เกาะกระแส
00 ไม่น่าแปลกใจสำหรับคนที่รู้ทัน รู้ทัน "สันดาน"ของ ทักษิณ ชินวัตร มาก่อน รู้ว่าที่่ผ่านมาอำพรางซ่อนรูปภายใต้เสื้อคลุมประชาธิปไตย และยังรู้ว่าเป็นนักฉวยโอกาสตัวยง ว่าแท้ที่จริงแล้วธุรกิจและการสร้างตัวล้วนเกาะเกี่ยวแอบอิงพวกเผด็จการทั้งสิ้น และการจะกำจัด ทักษิณ และระบอบทักษิณ ก็ต้อง"ย้อนศร"ต้องใช้วิธีแบบประชาธิปไตยกลับไปเหมือนกัน นั่นคือฉวยโอากาสในช่วงที่ความจริงเริ่มเปิดเผย เร่งเปิดโปงชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย มีการนีดหมายออกมาชุมนุมประท้วงกันทุกสัปดาห์ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แสดงออก"ให้เป็นธรรมชาติ" ที่สุดเตรียมตัวไปให้พร้อมแสดงเจตนารมณ์สีกชั่วโมงสองชั่วโมงเสร็จแล้วก็ไปช็อปปิ้งแยกย้ายกัน พักผ่อนกันตามอัธยาศัย สร้างกระแสแบบนี้ไปเรื่อยๆอย่างที่ใช้สัญลักษณ์ "หน้ากากขาว"กำลังทำงานอย่างได้ผลในเวลานี้ และกำลังทำให้ "คนเหลี่ยมจัด"เริ่มเครียดขึ้นทุกวัน
00 เพราะเมื่อพิจารณาจากกระแสต่อต้านของชาวบ้านที่มีมาขึ้นทุกวัน สาเหตุแท้จริงก็ไม่ใช่มาจากพวกหน้ากากขาว แต่มาจากความล้มเหลวห่วยแตกของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ที่เป็นสัญลักษณ์ของครอบครัวชินวัตร ทุกเรื่องมีแต่ภาพลบ มีแต่ความเดือดร้อนน่ารำคาญ สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็ย่อมมีผลกระทบอย่างหนักนอกเหนือจากรัฐบาลแล้ว ยังมีผลกระทบโดยตรงมาถึง ทักษิณ ที่เป็นตัวการในฐานะ "ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ" ไอ้ที่โม้ว่าจะกลับบ้านอย่างเท่ก่อนสิ้นปีนี้ นั้นคงเป็นแค่ "ฝันกลางวัน" แต่ถ้ากลับแบบมีพระนำละก็ไม่แน่ เพราะแค่ยังไม่ออกโรงเรื่อง แก้รธน.กฎหมายล้างผิดในสมัยประชุมหน้าเดือนสิงหาคม ยังโดนตานขนาดนี้ ถ้าถึงตอนนั้นมันจะขนาดไหนลองหลบตานึกภาพเอาก็แล้วกัน แม้ว่าจะมาบัญชาการปรับครม.แถวสิงคโปร์ ไล่จี้เร่งทำงานใหม่ ก็คงไม่มีความหมายหากไม่มีการเปลี่ยนแปลตัวนายกฯเสียใหม่ เพราะปัญหาความล้มเหลวแทบทั้งหมดล้วนมาจากสติปัญญาของผู้นำทั้งสิ้น
00 พูดถึงเรื่่องนโยบายจำนำข้าวที่เวลานี้กำลังบานปลายกลายเป็นเรื่องการทุจริต "ตอผุด"ขึ้นมาเรื่อยๆเริ่มจากการขาดทุนหลายแสนล้านบาทจนดันทุรังเดินหน้าต่อไปไม่ไหว และต้องมาลงที่ชาวนาด้วยการลดราคาจำนำเหลือตันละ 12,000 บาท เกิดเสียงโวยวายจากชวนาทั่วประเทศทั้งที่เป็นคนกันเอง แต่เมื่อถูกต้มถูกหักหลังถูกถบทิ้งเพื่อเอาตัวรอด แน่นอนว่าในวันนี้(25 มิย.)ตามกำหนดการจะเป็นแค่การให้ตัวแทนมายื่นหนังสือประท้วงก่อนถ้ายังเฉยหรือพยายามกลบเกลื่อนเชื่อว่าหลังจากนี้คงต้องเจอดีแน่ ม็อบใหญ่คงเกิดขึ้นแน่ เพราะเรื่อง "ผลประโยชน์"ที่ตัวเองเคยได้รับแต่เมื่อหายวับไปกับตาเป็นใครก็ไม่ยอม และยิ่งแทนที่จะไปแก้ปัญหาลดการหารับประทานลดการโกงของพวกพ่อค้านักการเมืองเจ้าของโรงสี คนพวกนี้กลับไม่ถูกแตะต้อง ไม่ตรวจสอบ ทั้งที่เงินที่สูญไปนับแสนล้านบาทหากนำมาเพิ่มให้ชาวนาได้เท่าเดิมก็คงไม่มีปัญหา แต่นี่ดันทำในเรื่องตรงกันข้ามมันก็ต้องเจอกันหน่อย
00 ที่น่าทุเรศไปยิ่งกว่านั้นก็คือมีการขึงขังจะไปตรวจโกดังข้าว ตรวจโรงสีดูสต๊อกข้าวว่ายังมีอยู่ดีหรือเปล่ามอบหมายให้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ดูแล ก็ใจดีจนน่าหยิก เพราะได้ป่าวประกาศให้โจรทราบล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ว่าวันที่ 29 มิย.จะเข้าไปตรวจไปจับแล้วนะ จะทำอะไรก็รีบทำเสียก่อนให้เรียบร้อยนะ และงานนี้ก็มีตำรวจเข้ามาร่วมตรวจสอบ โอ้ แม่เจ้ามันช่างน่าเชื่อถือเสียนี่กระไร ทีจริงน่าจะให้ครบเซ็ทดึง ดีเอสไอของ ธาริต เพ็งดิษฐ์ เข้ามาเสริมอีกแรง งานถนัดไม่ใช่หรือ ทุด !!
00 กรณีข้าวหาย สต็อกลมจะเริ่มผุดออกมาเรื่อยๆ ไม่ใช่ที่พิจิตรเพียงแห่งเดียว และที่นี่จะว่าไปแล้วเรื่องแดงขึ้นมาเพราะจงใจเบี้ยวชาวนาหลังจากรับจำนำข้าวไปแล้ว ดันไม่ยอมออก"ใบประทวน"ให้ชาวนานำไปขึ้นเงิน หายเข้ากลีบเมฆนานกว่า 4-5 เดือนจนนำไปสู้การร้องเรียนแจ้งความ และเมื่อมีการตรวจสอบตามน้ำก็จำนนต่อหลักฐานปรากฏว่าข้าวล่องหนไปกว่า 800 ตันเกลี้ยงโกดัง มันก็เลยชี้ให้เห็นว่ากรณีแบบนี้แหละจะเกิดขึ้นอีกหลายโกดัง หลายโรงสี แต่แทนที่จะตรวจสอบพร้อมกันทั่วประเทศแบบไม่ให้ตั้งตัว แต่พี่เต้นก็ดันรีบประกาศบอกโจรให้เตรียมตัวล่วงหน้าว่าจะไปจับแล้วนะเตรียมทางหนีเอาไว้ให้ดี ถ้าอย่างนี้ก็เตรียมคำตอบล่วงหน่าได้เลยว่าผลออกมาทุกอย่างอยู่ครบ ไม่มีมอด ไม่หายสักเมล็ดเดียว เชื่อเถอะ !!
00 หลายคนกำลังจับตาว่าปรับครม.เที่ยวนี้ บุญทรง เตริยาภิรมย์จะหลุดจากเก้าอี่รมว.พาณิชย์หรือไม่ เพราะถูกมองว่าเป็นตัวการทำให้ความนิยมของรัฐบาลดิ่งลง ซึ่งกระทบชิ่งไปถึงครอบครัวชินวัตร โดยเฉพาะ ทักษิณ แต่หากพิจารณาอีกมุมหนึ่งที่ผ่านมาเขาไมาเคยปริปากเลยว่าตัวเลขขาดทุนเป็นตัวเงินเท่าไหร่ เก็บความลบได้เงียบเชียบ แถมการลดวงเงินจำนำเที่ยวนี้ก็ลดแต่เฉพาะประโยชน์ของชาวนา ส่วนของ "เจ๊ด."กลับไม่ลดสักบาทเดียว แล้วแบบนี้จะปรับออกทำไม อย่างมากก็โยกไปนั่งตัวอื่นสลับฉากเท่านั้น !!