ความเครียดเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และวิธียอดนิยมที่เพื่อนๆ แนะนำให้ปฏิบัติเวลาเกิดความเครียดคือ “นั่งสมาธิ” ใช่ไหมคะ การนั่งสมาธิหรือกำหนดลมหายใจเป็นวิธีที่ดีค่ะ แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่ไม่สามารถนั่งเฉยๆ เป็นเวลานานได้ เรียกว่านั่งได้แป๊บเดียวไม่นาน เป็นต้องยุกยิกแล้วกระโดดขึ้นมาทำนู่นทำนี่ ให้เครียดต่ออยู่ร่ำไป
ถ้าอย่างนั้นลองมาดูวิธีคลายเครียดด้วยการทำใจให้สงบโดยไม่ต้องนั่งนิ่งๆ เป็นเวลานานๆ กันดีกว่าค่ะ
• ขณะอาบน้ำ ปล่อยให้น้ำจากฝักบัวกระลงบนศีรษะ หายใจเข้าออกช้าๆ ลึกๆ 3 ครั้ง หลังจากนั้นให้เพ่งสมาธิไปที่ความรู้สึกของหยดน้ำที่ตกกระทบผิว ที่กลิ่นหอมๆ ของสบู่และแชมพู และที่เสียงน้ำหยดลงกระทบอ่างอาบน้ำ
จินตนาการว่า ปัญหาเครียดๆของเราลอยขึ้นมาอยู่บนผิว แล้วค่อยๆถูกชำระล้างออกไปตามสายน้ำ หลับตาลงและพูดกับตัวเองอย่างช้าๆ ว่า “สบายจังเลยน้า....” ประมาณ 3 ครั้ง ค่อยๆ เพ่งสมาธิในทุกคำพูดที่ผ่านออกมาจากปากและสงบใจให้ได้ดั่งที่พูด
เท่านี้ความรู้สึกของเราก็จะได้รับการชำระล้างจนหมดก่อนออกจากห้องอาบน้ำ
• ที่โต๊ะทำงาน หลับตาลงและหายใจเข้าลึกๆ กลั้นไว้นิดหนึ่ง แล้วจึงค่อยผ่อนลมหายใจออกแรงๆ รวม 5 รอบ พยายามจินตนาการงานสุดเครียดของเราเป็นคู่ต่อสู้ในสนามกีฬาที่เราเล่นประจำ ส่วนบรรดาความสามารถที่ดีของตัวเอง (เช่น ความคิดสร้างสรรค์, ความมานะพยายาม และความมุ่งมั่น) คือผู้เล่นฝ่ายเรา
ลองนึกดูว่า เราจะดึงผู้เล่นดีๆของตัวเองซึ่งก็คือความสามารถชนิดอื่นๆ มาช่วยให้เอาชนะในศึกนี้และประสบความ สำเร็จในงานได้อย่างไร ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเพื่อกลับไปทำงานต่อ ให้ลองนึกภาพเมื่อทำงานชิ้นนี้เสร็จสิคะ สดชื่นขึ้นไหมคะ ช่วงเวลานั้นกำลังจะมาถึงเร็วๆนี้แล้วค่ะ!
• ขณะเดิน ก่อนเราจะเริ่มออกเดิน (ไม่ควรมี iPod หรือเครื่องเล่นเพลงเสียบหูนะคะ) ให้ยืดตัวขึ้นตรง หดพุงกระทิเข้ามาจนกระทั่งรู้สึกเหมือนตัวเองสูงขึ้นกว่าเดิม เดินช้าๆ และเพ่งสมาธิไปที่แต่ละส่วนของร่างกาย โดยให้รู้สึกเหมือนแต่ละส่วนทำงานแยกจากกัน
แรกสุดลองไปที่เข่าทั้งสองก่อนค่ะ ลองสังเกตการทำงานว่าเข่าหดและยืดอย่างไร หลังจากนั้นไปที่สะโพกบ้าง ต่อที่คอ เรื่อยลงมาจนถึงข้อเท้า และส้นเท้าส่วนที่สัมผัสกับพื้น หลังจากนั้นให้กลับไปที่แขนว่าแกว่งอย่างไร คอเรารู้สึกเหมือนยืดยาวออกขณะเดินหรือไม่ ลองใส่ใจในทุกก้าวเดินเช่นนี้ประมาณ 10 นาที เราจะรู้สึกได้ว่า ร่างกายเหมือนกลับมาสดชื่นอีกครั้ง
• ขณะเปลี่ยนท่า เลิกคิ้วขึ้นและค้างไว้นับถึง 3 จึงค่อยคลายออกแล้วจึงสูดหายใจเข้าออกลึกๆ ทำเช่นนี้สองครั้ง (อย่ากลัวว่าตีนกาจะมาค่ะ มันมาแล้วเดี๋ยวก็ไป) ทำซ้ำกับอวัยวะอื่นในร่างกายด้วยการเกร็งขึ้นมาแล้วจึงคลายออก เช่น ไหล่หรือแขน แล้วจึงนั่งอย่างสงบ สังเกตร่างกายว่า กล้ามเนื้อผ่อนคลายมากขึ้นเพียงใด
เมื่อผ่อนคลายแล้วให้จดจำความรู้สึกนั้นไว้ค่ะ การคลายกล้ามเนื้อต้องการออกซิเจนเพียงน้อยนิด ดังนั้น จังหวะการหายใจช่วงนี้จึงช้าลง หัวใจจะเต้นช้าลง และความดันโลหิตจะลดลงด้วยเช่นกัน ดังนั้น ร่างกายเมื่อผ่อนคลายจึงทำให้อารมณ์สงบลงไปด้วย
(จากหนังสือ 100 เรื่องเด่นความรู้เพื่อส่งเสริมสุขภาพสำหรับประชาชน)
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 152 สิงหาคม 2556 โดย ผศ.พญ.วินิทรา นวลละออง ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)