• “ในหลวง” พระราชทาน “พระโกศกุดั่นใหญ่” ประดับเกียรติยศแด่สมเด็จพระสังฆราช
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม สำนักพระราชวังได้ออกประกาศไว้ทุกข์ในพระราชสำนัก ความว่า เลขาธิการพระราชวัง รับพระบรมราชโองการฯ ให้ประกาศว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฒโน) สิ้นพระชนม์ เนื่องจากการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2556 เวลา 19 นาฬิกา 30 นาที
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทด้วยความเศร้าสลดพระราชหฤทัยอย่างยิ่ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ไว้ทุกข์ในพระราชสำนัก จาก 15 วัน เป็น 30 วัน นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2556 ถึงวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2556 และโปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานพระศพไว้ ณ พระตำหนักเพชร วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร และถวายพระเกียรติยศตามราชประเพณีทุกประการ
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระโกศประดับเกียรติยศแด่สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระโกศกุดั่นใหญ่ทำด้วยไม้แกะสลักลวดลายทรงแปดเหลี่ยม ฝายอดทรงมณฑป ปิดทองล่องชาด ประดับกระจกสี สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 เดิมใช้ในงานพระศพสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ และสมเด็จพระสังฆราชเจ้า พร้อมฉัตร 3 ชั้น และเครื่องประกอบเกียรติยศ
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ไปถวายน้ำสรงพระศพ ณ พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร
ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก กำหนด 7 วัน
• องค์ทะไล ลามะ ส่งสาสน์แสดงความเสียพระทัย สิ้น “พระสังฆราช”
พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เปิดเผยว่า องค์ทะไล ลามะ ได้ส่งสาสน์ผ่านเว็บไซต์ http://dalailama.com/ แสดงความเสียพระทัย เมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยมีใจความดังนี้
สหายทางจิตวิญญาณที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวรณ ในระยะเวลาอันสั้น หลังงานฉลองพระชนมายุครบ 100 ชันษา ในระหว่างที่ข้าพเจ้าสวดภาวนาอุทิศถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจมายังมหาเถรสมาคม และศิษยานุศิษย์นับหลายล้านคนของพระองค์ ทั้งในประเทศไทยและประเทศต่างๆทั่วโลก
เมื่อหลายปีมาแล้ว ข้าพเจ้าได้เข้าเฝ้าฯพระองค์ และได้รู้สึกเคารพนับถือและชื่นชมอย่างสุดซึ้ง ต่อวิถีทางที่พระองค์ทรงปฏิบัติหน้าที่ ตามความรับผิดชอบที่มีต่อพระศาสนาได้สมบูรณ์ยิ่งตลอดพระชนม์ชีพอันยาวนาน และมีความหมายยิ่งนั้น สมเด็จพระญาณสังวรฯ ได้ทรงอุทิศพระองค์ในการสร้างคุณประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติอย่างทั่วถึงตลอดมา
ในเวลาเช่นนี้พวกเราอาจรู้สึกถึงความสูญเสีย แต่การอุทิศถวายที่ดีที่สุดนั้น คือ การทำอะไรก็ตาม ต้องทำตามกำลังความสามารถ เพื่อพัฒนาสันติภาพและปัญญา อย่างเช่นที่สมเด็จพระสังฆราชได้เคยทรงปฏิบัติสืบมา
ทั้งนี้ องค์ทะไล ลามะ หวังว่า จะได้ส่งผู้แทนพระองค์มาสวดภาวนา และแสดงความอาลัยต่อประชาชนชาวไทย เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความเคารพนับถือ
• ผู้นำองค์กรพุทธทั่วโลก ส่งสาส์นแสดงความเสียใจ “พระสังฆราช” สิ้นพระชนม์
พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร กล่าวว่า สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้รับสาส์นแสดงธรรมสังเวช จากผู้นำองค์กรทางพระพุทธศาสนาในต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น อังกฤษ อินเดีย ศูนย์พระพุทธศาสนามหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ รวมถึงสำนักข่าวต่างประเทศได้มีการรายงานข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสังฆราชไปทั่วโลกพร้อมกันนี้ทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชก็ได้เร่งทำหนังสือแจ้งการสิ้นพระชนม์ไปยังผู้นำศาสนาในต่างประเทศให้รับทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
นอกจากนี้ ในพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7 วัน) สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้จัดทำหนังสือ “ญาณสังวรเทศนา” เป็นหนังสือที่รวบรวมคำเทศน์ในโอกาสต่างๆ ของสมเด็จพระสังฆราช ไว้สำหรับแจกผู้ที่มาร่วมงาน และสักการะพระศพ จำนวน 5,000 เล่ม
พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางวัดบวรฯได้เปิดให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรต่างๆ ได้จองเป็นเจ้าภาพพิธีบำเพ็ญพระกุศลพระศพ สมเด็จพระสังฆราช ผ่านศูนย์ข้อมูลกลาง โทร. 0-2280-9578-9 โดยขณะนี้มีรายชื่อจองแล้วกว่า 300 ราย นอกจากนี้ ยังมีประชาชนหรือหน่วยงานเกิดสับสนว่า จะใช้ข้อความใดในการขึ้นป้ายถวายความอาลัย ซึ่งสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้จัดทำต้นแบบไว้ให้ดังนี้ “ขอถวายอภิสัมมานสักการะแด่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ด้วยเศียรเกล้า” ซึ่งมีความหมายว่า อภิ แปลว่า ยิ่งใหญ่ สัมมานะ แปลว่า ยกย่องสูงสุด หรือแปลรวมว่า ขอถวายความเคารพอย่างสูงสุดแด่ สมเด็จพระสังฆราช จึงขอให้ทุกหน่วยงานได้ใช้ข้อความดังกล่าวในทิศทางเดียวกัน
พระครูสังฆสิทธิกร กรรมการประชาสัมพันธ์ งานบำเพ็ญพระกุศลพระศพ สมเด็จพระญาณสังวรฯ กล่าวว่า สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้เผยแพร่คำถวายสักการะที่เป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้กล่าวอธิษฐานระหว่างเข้าถวายสักการะพระศพสมเด็จพระสังฆราช มีเนื้อหาดังนี้ “สังขารานัง ขะยัง กัตวา สันตะคามิง นะมามิหัง” เกล้ากระหม่อมขอนอบน้อมนมัสการพระองค์ผู้ดับสิ้นสังขารบรรลุธรรมอันสงบระงับ
• เตรียมสร้าง“พระพุทธเมตตา” เฉลิมพระเกียรติ “ในหลวง”
ที่ทำเนียบองคมนตรี พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก องคมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม“พุทธเมตตา” ณ วัดเทพประทาน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ครั้งที่ 2 ประจำปี 2556 ซึ่งจัดสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 และถวายเป็นพุทธบูชา โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารฐานพระ เมื่อปี 2554
สำหรับพระพุทธรูปดังกล่าวมีขนาดหน้าตักกว้าง 29 เมตร สูง 45 เมตร สร้างด้วยนิลรัตนะ และได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญตราสัญลักษณ์งานฉลองเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ไปประดิษฐาน ณ ผ้าทิพย์ บนฐานพระสมเด็จองค์ปฐมฯ
ทั้งนี้ การจัดสร้างได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2556 คาดว่าจะใช้เวลากว่า 2 ปี และใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท โดยผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ติดต่อได้ที่ โทร. 0-2644-4699
• ศีขรภูมิ จัดงานมหัศจรรย์ แสง สี เสียง สืบสานตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ
นายบรรจง พิชญาสาธิต นายกเทศมนตรีตำบลศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ทางเทศบาลตำบลศีขรภูมิจะจัดงานสืบสานตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ ในวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2556 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ และเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป
โดยปีนี้จะจัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี มีขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองจำลองวิถีชีวิตกลุ่มชุมชนชาว เขมร ลาว กุย และจีน มีพิธีบวงสรวงองค์ปราสาทศีขรภูมิ จัดนิทรรศการแสดงวิถีชีวิตวัฒนธรรม ของชุมชนชาวพื้นเมืองชีวิตดั้งเดิม มีการแสดงจากสถานศึกษาต่างๆในเขตเทศบาล การแสดงดนตรีไทย และไฮไลต์ของงานคือ การแสดงประกอบ แสง สี เสียง ที่ยิ่งใหญ่อลังการ ในชื่อ “ศิวนาฏยคีตา ศรีคิขรินทราเทวลัย”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทยจากทั่วประเทศ มาชมองค์ปราสาทซึ่งมีอายุมากกว่า 1 พันปี
• กทม. เปิด 28 สวนสาธารณะ ให้ลอยกระทง ชวนลอยกระทง 1 ครอบครัว 1 กระทง เพื่อลดขยะ
น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครจะเปิดสวนสาธารณะในความรับผิดชอบ จำนวน 28 แห่ง ให้ประชาชนลอยกระทงตามประเพณี ในวันลอยกระทงประจำปี 2556 ซึ่งตรงกับวันที่ 17 พฤศจิกายน 2556 ตั้งแต่เวลา 15.00-24.00 น.
โดยขอความร่วมมือใช้กระทงที่ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ น้ำหนักเบา ย่อยสลายง่าย ไม่ทำลายแหล่งน้ำ เช่น กระทงขนมปัง กระทงใบตอง กระทงชานอ้อย เป็นต้น และห้ามใช้กระทงโฟม ห้ามจุดประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ ห้ามขายกระทง สินค้า อาหาร และอื่นๆ ภายในสวนสาธารณะที่เปิดให้ลอยกระทง และเพื่อเป็นการลดปริมาณขยะจากกระทง จึงขอเชิญชวนประชาชนลอยกระทง 1 ครอบครัว 1 กระทง
• ราชบุรีจัดงานมหัศจรรย์ลอยกระทงราชบุรี ประเพณี 8 ชาติพันธุ์ ประจำปี 2556
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวในการแถลงข่าวการจัดงาน “มหัศจรรย์ลอยกระทงราชบุรี ประเพณี 8 ชาติพันธุ์ ประจำปี 2556” ว่า การจัดงานในครั้งนี้ มีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน พร้อมใจกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 17 พฤศจิกายน 2556 ณ ลำน้ำแม่กลอง บริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
เพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อนำเสนอประวัติศาสตร์เมืองราชบุรี และเพื่อเทิดพระเกียรติบูรพมหากษัตริย์ไทย
สำหรับกิจกรรมในงาน ประกอบด้วย การแสดงประกอบแสง เสียง และสื่อผสม บนเวทีกลางลำน้ำแม่กลอง เรื่อง “เกิดกี่ชาติขอเป็นคนราชบุรี” โดยเป็นการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองราชบุรี การลอยกระทงสาย 8 ชาติพันธุ์ การแสดงวัฒนธรรมและอาหาร 8 ชาติพันธุ์ การประกวดกระทงดอกไม้สด ฯลฯ
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 155 พฤศจิกายน 2556 โดย กองบรรณาธิการ)