“องอาจ” ระบุรัฐบาลลดราคาจำนำข้าวแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ทำชาวนาเสียประโยชน์ แนะไปแก้การทุจริต เชื่อตรวจโกดังข้าวแค่สร้างภาพ พบทุจริตยากเหตุไปประกาศไว้ล่วงหน้า แฉพบทุจริตเพิ่ม ทั้งข้าวเปลือกที่สีแล้วหายไปจากสต๊อก 2.98 ล้านตัน ข้าวถุงถูกใจล่องหนอีก 1.6 ล้านตัน จี้เร่งตรวจสอบด้วย ด้าน “หมอวรงค์” โพสต์เฟซบุ๊ก อัดรัฐบาลทำแจ๊งจำนำข้าวแล้วพาลโทษ ปชป. แนะ “ณัฐวุฒิ” ตรวจโกดังที่สุรินทร์ จะเจอของดี
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการรับจำนำข้าว ที่รัฐบาลมีมติให้ลดราคาจำนำข้าวจากตันละ 15,000 บาท เหลือ 12,000 บาท ชี้ให้เห็นรัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานและแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด ทำให้ชาวนาสูญเสียผลประโยชน์ ขณะที่งบประมาณในการจัดการโครงการและข้าวสารที่อยู่ในสต๊อกยังคงไม่เปลี่ยนแปลงตามราคาจำนำข้าวที่ลดลง ซึ่งจุดที่รัฐบาลควรเข้าไปแก้ไขอย่างแท้จริง คือ การบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาผู้ที่ทำการทุจริตในโครงการมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจำบางส่วน และพ่อค้าคนกลาง
นายองอาจ กล่าวว่า การที่ รัฐบาลออกมาประกาศว่า วันที่ 29 มิถุนายน นี้ จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบปริมานข้าวในโรงสีที่สต็อกข้าวของรัฐบาล 1,600 แห่งทั่วประเทศภายในวันเดียว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ทำไมตลอด 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลเพิ่งพยายามออกมาตรวจสอบ ทั้งที่ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งมองได้ว่าเป็นการสร้างภาพของรัฐบาล และการที่เจ้าหน้าที่จะลงตรวจสอบครั้งนี้ก็ยากที่จะพบการทุจริตเนื่องจากมีการประกาศล่วงหน้า ดังนั้น รัฐบาลควรที่จะลงไปตรวจสอบโดยไม่แจ้งล่วงหน้ามากกว่า
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบปัญหาใหม่ คือ มีข้าวเปลือกที่สีแล้ว เป็นข้าวนาปี 2554/2555 ข้าวนาปรัง 2555 และข้าวนาปี 2555-2556 หายไปจากสต็อกถึง 2.98 ล้านตัน รวมถึงโครงการทำข้าวถุงถูกใจ จำนวน 2 ล้านตัน แต่ข้าวกลับหายไป 1.6 ล้านตัน พบว่ามีข้าวถุงในตลาดเพียง 4 แสนตัน โดยที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น รัฐบาลควรลงมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง
ส่วนในกรณีที่จะมีการชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาวในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ เพื่อต่อต้านการทำงานของรัฐบาล และมีความพยายามปล่อยข่าวมือที่สามที่จะออกมาก่อเหตุรุนแรงจากคนในของรัฐบาล ซึ่งในเรื่องดังกล่าวรัฐบาลมีหน้าที่สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ให้มีมือที่สามออกมาก่อเหตุความรุนแรง โดยเฉพาะการออกมาของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยมีพฤติกรรมไปก่อกวนการชุมนุมของคนกลุ่มอื่นเปนประจำ ซึ่งตนเชื่อว่าถ้าหากรัฐบาลเอาจริงเอาจังความรุนแรงจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ด้าน น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ว่า “สังเกตดูครับว่าช่วงนี้พรรคเพื่อไทยตั้งแต่นายกยิ่งลักษณ์ คุณกิตติรัตน์ คุณบุญทรง คุณวราเทพ คุณณัฐวุฒิ หรือแม้แต่ นายพานทองแท้ พยายามออกมาพูดว่าโครงการจำนำดี ชาวนามีชีวิตดีขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจ และพยายามว่าพรรคประชาธิปัตย์ไปกดดัน ผมยังงงเลยว่าแล้วใครไปบังคับให้พวกท่านต้องมาลดราคาจำนำจาก15000 เหลือ12000 บาท
การที่พวกเราต้องออกมาค้านที่พวกท่านต้องลดราคาเพราะพวกเราต้องปกป้องประโยชน์ชาวนา การลดครั้งนี้ลดแต่ประโยชน์ชาวนา แต่ค่าสีแปร ค่าขนข้าว ค่าเช่าโกดัง ค่าตรวจคุณภาพข้าวโดยเซอเวเยอร์ ค่าดูแลข้าว รมควันฆ่ามอด ค่าประกันภัย สิ่งต่างๆ เหล่านี้พวกท่านกลับไม่ไปลดของเขาโดยเฉพาะผลประโยชน์ตอนระบายข้าวก็ไม่ลด พวกเราจึงถือว่าไม่ให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องชาวนา คิดถึงอกเขาอกเราตอนรับเข้าทำงานบอกเงินเดือน 15,000 แต่วันดีคืนดีขอจ่าย 12,000 บาทใครจะยอม ที่สำคัญที่สุดเป็นนโยบายหาเสียงที่ทำให้ท่านได้เสียงข้างมากพวกท่านจึงต้องรับผิดชอบ ตกลงใครกันแน่ที่สั่งให้ท่านต้องลดราคาจาก 15,000เหลือ 12,000......บอกมา ถ้าจะอ้างพรรคประชาธิปัตย์ พวกเราจะสั่งให้ท่านขึ้นราคาไปที่15,000 เดี๋ยวนี้ แต่ให้ไปลดความสูญเสียอย่างอื่นก่อน ..........ดูซิว่าจะยอมไหม ????? ที่แท้ทำเจ๊งเองแล้วมาพาลคนอื่น!!!!
ส่วนกรณีที่คุณณัฐวุฒิบอกว่าจะดีเดย์วันที่ 29 มิ.ย. เป็นวันปฏิบัติการพร้อมกัน ตรวจทุกโกดัง ทุกโรงสี ไซโล คลังสินค้า ภายใต้ชื่อ "เปิดทุกโกดัง ดูทุกคลังสินค้า ผ่าทุกโรงสี" ผมดูแล้วจะเป็นปาหี่มากกว่าเพราะผมมีประสบการณ์การไปตรวจโกดังข้าวในฐานะกรรมาธิการ ไม่ง่ายอย่างที่คิดครับ ที่สำคัญถ้าท่านเอาจริงมันต้องผ่ากองข้าวออกมา ให้ถึงไข่แดง ไม่ใช่ไปถึงถ่ายรูป เจาะข้าวกองนอกโชว์แค่นี้ เขาเรียกสร้างภาพครับ ถ้าท่านมีเวลาอย่าลืมไปตรวจโกดังข้าวหอมมะลิที่สุรินทร์ด้วยครับ รอยต่ออำเมืองกับอำเภอปราสาท ท่านอาจจะได้เจอของดีครับ