xs
xsm
sm
md
lg

ผู้แทนอัญเชิญเทียนพรรษาถวาย “วัดโตนดเตี้ย” จัดพิธีคืนความสุข “หล่อเทียนหลอมใจ เทิดไท้องค์ราชัน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พระนครศรีอยุธยา - รองหัวหน้าฝ่ายที่ประทับในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ผู้แทนอัญเชิญเทียนพรรษา “พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา” ถวาย ณ วัดโตนดเตี้ย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะที่อำเภอนครหลวง จัดพิธีคืนความสุขให้ประชาชน หล่อเทียน หลอมใจ เทิดไท้องค์ราชัน องค์ราชินี สมานฉันท์ปรองดอง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 ก.ค.) พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงพระกรุณาโปรดให้ พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุรณะ รองหัวหน้าฝ่ายที่ประทับในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นผู้อัญเชิญเทียนพรรษาพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ถวาย ณ วัดโตนดเตี้ย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

โอกาสนี้ พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุรณะ กล่าวคำถวายเทียนพรรษาว่า ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ขอพระสงฆ์โปรดรับทราบ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงพระกรุณาโปรดให้ข้าพเจ้าเป็นผู้แทนพระองค์เป็นผู้ถวายเทียนพรรษา พร้อมกับของบริวารนี้ไว้ ณ พระอุโบสถนี้ เพื่อเป็นพุทธบูชาตลอดกาลพรรษา ขออานิสงส์แห่งการบำเพ็ญพระราชกุศลถวายเทียนพรรษา เพื่อเป็นพุทธบูชาตลอดกาลพรรษานี้ จงสำเร็จตามพระประสงค์

สำหรับวัดโตนดเตี้ย ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา วัดแห่งนี้ตั้งชื่อตามหมู่บ้านที่มีต้นตาลโตนดอยู่จำนวนมากในชุมชนริมคลองช่องสะเดา ซึ่งเป็นชุมชนโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา ใช้เป็นเส้นทางเดินทัพในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีตปัจจุบัน วัดโตนดเตี้ย ได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงอุปถัมภ์ บูรณะพระวิหารเก่าที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อใหญ่” พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 180 เซนติเมตร

วันเดียวกัน (8 ก.ค.) ที่ว่าการอำเภอนครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา นายพันธุ์เลิศ มีวุฒิสม นายอำเภอนครหลวง พร้อมนายบุญส่ง กลิ่นสวาท นายกเทศบาลตำบลนครหลวง พ.ต.อ.ธัชกร รอดเจียม ผกก.สภ.นครหลวง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจาก 12 ตำบล และทหารจากกองพันทหารม้าที่17 รักษาพระองค์ จ.สระบุรี ร่วมกันจัดงานคืนความสุขให้ประชาชน “หล่อเทียน หลอมใจ เทิดไท้องค์ราชัน องค์ราชินี สมานฉันท์ปรองดอง” ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอนครหลวง

นายพันธุ์เลิศ กล่าวว่า เนื่องจากในวันที่ 12 ก.ค.ที่จะถึงนี้เป็นวันเข้าพรรษา ซึ่งเป็นประเพณีของชาวพุธ เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่งที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า จำพรรษา (“พรรษา” แปลว่า ฤดูฝน, “จำ” แปลว่า พักอยู่) พิธีเข้าพรรษานี้ถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์โดยตรง ละเว้นไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม การเข้าพรรษาตามปกติเริ่มนับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี หรือเดือน 8 หลัง ถ้ามีเดือน 8 สองหน และสิ้นสุดลงในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา

วันเข้าพรรษา วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หรือเทศกาลเข้าพรรษา วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ถือได้ว่าเป็นวัน และช่วงเทศกาลทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญเทศกาลหนึ่งในประเทศไทย โดยมีระยะเวลาประมาณ 3 เดือนในช่วงฤดูฝน โดยวันเข้าพรรษาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ต่อเนื่องมาจากวันอาสาฬหบูชา วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งพระมหากษัตริย์ และคนทั่วไปได้สืบทอดประเพณีปฏิบัติการทำบุญในวันเข้าพรรษามาช้านานแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัย

สาเหตุที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตการจำพรรษาอยู่ ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่งตลอด 3 เดือนแก่พระสงฆ์นั้นมีเหตุผลเพื่อให้พระสงฆ์ได้หยุดพักการจาริกเพื่อเผยแพร่ศาสนาไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งจะเป็นไปด้วยความยากลำบากในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันความเสียหายจากการอาจเดินเหยียบย่ำธัญพืชของชาวบ้านที่ปลูกลงแปลงในฤดูฝน

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาจำพรรษาตลอด 3 เดือนนั้น เป็นช่วงเวลา และโอกาสสำคัญในรอบปีที่พระสงฆ์จะได้มาอยู่จำพรรษารวมกันภายในอาวาส หรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจากพระสงฆ์ที่ทรงความรู้ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ด้วย

ทางอำเภอนครหลวง จึงใช้ช่วงเวลานี้เป็นการรวมพลัง หล่อหลอมความสามัคคีปรองดองของคนในชาติที่มีความคิดที่แตกต่าง มาหล่อหลอมรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยการทำบุญหล่อเทียนพรรษาจากประชาชนใน 12 ตำบล แล้วใช้รถแห่ไปถวายยังวัดต่างๆ ใน อ.นครหลวง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเทิดไท้องค์ราชัน องค์ราชินี

นอกจากนี้ ทางอำเภอได้จัดให้มีการประกวดการประดิษฐ์เทียนพรรษาของแต่ละตำบล ทั้งในด้านความสวยงาม และแนวคิดสร้างสรรค์ชิงเงินรางวัล และมีร้านค้าชุมชนมาจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอีกด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น