• ตะลึง!! เห็ดขึ้นกลางองค์เจ้าแม่กวนอิม
จีน : รูปแกะสลักพระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งประดิษฐานภายในสำนักชีเชตวน เขตหนานจิง มณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ได้มีกลุ่มเห็ดขึ้นกระจายกลางองค์ เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้มาสักการะ ซึ่งต่างพากันถ่ายรูปเก็บไว้
รูปพระโพธิสัตว์กวนอิมดังกล่าว แกะสลักจากไม้การบูร สูง 2.68 เมตร มีกลุ่มดอกเห็ดขึ้นกระจายตามพระกรและพระอุระ เนื่องจากสภาพอากาศโดยรอบมีความชื้นและอุณหภูมิสูง สำนักชีเชตวนเรียกกลุ่มเห็ดนี้ว่า “กลุ่มเมฆมงคล” และถือเป็นนิมิตรอันดี
(จาก Globaltimes)
• โนเกียออกโทรศัพท์มือถือสไตล์พุทธทิเบต
สหรัฐอเมริกา : บริษัท โนเกียออกโทรศัพท์มือถือเอาใจพระสงฆ์ทิเบต ด้วยรุ่นที่มีรูปลักษณ์บ่งบอกถึงความเป็นชาวพุทธทิเบต พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานครบครันสำหรับภิกษุโดยเฉพาะ โดยมีปฏิทินทิเบตและวันหยุดต่างๆ สามารถเล่นเพลงทิเบต และเพิ่มความบันเทิงอื่นๆ และระบบข้อมูลเป็นภาษาทิเบต
ตัวเครื่องเป็นสีแดงสีเดียวกับจีวรพระ ฝาสไลด์เปิดปิด หน้าจอโทรศัพท์ออกแบบเป็นรูปวงกลมให้ดูคล้ายมันดาลา (วงล้อจักรวาล) ที่สื่อให้เห็นถึงความเงียบสงบ มีกงล้ออธิษฐานบนจอให้พระใช้หมุนเมื่อสวดมนต์ครบรอบ หน้าจอเป็นระบบสัมผัส ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส แป้นพิมพ์ที่อยู่ด้านล่าง ออกแบบให้หมุนได้รอบทิศ ดูคล้ายมันดาลาที่กำลังหมุน ส่วนฝาด้านหน้าเป็นลวดลายจีวร
(จาก Technologyinnovationsite)
• วัดเกาหลีใต้จัดปาร์ตี้หาคู่ให้หนุ่มสาว
เกาหลีใต้ : วัดเฮืองกัคซา ในเมืองโกยาง จังหวัดคย็องกี ประเทศเกาหลีใต้ ได้จัดงาน “ปาร์ตี้รวมพลคนหนุ่มสาวโสด” เป็นประจำทุกวันเสาร์ที่สามของเดือน เพื่อให้หนุ่มสาว 10 คู่ที่ได้รับการคัดเลือกจากผู้สมัครกว่าร้อยคน ได้พักค้างคืนที่วัด ทำกิจกรรมร่วมเฟ้นหาคนรู้ใจ
เจ้าอาวาสวัดเฮืองกัคซาได้กล่าวแก่หนุ่มสาวที่เข้าร่วมกิจกรรมว่า “ทุกๆคนมีรูปร่างหน้าตาดี ดังนั้น ขอเพียงมองโลกในแง่ดีและเปิดใจ คุณก็จะพบคนรู้ใจ” จากนั้นให้หนุ่มสาวเลือกจับคู่ พูดคุยทำความรู้จักและร่วมทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ นั่งพับดอกบัว รับประทานอาหารวัด สวดมนต์ 108 บท ฯลฯ
เมื่อกิจกรรมสิ้นสุดลง คู่ที่ต้องการสานต่อสัมพันธ์ อาจนัดเจอกันอีกในสถานที่อื่นๆ ซึ่งเจ้าอาวาสได้ให้คำแนะนำก่อนลาจากว่า “การได้รู้จักคนอื่นๆเป็นสิ่งสำคัญ แต่หากได้เข้าใจซึ่งกันและกันอย่างถ่องแท้ จะช่วยเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์”
ชายหนุ่มวัย 33 ปีคนหนึ่งที่เข้าร่วมปาร์ตี้กล่าวว่า “วัดเป็นสถานที่ที่ผมได้ปลดปล่อยความเครียดจากการทำงาน และยังทำให้ผมมีโอกาสได้เจอเนื้อคู่ ผมเป็นคนขี้อาย และไม่ค่อยมีเวลา แต่ผมก็รอเวลาเหมาะๆที่จะได้พูดคุยกับสาวๆ”
ขณะที่หนุ่มทำงานวัย 29 ปีอีกรายบอกว่า “บรรยากาศที่เงียบขรึมของวัด ช่วยให้ผมรู้สึกจริงจัง ผมตั้งใจฟังพระเทศน์ และพยายามเข้าหาผู้อื่นด้วยท่าทีที่เป็นมิตร”
(จาก Koreatimes)
• อินเดียรณรงค์ทวงคืน ‘บาตรพระพุทธเจ้า’
อินเดีย : รากูวานช์ ปราสาท ซิงห์ อดีตหัวหน้าพรรคการเมือง RJD ของอินเดีย เริ่มต้นการรณรงค์ทวงคืนบาตรจำลองขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งตกอยู่ในความครอบครองของอัฟกานิสถานเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว
ซิงห์เผยว่า ชาวเวสาลีมีสิทธิ์ในการทวงคืนสมบัติแห่งชาติชิ้นนี้ เนื่องจากพระพุทธองค์ทรงมอบบาตรให้แก่ชาวเมืองเวสาลี หลังทรงแสดงปัจฉิมโอวาท และเสด็จปรินิพพานเมื่อ 2556 ปีที่แล้ว และอีก 500 ปีต่อจากนั้น จึงมีการบูชาบาตรเป็นประจำในเมืองเวสาลี
ต่อมา พระเจ้ากนิษกะแห่งอาณาจักรกุษาณะ เข้ารุกรานอินเดียในคริสต์ศตวรรษที่ 1 และนำบาตรกลับไปยังเมืองปุรุษปุระ (ปัจจุบันคือเมืองเปชวาร์ในปากีสถาน) และในช่วงที่นายโมฮัมหมัด นาจิบูลาห์ เป็นประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน (1987-1992) ได้เคลื่อนย้ายบาตรไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์คาบูล จนถึงปัจจุบัน
การรณรงค์นี้ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์พุทธศึกษานานาชาติ 60 แห่ง โดยซิงห์ได้ยื่นเอกสารทางประวัติศาสตร์ ต่องานสำรวจทางโบราณคดีแห่งชาติและกระทรวงการต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว และมั่นใจว่า รัฐบาลอินเดียจะดำเนินการทวงคืนสมบัติชิ้นนี้กลับสู่ประเทศอย่างแน่นอน
“พระฟาเหียนและพระถังซัมจั๋ง ภิกษุจีนซึ่งเดินจาริกแสวงบุญไปยังอินเดียในคริสต์ศตวรรษที่ 5 และ 7 ได้บันทึกว่า บาตรดังกล่าวอยู่ในอัฟกานิสถาน เช่นเดียวกับที่นักประวัติศาสตร์ชาวอินเดียที่มีชื่อเสียงหลายคนเชื่อว่า พระเจ้ากนิษกะได้นำบาตรกลับไปที่อัฟกานิสถาน” ซิงห์ กล่าว
อนึ่ง บาตรดังกล่าวทำด้วยหินแกรนิตสีเทาอมเขียว หนักเกือบ 400 กก. มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.75 เมตร สูงเกือบ 4 เมตร ขอบหนา 18 ซม. มีลวดลายกลีบบัวที่ฐาน คาดว่าทำจำลองให้มีขนาดใหญ่กว่าบาตรจริงของพระพุทธเจ้าที่อยู่ภายในวัดแห่งหนึ่งในเมืองเวสาลี เพื่อให้ชาวบ้านใส่บาตรเป็นครั้งแรก
ปัจจุบัน บาตรจำลองขนาดมหึมานี้ ถูกนำมาตั้งแสดง ณ ทางเข้าพิพิธภัณฑ์คาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน
(จาก Hindustan Times)
• ลามะทิเบตช่วยสงวนพันธุ์เสือดาวหิมะ
สหรัฐอเมริกา : มีงานวิจัยชิ้นใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Conservation Biology เผยว่า เสือดาวหิมะ สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธ์ ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากวัดหลายร้อยแห่งบนที่ราบสูงทิเบต ประเทศจีน เนื่องจากวัดเหล่านั้นตั้งอยู่ในถิ่นอาศัยของเสือดาวหิมะ และด้วยคำสอนของพุทธศาสนาที่เน้นเรื่องความรัก เคารพ และเห็นอกเห็นใจในทุกสรรพชีวิต ทำให้บรรดาลามะช่วยกันป้องกันไม่ให้มีการลักลอบฆ่าเสือดาวหิมะ
โดยระหว่างปี 2009-2011 มีองค์กรอนุรักษ์หลายแห่งเข้ามาทำงานร่วมกับวัด 4 แห่งในท้องถิ่น เพื่อลดปัญหาขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างคนกับเสือดาวหิมะ และฝึกลามะให้ช่วยคุ้มครองสัตว์ป่า นอกจากนี้ ลามะในวัดอื่นๆที่ไม่ได้ร่วมในโครงการ ต่างพากันลาดตระเวนเพื่อปกป้องเสือดาวหิมะเช่นกัน และยังสอนชาวบ้านไม่ให้ฆ่ามัน เพราะถือเป็นบาป
อนึ่ง เสือดาวหิมะราว 3,500-7,000 ตัว ที่อาศัยอยู่ตามภูเขาสูงในทวีปเอเชีย โดยอยู่ในจีนราว 60% ถูกฆ่าเพื่อเอาขนไปทำเสื้อขนสัตว์ และนำอวัยวะภายในไปใช้ทำยาจีนแผนโบราณ รวมถึงปศุสัตว์ที่ไล่ล่าพวกมันที่ลอบเข้ามากินแกะหรือแพะที่เลี้ยงไว้ ด้วยเหตุนี้ ทำให้พวกมันลดจำนวนลงราว 20% ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา
(จาก Livescience)
• นิพพานผ่านดนตรี
จีน : คณะการแสดงศิลปะ “กวงซวน” ซึ่งก่อตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2008 กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากจะแสดงที่วัดแล้ว ยังได้รับเชิญไปแสดงในงานการกุศลต่างๆด้วย
คณะนี้ประกอบด้วยนักแสดงที่เป็นพระสงฆ์และแม่ชี อายุระหว่าง 7-42 ปี กว่า 40 รูป จากวัดเทียนไต่ ที่ตั้งอยู่ในมณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลางของจีน เป็นคณะแสดงที่ใช้เครื่องดนตรีตะวันตกล้วนๆ เช่น ไวโอลิน และเชลโล เล่นเพลงคลาสสิกของโมซาร์ทหรือบาค ร้องประสานเสียง เล่นดนตรีเดี่ยว และเต้นรำ ซึ่งนักแสดงทุกคนไม่มีพื้นฐานด้านดนตรีมาก่อน จึงได้ใช้เวลาที่เหลือจากภารกิจในวัด เรียนและฝีกฝนวันละ 7 ชม. โดยมีบรรดาศิลปินและศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงจากโรงเรียนดนตรีแห่งชาติ มาสอนให้ฟรี
“กวงซวน” ถือเป็นคณะการแสดงศิลปะคณะแรกของจีน ที่มุ่งส่งผ่านความรู้สึกสงบและสำนึกในคุณค่าของพุทธศาสนาผ่านดนตรี
“ปัจจุบัน คนใช้ชีวิตอย่างรีบเร่ง แทบไม่มีเวลาฟังเทศน์หรือเสียงสวดมนต์ จึงน่าจะเป็นความคิดที่ดีที่ส่งเสริมให้พวกเขาได้เข้าถึงพระพุทธศาสนาผ่านเสียงดนตรี เราหวังที่จะดึงดูดคนทั่วไปให้เข้าถึงศาสนาพุทธเพิ่มมากขึ้น” พระชิหวูเล่อ เจ้าอาวาสวัดเทียนไต่ กล่าว
ทั้งนี้ เบื้องต้นมีการกล่าวหาว่าคณะกวงซวน กระทำขัดต่อจารีตประเพณี เพราะไม่ใช้เครื่องดนตรีจีนโบราณ เช่น กู่เจิง และผีผา ในการแสดง โดยเจ้าอาวาสบอกว่า “ดนตรีไม่มีพรมแดน เครื่องดนตรีทุกชนิดสามารถแสดงออกถึงปัญญาพุทธ การใช้เครื่องดนตรีที่แตกต่าง อาจทำให้ดนตรีในพุทธศาสนาน่าฟังมากยิ่งขึ้น”
(จาก Global Times)
• รถไฟสายด่วน “มหาปรินิพพานเอกซ์เพรส” จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา
อินเดีย : การรถไฟเพื่อการท่องเที่ยวแห่งอินเดีย (IRCTC) จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา ในโครงการพาเพื่อนเที่ยวฟรี กับมหาปรินิพพานเอ็กเพรส โดยผู้เดินทางสัญชาติอินเดียที่ซื้อแพคเกจทัวร์มหาปรินิพพานเอกซ์เพรส เดินทางวันที่ 5 ตุลาคม 2013 สามารถนำเพื่อนร่วมเดินทางได้ 1 คนฟรี
โดยแพคเกจทัวร์ 7 คืน 8 วัน ราคาเริ่มต้นที่ 57,000 รูปี (ราว 29,000 บาท) ราคานี้รวมตั๋วรถไฟ โรงแรม รถบัสปรับอากาศ อาหาร ประกันอุบัติเหตุ การเที่ยวชมสถานที่ต่างๆโดยมัคคุเทศก์ ฯลฯ การเดินทางเริ่มต้นและสิ้นสุดที่สถานีรถไฟซาฟดาร์จุง ในกรุงนิวเดลี
อนึ่ง มหาปรินิพพานเอกซ์เพรส เป็นรถไฟปรับอากาศขบวนพิเศษ ที่นำนักท่องเที่ยวไปยังเมืองสำคัญทางพุทธศาสนา อาทิ พุทธคยา นาลันทา ราชคฤห์ สารนาถ พาราณสี กุสินารา ลุมพินี (เนปาล) สาวัตถี และอัครา ซึ่งตลอด 6 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มเปิดบริการ มีนักท่องเที่ยวและนักแสวงบุญกว่า 30 ประเทศใช้บริการนี้
(จาก The Hindu)
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 154 ตุลาคม 2556 โดย เภตรา)