เราทุกคนล้วนมีเวลาจำกัด ไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่ตาย ที่สำคัญมนุษย์ไม่ได้มีอายุยืนยาวหมื่นปี เหมือนวลีที่ดาราหนังจีนย้อนยุคชอบกล่าวอวยพรให้จักรพรรดิของตน ฉะนั้น มีอะไรที่เป็นภาระหน้าที่ เราต้องรีบทำ รีบเคลียร์ รีบสะสาง
หลายคนที่มีงานเยอะ มีงานให้ทำมากมายอยู่ตลอดเวลา กระทั่งเลือกตอบสนองไม่ถูกว่า ตนเองจะทำสิ่งใด หรือปฏิเสธงานไหน ลองฟังทัศนะของ “สตีฟจ๊อบส์” อดีตซีอีโอผู้ยิ่งใหญ่ของแอปเปิล ผู้รังสรรค์นวัตกรรมพลิกโลก และนำพาบริษัทมุ่งสู่เป้าหมายได้สำเร็จ จ๊อบส์กล่าวไว้ว่า
“การตัดสินใจว่าไม่ทำ คือการเลือกว่า ‘เราจักทำ’ นั่นหมายถึง ต้องปฏิเสธสิ่งที่ไม่ใช่เป้าหมายแท้จริงออกไป เพื่อทุ่มเทแรงกายแรงใจและพลังความคิดทั้งหมด เล็งโฟกัสมาที่สิ่งเดียวคือ เรื่องที่เราต้องการทำ”
ประโยคนี้ของจ๊อบส์ แปลความอีกทีก็คือ การตัดส่วนเกินที่ไม่ใช่ทิ้งไป เพื่อคงไว้แต่สิ่งที่ใช่เท่านั้น
ลองนึกถึงแสงแดดที่สาดส่องลงมาตามปกติทุกวัน แม้จะส่องลงมาบนแผ่นกระดาษ แต่ก็หาได้มีปฏิกิริยาใดเกิดขึ้นกับแผ่นกระดาษที่วางอยู่ไม่ แต่หากนำ “แว่นขยาย” มาทำหน้าที่รวมแสงแดดเข้ามาเป็นจุดเดียว(จุดโฟกัส) แสงแดดก็จะมีความเข้มข้นมากพอที่จะเผากระดาษให้ลุกไหม้ได้
และหากเปรียบกับการยิงธนู ถ้ามัวแต่มองไปยังที่อื่นซึ่งไม่ใช่เป้า ก็ไม่มีทางที่จะยิงถูกเป้าได้เลย แน่นอนว่าแรกสุดเราต้องเรียนรู้วิธียิงธนูก่อน จากนั้นเมื่อถึงขั้นตอนปฏิบัติ เราก็ต้องรวบรวมสมาธิ แล้วเล็งมาที่เป้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เช่นเดียวกับการนำพาตนเองเข้าสู่เป้าหมาย เราก็ต้องแกะสกัดส่วนเกินที่ไม่ใช่เป้าหมายทิ้งไป แล้วรวบรวมสมาธิ มีจิตจดจ่ออยู่กับเป้าหมายที่ต้องการ ดังเรื่องราวที่เล่าขานกันมาว่า...
กาลครั้งนั้นนานมาแล้ว เกิดเรื่องร่ำลือกันว่า มีลุงช่างแกะสลักไม้คนหนึ่ง แกะสลักช้างได้สุดยอด เรียกว่ายอดเยี่ยมถึงขนาดใครก็ตาม ที่เห็นงานแกะสลักช้างของแกแล้ว ต่างต้องทึ่ง สงสัยว่า “นี่มันช้างจริงๆหรือเปล่า?” เพราะว่ามันดูเหมือนช้างจริงๆมาก
แต่พอเข้ามาดูใกล้ๆ ได้สัมผัสดูถึงรู้ว่า “อ้าว...! ที่แท้มันคือช้างแกะสลักไม้นี่นา”
เรื่องนี้เป็นที่โจษขานกันมาก ก็เลยมีชายหนุ่มคนหนึ่งดั้นด้นไปหาช่างแกะสลักผู้นี้ เพราะอยากรู้กลเม็ดเคล็ดลับ และให้แกช่วยสอน ว่าแกะสลักไม้อย่างไร จึงทำให้เหมือนช้างได้ขนาดนั้น
ชายหนุ่มเดินทางไปจนกระทั่งพบกระท่อมเล็กๆในป่า เมื่อเดินเข้าไปก็เจอลุงช่างแกะสลักผู้นี้พอดี ชายหนุ่มกวาดตามองดูภายในกระท่อม ก็ไม่เห็นอะไรเป็นพิเศษ มีเพียงเครื่องไม้เครื่องมือของช่างที่ทำงานแกะสลักทั่วไปแค่นั้น
ชายชราช่างแกะสลักกำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ โดยไม่ได้ไม่สนใจผู้ที่เดินเข้ามา ชายหนุ่มจึงเอ่ยถามขึ้นว่า
“ลุงครับ...ผมอยากรู้จริงๆว่า ลุงมีเคล็ดลับอะไรในการแกะสลักช้าง ที่ทำให้มันดูเหมือนช้างได้ขนาดนั้น ช่วยบอกผมหน่อยเถอะครับ”
เสียงขอร้องของชายหนุ่ม ทำให้ชายชราวางเครื่องมือลง เงยหน้าขึ้นสบตา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า
“มันก็ไม่มีอะไรยากหรอกพ่อหนุ่ม ก่อนอื่นต้องไปหาไม้ที่ดี และเมื่อได้ไม้ที่ดีมาแล้ว ก็เพียงแกะสิ่งที่ไม่ใช่ช้างออกไป ก็เท่านั้นเอง”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อแกะสิ่งที่ไม่ใช่ช้างออกไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือช้างจริงๆ
ลองโยงนิทานเรื่องนี้เข้ากับตัวเองดูว่า ช้างของเราคืออะไร สิ่งที่เราต้องการทำจริงๆในชีวิตนี้มันคืออะไร เมื่อรู้ถึงเป้าหมายที่แท้จริงแล้ว ที่เหลือก็เพียงแกะสิ่งที่ไม่ใช่เป้าหมายทิ้งไป
เหมือนที่เคยมีคนถาม “ไมเคิล แองเจโล” ศิลปินชาวอิตาลี นักแกะสลักหินอ่อนชื่อก้องโลกว่า “ทำไมแกะสลักรูปเดวิดได้สวยงามสมจริงสุดยอดปานนั้น?”
เขาตอบว่า “ขณะที่หินก้อนใหญ่ถูกส่งมาถึง ผมมองเห็นรูปของเดวิดอยู่ในหินก้อนนั้นแล้ว สิ่งที่ผมต้องทำต่อไปจากนั้นก็คือ สกัดเอาส่วนที่ไม่ใช่เดวิดออกไป!”
เมื่อดูที่สตีฟจ๊อบส์ ช้างของเขาคือ การสร้างนวัตกรรมพลิกโลก อย่างไอโฟน ไอพอด ไอแพด หรือคืนชีพบริษัทพิกซ่าร์ผลิตหนังการ์ตูนแอนิเมชั่นดังอย่าง ทอย สตอรี่,นีโม ปลาเล็กหัวใจโต๊โต มาเขย่าบัลลังก์วงการฮอลลีวู้ด ดังนั้น งานอื่นๆที่ไม่ใช่ช้าง จ๊อบส์จึงไม่ลังเลที่จะแกะส่วนเกินเหล่านั้นทิ้งไป
ถึงตรงนี้หากใครยังไม่รู้ว่า ช้างของคุณคืออะไร? หัวใจดวงนี้เต้นอยู่เพื่อสิ่งใด พระพุทธองค์ทรงอนุเคราะห์เปิดเผยเคล็ดวิธีเลือกช้างให้ประสบผลสำเร็จไว้ 4 ประการ ซึ่งพระองค์เรียกว่า อิทธิบาท 4 คือ
1. ฉันทะ มีใจรัก
2. วิริยะ พากเพียรทำ
3. จิตตะ มุ่งมั่น เอาจิตจดจ่อ
4. วิมังสา ใช้ปัญญาสอบสวน วิเคราะห์ สังเคราะห์ พิจารณา
ฉันทะ นั่นเองคือคำตอบว่า ช้างของคุณคืออะไร ? หรือหัวใจดวงนี้เต้นอยู่เพื่อสิ่งใด ส่วนจิตตะก็คือวิธีการแกะสิ่งที่ไม่ใช้ช้างทิ้งไป และวิริยะกับวิมังสา คือเครื่องมือแกะสลักช้างของนายช่างอย่างคุณ
อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่า บางครั้งในชีวิต การแกะสิ่งที่ไม่ใช่ช้างทิ้งไป มันยังง่ายกว่าการแกะถ้อยคำของคนผู้ซึ่งหวังดีต่อชีวิตของเราทิ้งไป เพราะสิ่งที่เป็นอันตรายต่อการบรรลุเข้าถึงตัวตนภายในของเราก็คือ คนที่ไม่เข้าใจในธรรมชาติของเรา แล้วมาตัดสินชี้แนะแนวทาง
แต่อย่ากลัวที่จะเป็นตัวของตัวเอง อย่าลังเลที่จะเลือกทำในสิ่งที่เราถนัด เพียงเพราะคำคนบางคนที่ไม่รู้จริงมาตัดสิน
ก็เหมือนอย่างเต่า มันไม่ได้ช้าต้วมเตี้ยมกว่ากระต่าย แต่เพราะคนที่ไม่เข้าใจธรรมชาติของเต่าไปตัดสิน แล้วเลือกสนามแข่งที่เต่าไม่ถนัด ถ้าลองจับเต่ากับกระต่ายมาว่ายน้ำแข่งกัน ดูสิว่าใครจะไปได้ไวกว่ากัน
แล้วคุณล่ะ เลือกสนามแข่งที่ตัวเองถนัด แล้วเป็นสิ่งที่คุณเกิดมาเพื่อทำสิ่งนั้นหรือยัง?
อย่าปล่อยให้หัวใจของเราเต้นไปอย่างไร้จุดหมาย กระทั่งมันหยุดเต้นลงไปในที่สุด โดยที่เรายังไม่ได้ทำในสิ่งที่หัวใจดวงนี้เต้นอยู่เพื่อเรา
อย่าลืมว่า..ชีวิตคนเราไม่ได้มีเวลายืนยาวมากมาย หากค้นพบตัวเองแล้วว่า ชาตินี้เราเกิดมาเพื่อสิ่งใด ก็ควรเลือกทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด ดังที่ท่าน ว.วชิรเมธี แกะสลักช้างด้วยตัวอักษรแสดงทัศนะไว้
“เมื่อรู้ชัดแล้วว่า เราเกิดมาเพื่อทำอะไร
ควรฝังตัวกับเรื่องนั้นเรื่องเดียว เพราะเรามีเวลาจำกัด”
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 168 ธันวาคม 2557 โดย ทาสโพธิญาณ)