xs
xsm
sm
md
lg

ใส่ใจสุขภาพ : 9 วิธีง่ายๆ สร้างสุขภาพดีทันใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อโรคยา ปรมา ลาภา” ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ เป็นพุทธภาษิตที่จริงแท้แน่นอนในทุกยุคทุกสมัย เพราะแม้จะร่ำรวยเงินทอง หากสุขภาพกายไม่ดี ย่อมส่งผลร้ายต่อสุขภาพใจ เมื่อกายและใจป่วย เราจะหาความสุขในชีวิตได้อย่างไร

9 วิธีต่อไปนี้ เป็นไลฟสไตล์ง่ายๆ ที่เราอาจคุ้นเคย เพียงแต่ไม่ได้นำมาปฏิบัติ คราวนี้ขอให้ลองทำดูอย่างจริงจังแล้วจะพบว่า สุขภาพของคุณจะดีขึ้นเห็นๆ คอนเฟิร์ม..

1. หายใจเข้าลึกๆ

การหายใจเข้าอย่างช้าๆลึกๆ ด้วยกล้ามเนื้อกระบังลม จะนำก๊าซออกซิเจนจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย ช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และหายใจออกอย่างช้าๆ ให้ลมออกหมด เพื่อขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นของเสียออกจากร่างกาย

การหายใจเข้าลึกๆเป็นประจำ จะทำให้รู้สึกสดชื่น ความดันโลหิตลดลง หัวใจเต้นช้าลง กล้ามเนื้อผ่อนคลาย จิตใจสงบ ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น

2. ขีดเขียนระหว่างนั่งประชุม

วิธีนี้ช่วยให้ความจำดีขึ้นถึง 29 % จากการศึกษาพบว่า คนที่ขีดเขียนไปมาขณะฟังเทปเสียงหรือในระหว่างการประชุม สามารถจดจำรายละเอียดเนื้อหาได้ดีกว่าคนที่นั่งฟังเฉยๆเกือบ 1/3

สาเหตุเป็นเพราะ การขีดเขียนหรือวาดรูป เป็นเสมือนเกราะป้องกันการฝันกลางวัน ดึงคุณออกจากอาการใจลอย คุณจะรู้สึกสนุกกับการขีดเขียนไปพร้อมๆกับสามารถจดจำสิ่งที่คนอื่นพูดได้ด้วย

3. นอนหลับให้สนิท

ทุกคนรู้ดีว่า การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด แต่จะส่งผลดียิ่งขึ้น หากเป็นการนอนหลับสนิทหรือหลับลึก เพราะสมองจะหลั่งโกรทฮอร์โมนหรือฮอร์โมนการเจริญเติบโตออกมา เพื่อเสริมสร้างและซ่อมแซมเซมอวัยวะต่างๆ ให้พร้อมกับการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ โกรทฮอร์โมนยังดูแลระบบเผาผลาญของร่างกายให้ดูดซึม และนำพลังงานไปใช้พัฒนาซ่อมแซมเซลล์ต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง

4. เก็บรีโมทโทรทัศน์

ขณะนั่งดูทีวี อย่าวางรีโมทไว้ใกล้ตัว และเมื่อต้องการเปลี่ยนช่อง ขอให้ลุกไปกดปุ่มที่โทรทัศน์ วิธีนี้จะช่วยให้หน้าท้องยุบลง 2 นิ้ว ทั้งนี้ มีงานวิจัยเผยว่า คนที่ทำกิจกรรมเบาๆบ่อยครั้งขณะนั่งอยู่กับที่ เช่น นั่งดูทีวี จะมีขนาดรอบเอวเล็กลงกว่าคนที่นั่งนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว ถึง 16%

ส่วนคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ การลุกขึ้นเดินไปมา 1 นาที ก็เพียงพอที่จะทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง เพราะการเคลื่อนไหวบ่อยๆ จะช่วยให้ดัชนีมวลกาย ระดับไตรกลีเซอไรด์และกลูโคสลดลง ดังนั้น เมื่อต้องนั่งอยู่กับที่นานๆ ลองลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถ ยืดแข้งขา หรือเดินไปมาบ้าง

5. รับประทานปลา

การรับประทานปลาจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ถึง 19% มีหลักฐานหลายชิ้นพิสูจน์แล้วว่า ปลาคืออาหารชั้นดีของสมอง จากการศึกษาในผู้ใหญ่จำนวนมากทั่วโลก พบว่า คนที่รับประทานปลามากกว่าสัปดาห์ละครั้งเป็นประจำ มีความเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมแค่ 1/5 เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เคยรับประทานปลาเลย

ที่เป็นเช่นนี้เพราะ กรดไขมันโอเมก้า -3 ที่มีมากในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และในปลาน้ำจืด เช่น ปลาสวาย จะช่วยป้องกันเซลล์สมองไม่ให้บวม ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับภาวะสมองเสื่อม นอกจากนี้ ยังพบว่าคนที่ทานเนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่ในแต่ละมื้อ มีโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมมากกว่าคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์

6. แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน

การรักษาความสะอาดในช่องปาก ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งที่ศีรษะและคอได้ถึง 400% งานวิจัยเผยว่า คนที่เป็นโรคเหงือกอักเสบเรื้อรัง มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งที่ศีรษะหรือคอถึง 4 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปากและลำคอ แม้แต่ในคนไข้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน

โรคเหงือกอักเสบหรือปริทันต์ เกิดจากแบคทีเรียที่อยู่ในคราบจุลินทรีย์ ดังนั้น การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ จะช่วยป้องกันการสะสมของแบคทีเรียได้

7. เล่นโยคะ

การเล่นโยคะช่วยคลายอาการเจ็บหลังได้ถึง 56% มีงานวิจัยที่ทดลองกับกลุ่มคนไข้ที่มีอาการปวดหลังจนเคลื่อนไหวลำบาก ให้เล่นโยคะครั้งละ 90 นาที สัปดาห์ละ 2 ครั้ง นาน 6 เดือน กับคนไข้อีกกลุ่มที่บำบัดด้วยวิธีอื่น ผลที่ได้คือ กลุ่มคนไข้ที่เล่นโยคะรายงานว่า รู้สึกปวดหลังน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และมีอาการซึมเศร้าลดลงเกือบ 60% และ 6 เดือนให้หลังสิ้นสุดการทดลอง พวกเขาก็ยังรู้สึกถึงผลดีที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง

8. หัวเราะ

มีงานวิจัยชี้ว่า การหัวเราะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นถึง 21% ซึ่งดีต่อหัวใจ โดยกลุ่มคนที่หัวเราะขณะดูภาพยนตร์ตลก หลอดเลือดจะขยายตัว 1/5 ได้นานถึง 24 ชม. แต่เมื่อให้ดูภาพยนตร์สารคดีหนักๆ หลอดเลือดกลับหดตัวถึง 18% ซึ่งอาจส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น

รวมถึงขณะที่เรารู้สึกเป็นสุข ร่างกายจะหลั่งสารเคมีในระบบประสาท ที่ทำให้อารมณ์ดี รู้สึกสบาย ซึ่งส่งผลดีต่อร่างกาย เพราะฉะนั้น ควรหัวเราะทุกวัน เพราะนอกจากตัวเราจะมีความสุขแล้ว คนรอบข้างก็จะพลอยมีความสุขไปด้วย

9. ดื่มชา

การดื่มชาอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองได้ถึง 21% นักวิจัยค้นพบว่า คนที่ดื่มชาอย่างน้อยวันละ 3 ถ้วย มีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพียง 1/5 เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มชาน้อยกว่าวันละ 1 ถ้วย

และไม่ว่าจะเป็นชาเขียวหรือชาดำ(แต่ต้องไม่เป็นชาที่แก่จัดจนเกินไป) ก็มีประโยชน์เหมือนกัน เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ EGCG และกรดอะมิโนธีอะนีน ที่ช่วยป้องกันหลอดเลือด

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 154 ตุลาคม 2556 โดย เบญญา)









กำลังโหลดความคิดเห็น