คนร้อยปีมีกระจายอยู่ทั่วโลก ภูมิภาคที่มีคนร้อยปีอยู่หนาแน่น ซึ่งมีวิถีชีวิตแบบของตนเอง เรียกว่า Blue Zones ซึ่งเรื่องนี้ แดน บูตเนอร์ (Dan Buettner) นักเขียนบทความทางวิทยาศาสตร์ และทีมงานจากเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ได้ทำการสำรวจค้นหาแหล่งคนร้อยปีทั่วโลก
เขาพบว่า โลกของเรามีแหล่งคนร้อยปีที่อยู่กันมาก 5 แห่ง คือ
1. เกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้เขียนได้กล่าวถึงในตอนที่แล้ว
2. เมืองโลมา ลินดา รัฐแคลิฟอร์เนีย
3. เกาะซาดิเนีย ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ชายฝั่งของอิตาลี
4. เกาะอิเกเรีย ประเทศกรีซ
5. คาบสมุทรนิโคญา คอสตาริกา
(www.bluezones.com/sites)
หลังจากการสำรวจชุมชนคนร้อยปีเหล่านี้ เขาพบปัจจัยหลายประการ ที่ทำให้คนเหล่านี้อายุยืนกล่าวคือ
1. เคลื่อนไหวอย่างธรรมชาติ คนร้อยปีเหล่านี้ ไม่ได้ออกกำลังกายหักโหม จริงจัง หนักหน่วงอะไร ตรงกันข้าม เขากลับเคลื่อนไหวแบบธรรมชาติ ด้วยการทำงาน เดินเล่น ทำสวน ทำงานบ้าน ปลูกผักผลไม้ไว้กินเอง ออกกำลังกายเบาๆ
2. ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีเป้าหมาย รู้ว่าพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาแล้วจะอยู่ต่อไปเพื่ออะไร ดังนั้น สิ่งที่เขาทำอยู่จึงเป็นปัจจัยให้อายุยืน
3. ลดความเครียด คนร้อยปีมีกิจกรรมทางจิตใจ ที่ช่วยลดความเครียด เช่น คนโอกินาวาใช้เวลาสวดมนต์ระลึกถึงบรรพบุรุษทุกวัน คนโลมา ลินดา สวดมนต์ถึงพระเจ้าทุกวัน ไปทำกิจกรรมที่โบสถ์ทุกวันเสาร์เป็นประจำ ซึ่งจะช่วยให้ลดความกังวลใจ
4. ยึดหลักความพอดี ในการกินพออิ่ม การอยู่แบบเรียบง่าย สบายๆ คนเหล่านี้ใช้ชีวิตแบบไม่รีบร้อน และมีความทะเยอทะยานน้อย
5. กินพวกพืช ผัก ผลไม้ เป็นหลัก กินอาหารอื่นๆน้อยลง พวกเซเวนเดส์ แอดเวนติส ไม่กินเนื้อสัตว์ คนโอกินาวา กินเนื้อสัตว์น้อย
6. ดื่มไวน์เล็กน้อย คนร้อยปีมักไม่ดื่มแอลกอฮอล์ คนร้อยปีบนเกาะซาดีเนีย ชายฝั่งอิตาลี กินไวน์แดง วันละ 1-2 แก้วพร้อมอาหาร และกินอาหารพร้อมกับครอบครัว มีงานวิจัยของ นพ.เดวิท ซินแคร์ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า ไวน์แดงมีสาร resveratrol ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และช่วยให้อายุยืน
7. มีศรัทธา คนร้อยปีเกือบทุกแห่งจะมีกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือศรัทธา มีงานวิจัยพบว่า คนที่ไปโบสถ์ สวดมนต์เป็นประจำ จะมีโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคสมองเสื่อม น้อยกว่าคนทั่วไป 3-5 เท่า มีอายุยืนยาวกว่าคนทั่วไป 8 ปี
8. มีสายสัมพันธ์ในครอบครัวใกล้ชิด คนร้อยปีมักจะมีความอบอุ่นในครอบครัว เป็นแบบครอบครัวโบราณอยู่กันหลายๆคน เป็นครอบครัวขยาย ปู่ ย่า ตา ยาย ลูก หลาน เหลน ลุง ป้า น้า อา เพื่อนบ้าน มีความใกล้ชิดกัน
9. กลุ่มเกื้อกูลทางสังคม มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มช่วยเหลือกันทางสังคม เช่น กลุ่มโบสถ์วันเสาร์ ในโลมา ลินดา ช่วยกันทำงานอาสาสมัคร กลุ่มแบบโมเอะ ของชาวโอกินาวา ช่วยเหลือกันในงานสังคมสงเคราะห์ด้านต่างๆ เป็นต้น
แดน บูตเนอร์ ได้นำทีมแพทย์ นักโภชนาการ นักมานุษยวิทยา และนักวิจัย เข้าไปศึกษาคนร้อยปีในภูมิภาคต่างๆของโลก และตีพิมพ์ในหนังสือ The Bluezones ซึ่งทำให้เราได้รู้เรื่องของคนร้อยปีมากขึ้น
ในตอนที่แล้วผู้เขียนได้กล่าวถึง คนร้อยปีเกาะโอกินาวาไปแล้ว ในที่นี้ขอกล่าวถึงคนร้อยปีอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นคือ คนร้อยปีแห่งเมืองโลมา ลินดา แคลิฟอร์เนีย เมืองนี้อยู่ไปทางตะวันออกของนครลอสแองเจลีสราว 60 ไมล์ เป็นชุมชนคนนับถือคริตส์ นิกายเซเวนเดย์ แอดเวนติสต์ หรือคริสตจักรวันเสาร์ (Seventh-day Adventists)
คนที่นี่มีศูนย์รวมอยู่ที่โบสถ์แอดเวนติสต์ พวกเขารับประทานอาหารมังสวิรัติ กินขนมปังโฮลวีท ธัญพืช ถั่ว ผัก ผลไม้ งดเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โซดา และบุหรี่ ออกกำลังกายเป็นประจำ พวกเขามีศูนย์การจัดการน้ำกินน้ำใช้ของตนเอง โดยคำนึงถึงสุขภาพอย่างเคร่งครัด
ทุกคนไปโบสถ์วันเสาร์ซึ่งถือว่า เป็นวันบริสุทธิ์ เรียกว่า สบาโต เป็นวันหยุดพัก จะมีการสังสรรค์ในหมู่สมาชิก และเป็นการผ่อนคลาย ทำกิจกรรมทางศาสนา เช่น สวดมนต์ ร้องเพลง ฟังดนตรี ฟังธรรมจากบาทหลวง และทำงานอาสาสมัครร่วมกัน ซึ่งทำให้ยึดโยงพวกเขาเข้าหากัน มีความศรัทธาในพระเจ้า มีวิถีชีวิตที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี ทำให้คนที่นี่มีอัตราการเกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง ต่ำกว่าคนอเมริกันมาก และอายุเฉลี่ยของคนที่นี่ก็ยาวกว่า คนอเมริกันทั่วไปถึง 10 ปี
คนร้อยปีที่เมืองโลมา ลินดา ยังมีสุขภาพแข็งแรง ทำงานได้ทุกวัน ยกตัวอย่างเช่น มาร์จ เจตทัน (Marge Jetton) เป็นคนคริสตจักรวันเสาร์ เดิมเธอเป็นพยาบาล สามีเป็นแพทย์ ซึ่งเสียชีวิตเมื่ออายุ 77ปี ปัจจุบันเธออายุ 108 ปี ยังแข็งแรง กระฉับกระเฉง ออกกำลังกายโดยเดินในตอนเช้าวันละ 1.5 กิโลเมตร ยกน้ำหนักบ้าง ปั่นจักรยานอยู่กับที่บ้าง เธอกินข้าวโอ๊ตเป็นอาหารเช้า กินมังสวิรัติ และยังทำงานอาสาสมัครช่วยดูแลผู้สูงอายุที่ศูนย์บริบาลผู้สูงอายุของเมืองนี้
ส่วนอีกคนหนึ่งซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กัน คือ นพ.เอลส์เวิร์ท แวร์แฮม (Ellswarth E. Wareham) อายุ 97 ปี เป็นคนคริสตจักรวันเสาร์ เขาเป็นศัลยแพทย์หัวใจ เป็นคนแข็งแรง ปัจจุบันก็ยังทำงานผ่าตัดอยู่ หมอแวร์แฮมบอกว่า “การยอมรับพระเยซูเจ้า คือการเป็นอิสระ ซึ่งช่วยลดความเครียดได้ พระเจ้าทรงชี้นำและคุ้มครองเรา” แสดงให้เห้นว่า การเชื่อมั่นศรัทธาในศาสนาเป็นสิ่งที่ช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดี รวมทั้งความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ ก็ล้วนแต่มีผลดีต่อสุขภาพทั้งสิ้น
ศาสตราจารย์ แกรี่ เฟรเซอร์ แห่งมหาวิทยาลัยโลมา ลินดา ผู้อำนวยการโครงการศึกษาคนคริสตจักรวันเสาร์ เมืองโลมา ลินดา ชี้ให้เห็นถึงข้อสรุปที่น่าทึ่งว่า สมาชิกคริสตจักรวันเสาร์ มีอายุเฉลี่ยสูงกว่าชาวแคลิฟอร์เนียทั่วไป 4-10 ปี มีโรคเรื้อรังอัตราต่ำกว่าคนทั่วไป วิถีชีวิตของคนกลุ่มนี้จัดเป็นเคล็ดลับของคนอายุยืน ที่น่าเชื่อถือที่สุดกลุ่มหนึ่งในประเทศ สหรัฐอเมริกา (www.llu.edu/public-health/health.)
ท่านสามารถดูเรื่องราวของคนร้อยปีแห่งเมืองโลมา ลินดา ได้ใน www.youtube.com มีให้ดูหลายเรื่อง โดยพิมพ์ชื่อเรื่องลงไป เช่น เรื่อง Adventist longevity study, เรื่อง Bluezone – Loma Linda, California pt 1, pt 2 และ เรื่อง Part 3- How to live to 101 BBC Horizon เป็นต้น
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 160 เมษายน 2557 โดย นพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)