xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวสารบ้านเรา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“วัดโพธิ์” คว้าอันดับ 8 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งเอเชีย
“วัดโพธิ์” คว้าอันดับ 8 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งเอเชีย

ทริปแอดไวเซอร์ เว็บไซต์ท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศรางวัลสุดยอดที่ท่องเที่ยว ปี 2014 โดยเน้นสถานที่ท่องเที่ยวและสวนสาธารณะยอดนิยมทั่วโลก การประกาศรางวัลสุดยอดที่ท่องเที่ยวครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่สองแล้ว โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวและสวนสาธารณะสุดฮิตจากทั่วโลกได้รับรางวัล 929 ราย ทั้งจากแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย แคนาดา แคริบเบียน อเมริกากลาง จีน ยุโรป อินเดีย เม็กซิโก ตะวันออกกลาง นิวซีแลนด์ อเมริกาใต้ แปซิฟิกใต้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

มิสบาร์บารา เมสซิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด ทริปแอดไวเซอร์ กล่าวว่า “นักเดินทางของทริปแอดไวเซอร์ได้ช่วยระบุจุดท่องเที่ยวดีๆ หลายแห่งทั่วโลก ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวและสวนสาธารณะต่างๆ ที่ได้รับรางวัลเหล่านี้ ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการวางแผนท่องเที่ยวเพื่อชมสถานที่ต่างๆทั่วโลก”

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวและสวนสาธารณะในประเทศไทยที่ติดอันดับยอดนิยมในเอเชียนั้น ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ ติดอันดับที่ 8 ของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเอเชีย และติดอันดับ 1 แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย

ขณะที่วัดอรุณราชวราราม ติดอันดับ 12 และพระบรมมหาราชวัง ติดอันดับที่ 20 ในหมวดหมู่ 25 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเอเชีย ส่วนสวนลุมพินี ติดอันดับ 4 สวนสาธารณะยอดนิยมในเอเชีย

กรมศิลป์ฯให้คนไทยเข้าชมฟรี 3 เดือน โบราณสถานและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์และคืนความสุขให้กับคนไทยทั้งชาติ เพื่อเป็นการเสริมความเชื่อมั่น สร้างภูมิคุ้มกัน สร้างภาพลักษณ์ให้กับการท่องเที่ยว ที่สำคัญเป็นการขับเคลื่อนนโยบายสร้างความปรองดองสมานฉันท์

ดังนั้น กรมศิลปากรจึงประกาศงดเก็บค่าเข้าชมสำหรับคนไทยในส่วนโบราณสถานที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทุกแห่งทั่วประเทศ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2557 เป็นต้นไป ส่วนการเก็บค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติยังคงเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตามแผนงานจะงดเก็บค่าเข้าประมาณ 3 เดือน หลังจากนั้นจะมีการประเมินผล หากมีประชาชนให้ความสนใจเข้าชมเพิ่มมากขึ้นก็จะมีการขยายออกไปอีก

อุบลฯเตรียมจัดงานแห่เทียนพรรษา และเฉลิมฉลอง 222 ปี อุบลราชธานี

นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับทุกภาคส่วนในจังหวัดอุบลราชธานี เตรียมจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 ภายใต้ชื่องาน “113 ปี งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาอุบลราชธานี และเฉลิมฉลอง 222 ปี อุบลราชธานี“ ระหว่างวันที่ 1 – 16 กรกฎาคม 2557 เพื่อสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า และส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานีและประเทศไทย

โดยได้กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ เยือนชุมชนคนทำเทียน ชมวิถีการตกแต่งต้นเทียนจากคุ้มวัดต่างๆ การสร้างสรรค์ประติมากรรมเทียนพรรษานานาชาติ ครั้งที่ 8 การแสดงต้นเทียน ทั้งประเภทแกะสลัก ติดพิมพ์ และเทียนโบราณ ที่ส่งเข้าประกวด และพิธีเวียนเทียนวันอาสาฬหบูชา ที่วัดสุปัฎนารามวรวิหาร วัดมหาวนาราม และวัดหลวง สำหรับวันที่ 11-12 กรกฎาคม 2557 มีการแสดงประกอบ แสง สี เสียง ขบวนแห่เทียนเข้าพรรษา ที่บริเวณหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม และศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (หลังเก่า)

ส่วนในวันที่ 12 กรกฎาคม 2557 พิธีเปิดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาอุบลราชธานี ประจำปี 2557 และพิธีถวายเทียนพรรษาพระราชทานและผ้าอาบน้ำฝนพระราชทานที่วัดสุปัฎวนารามวรวิหาร

จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป ร่วมชมการแสดงและกิจกรรมดังกล่าวในงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557

สพฐ.เตรียมเสริมวิชาประวัติศาสตร์ไทย ให้เยาวชนภูมิใจในชาติและบรรพบุรุษ

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เตรียมจัดทำหนังสือนอกเวลาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่เยาวชนอ่านแล้วเกิดความภาคภูมิใจในชาติ

นายวินัย รอดจ่าย ประธานกรรมการพัฒนาการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยว่า สพฐ.จะไม่มีการปรับตัวหลักสูตรในวิชาประวัติศาสตร์เดิม แต่จะเสริมในรูปแบบของหนังสืออ่านนอกเวลา โดยคณะกรรมการจะคัดเลือกจุดเด่นแต่ละเรื่อง ที่อ่านแล้วเกิดความภาคภูมิใจในชาติ ความซาบซึ้งในบรรพบุรุษ เช่น เรื่องประวัติสมเด็จพระนเรศรวรมหาราช พระยาพิชัยดาบหัก และชาวบ้านบางระจัน ส่วนวิชาหน้าที่พลเมือง ก็จะถูกเสริมในลักษณะของกิจกรรมที่ทุกโรงเรียนมีการจัดกันเป็นปกติ แต่จะเฉลี่ยจัดกิจกรรมหน้าที่พลเมืองเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ทุก 1 สัปดาห์

นอกจากนี้ จะจัดทำหนังสือคู่มือการจัดการเรียนการสอนสำหรับครูทุกระดับชั้น รวมทั้งการอบรมและพัฒนาครูผู้สอน เพื่อการนำเอาความรู้ได้รับมาประยุกต์สร้างสรรค์ ให้เด็กสามารถคิดวิเคราะห์ เป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจน ซึ่งคาดว่า ภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2557 หนังสือคู่มือจะสามารถจัดทำได้ครบทุกโรงเรียนทั่วประเทศ

เตรียมสร้างวัดศรีลังกาในอยุธยา เชื่อมสัมพันธ์พี่น้องสองแผ่นดิน

นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยภายหลังการเดินทางไปตรวจสอบสถานที่บริเวณวัดกระชาย หรือวัดกระซ้ายในปัจจุบัน ร่วมกับ พล.อ.ซานต้าโกตเต โกด้า เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะทำการก่อสร้างวัดประจำชาติของศรีลังกา ซึ่งโครงการก่อสร้างวัดประจำชาติของศรีลังกานี้ เป็นไปตามบันทึกข้อตกลงเมืองพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และประเทศศรีลังกา ที่จะมีการแลกเปลี่ยนการก่อสร้างวัดในพื้นที่ของตน เพื่อสานความสัมพันธ์ด้านศาสนาระหว่างประเทศ

โดยทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะใช้พื้นที่บริเวณวัดกระชาย และบริเวณใกล้เคียง รวมกว่า 36 ไร่ ก่อสร้างวัดประจำชาติของศรีลังกา และให้พระสงฆ์จากศรีลังกามาจำวัด และปฏิบัติธรรม ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมการก่อสร้าง

สำหรับวัดกระชายเดิมชื่อวัดเจ้าชาย เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยพระเอกาทศรถ พระอนุชาของพระนเรศวรมหาราช ถือว่าเป็นวัดประจำพระองค์ของสมเด็จพระเอกาทศรถ จนกระทั่งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 วัดแห่งนี้จึงกลายเป็นวัดร้างนานกว่า 410 ปี กลายเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้กรมศิลปากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาเร่งบูรณะเพื่อให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง

สธ.-ทอ. ร่วมสร้างโรงพยาบาล 120 เตียงที่ทุ่งสีกัน

พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ และพลอากาศโทธีระภาพ เสนะวงษ์ เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกองทัพอากาศกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมกันพัฒนาการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครให้มากขึ้นและดีขึ้น ณ ห้องรับรองพิเศษ 1 กองบัญชาการ กองทัพอากาศ กทม.

โดยกองทัพอากาศได้มอบที่ดินที่บริเวณทุ่งสีกัน จำนวน 12 ไร่ ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ อยู่ที่แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขก่อสร้างโรงพยาบาลขนาด 120 เตียง โดยใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างกองทัพอากาศกับกระทรวงสาธารณสุข ทั้งการรักษาและการสร้างเสริมสุขภาพแก้ปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่ เพิ่มการเข้าถึงบริการการแพทย์ของประชาชนเขตดอนเมือง หลักสี่ และพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณ 300,000 คน

โดยจะให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไปและโรคเฉพาะทาง หากมีอาการรุนแรงจะมีระบบส่งต่อผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลใหญ่ เช่น รพ.ภูมิพล หรือ รพ.ราชวิถี หรือโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นต้น คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเร็วๆนี้

กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ทุ่มงบ เรียนฟรี ‘นวดไทย แก้จน’ 1,200 คน

นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมฯ ได้จัดงบประมาณ 10 ล้านบาท เปิดหลักสูตรการนวดเพื่อสุขภาพ ฟรี แก่ประชาชน 1,200 คน แบ่งเป็น 24 รุ่น รุ่นละ 50 คน ใช้เวลาในการเรียน 150 ชั่วโมง เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ผู้ว่างงานหรือกลุ่มแม่บ้านที่สนใจ โดยใช้องค์ความรู้หลักสูตรนวดไทย บูรณาการกับองค์ความรู้การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ และการใช้ยาสมุนไพรประจำครัวเรือน เพื่อให้ผู้สำเร็จการอบรมสามารถพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพ รวมถึงให้การดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้องรังในครอบครัว และชุมชน รวมทั้งรองรับตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศ ซึ่งจะเริ่มรับสมัครในวันที่ 1 ก.ค. ก่อนเปิดเรียนจริงในปลาย ก.ค.

ผู้สนใจสามารถสมัครได้ด้วยตัวเองที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ จ.นนทบุรี ส่วนต่างจังหวัดสมัครได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ ผู้ที่จบหลักสูตรจะได้รับใบประกาศนียบัตรรับรอง นอกจากนี้ กรมฯ จะหาตำแหน่งงานให้ทุกคนทำหลังจบการอบรมด้วย

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 163 กรกฎาคม 2557 โดย กองบรรณาธิการ)
กรมศิลป์ฯให้คนไทยเข้าชมฟรี 3 เดือน โบราณสถานและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
อุบลฯเตรียมจัดงานแห่เทียนพรรษา และเฉลิมฉลอง 222 ปี อุบลราชธานี
สพฐ.เตรียมเสริมวิชาประวัติศาสตร์ไทย ให้เยาวชนภูมิใจในชาติและบรรพบุรุษ
เตรียมสร้างวัดศรีลังกาในอยุธยา เชื่อมสัมพันธ์พี่น้องสองแผ่นดิน
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ทุ่มงบ เรียนฟรี ‘นวดไทย แก้จน’ 1,200 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น