไวรัสตับอักเสบเอจะติดต่อผ่านเส้นทางที่เรียกว่า ‘อุจจาระ-ช่องปาก’ ไวรัสจะปนเปื้อนมากับอุจจาระของผู้ป่วย จากนั้นจึงแพร่กระจายต่อไปในอาหารหรือน้ำ... อาจเป็นเพราะคนงานจีนไม่ได้ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสผลเบอร์รี หรือมาจากน้ำประปาที่ใช้ล้างผลเบอร์รีก็เป็นได้”
ไวรัสตับอักเสบเอจะส่งผลทำลายตับ ทำให้มีอาการปวดในช่องท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย และดีซ่าน เชื้อมีระยะเวลาฟักตัวนานสุด 50 วัน