xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมบันเทิง : The Great Gatsby (2013) ผลลัพธ์ของสังคมพร่องศีลธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


The Great Gatsby นวนิยายอเมริกันสุดคลาสสิคอายุเกือบ 100 ปี ของ เอฟ สก็อตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ ถูกนำมาปรากฏบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง เวอร์ชั่นนี้เนรมิตงานโปรดักชั่นเสื้อผ้าหน้าผมเต็มที่ ส่งผลให้ผู้ชมยิ่งเห็นความสมจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคมอเมริกันช่วงปี 1922 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1

ในยุคนั้นสหรัฐอเมริกาไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามแบบประเทศทางยุโรป ตรงกันข้ามกลับพุ่งทะยานด้านเศรษฐกิจชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้มหานครศูนย์กลางธุรกิจและการเงินอย่างนิวยอร์ค กลายเป็นเมืองที่บรรดามหาเศรษฐีต่างใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยงไปกับโลกแห่งวัตถุนิยม ทั้งงานปาร์ตี้ และความบันเทิงทั้งหลาย

ว่ากันว่า เอฟ สก็อตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ สื่อความรู้สึกตนเอง ตีแสกหน้าสังคมอเมริกันในยุคนั้น ผ่านการเล่าเรื่องของตัวละครที่ชื่อ “นิค คาราเวย์” หนุ่มไฟแรงจากฝั่งตะวันตก ซึ่งเข้ามาทำงานในตลาดการเงินกลางกรุงนิวยอร์ค โดยพักบ้านเช่าราคาถูกละแวกริมทะเล

ชีวิตของคาราเวย์เหมือนหนุ่มต่างจังหวัดในเมืองใหญ่ทั่วไป แต่จุดเปลี่ยนความต่างอยู่ที่เขามีสถานะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ “เดซี่ บูคาแนน” สาวสวยรวยเสน่ห์ ซึ่งตกถังข้าวสารด้วยการแต่งงานกับ “ทอม บูคาแนน” นักโปโลตัวฉกาจ ที่อยู่ในตระกูลเศรษฐีผู้ดีเก่า

การแวะไปเยี่ยมเดซี่ ทำให้คาราเวย์ได้พบความจริงว่า สามีของเธอแอบนอกใจ ไปมีสัมพันธ์กับสาวที่อู่ซ่อมรถย่านชานเมือง ซึ่งเป็นภรรยาของ “จอร์จ วิลสัน” ช่างซ่อมรถที่ทอมคุ้นเคย ขณะที่วิลสันก็ไม่เคยระแคะระคายว่า เมียตัวเองจะกลายเป็นชู้รักกับเศรษฐีที่มาเติมน้ำมันในอู่บ่อยๆ ส่วนคาราเวย์ที่ต้องมารับรู้เรื่องราวเหล่านี้ เพราะโดนทอมลากไปงานปาร์ตี้ชู้รัก

แต่เรื่องหนึ่งซึ่งยังเป็นที่สงสัยใคร่รู้ของคาราเวย์ คือ เพื่อนบ้านที่ชื่อ “เจย์ แกตสบี้” ซึ่งอยู่ที่คฤหาสน์หลังโตติดบ้านเช่าของเขาเป็นใคร ทำไมเขารู้สึกว่าแกตสบี้เฝ้าจับตามองเขาตลอด ทั้งๆที่เขาเป็นเพียงหนุ่มบ้านนอกธรรมดาๆ ซึ่งตรงข้ามกับแกตสบี้ที่ร่ำรวย แถมยังนิยมจัดงานปาร์ตี้สุดยิ่งใหญ่อลังการ ชนิดที่เหล่าเซเลบ คนดัง ผู้มีอำนาจ ตำรวจ นักการเมือง นักธุรกิจ แทบทั้งนิวยอร์ค แห่แหนกันขอเข้ามาร่วมงานด้วยโดยไม่มีบัตรเชิญ

แล้วในวันหนึ่ง สิ่งที่น่าตื่นเต้นก็เกิดขึ้นกับคาราเวย์ เมื่อเขาได้รับการ์ดเชิญจากแกตสบี้ให้ไปร่วมงานปาร์ตี้ เมื่อถึงค่ำคืนแห่งการฉลอง คาราเวย์ก็พบกับความยิ่งใหญ่ของงานปาร์ตี้ที่ไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต ผู้คนต่างเดินทางมาร่วมงานกันมืดฟ้ามัวดิน แต่ทว่าเขาเป็นเพียงผู้เดียวที่มีบัตรเชิญ

คาราเวย์เก็บความสงสัยไว้ ปล่อยมันผ่านไปกับแสงสีเบื้องหน้า ก่อนจะไปกระทบไหล่หนุ่มรูปงามคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ เจย์ แกตสบี้ บุรุษลึกลับที่ทุกคนยำเกรง

ความสัมพันธ์ที่น่าประหลาดใจ แต่ก็ดูแสนจะจริงใจ ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะหลังจากนั้น แกตสบี้ก็ชวนคาราเวย์ไปพบปะสังสรรค์ในโอกาสอื่นๆ ราวกับเป็นมิตรสหายเก่าแก่ โดยคาราเวย์ไม่เคยล่วงรู้ถึงเหตุผล

กระทั่งวันหนึ่ง คำตอบนั้นก็มาถึง เมื่อ “จอร์แดน เบเคอร์” นักกอล์ฟสาวชื่อดัง เพื่อนสนิทของเดซี่ ซึ่งมีโอกาสคุยกับแกตสบี้ ได้เผยความลับว่า ที่จริงแล้วแกตสบี้คือคนรักเก่าของเดซี่ แต่ด้วยความรักถูกอุปสรรคเรื่องฐานะกีดกั้น กว่าที่แกตสบี้จะกลับมาพร้อมกับความร่ำรวย เดซี่ก็ตกลงปลงใจไปกับชายอื่นแล้ว

เหตุที่แกตสบี้เข้ามาตีสนิทกับคาราเวย์ ก็เพื่ออยากให้เขาช่วยเชิญเดซี่มาร่วมจิบน้ำชาที่บ้านของคาราเวย์ เพื่อจะได้ไม่น่าเกลียด

แผนการให้คนรักเก่าที่จากกันไปนาน ได้กลับมาพบปะพูดคุยกัน เป็นไปอย่างราบรื่น คาราเวย์รู้สึกสบายใจที่เห็นทั้งสองมีความสุข เพียงแต่ทุกคนต่างไม่รู้เลยว่า นั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความยุ่งยาก และนำไปสู่ปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในภายหลัง

ปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นจาก “การไม่หักห้ามใจ” ของทั้งแกตสบี้และเดซี่ ฝ่ายชายรู้ดีว่า เขากำลังจะดึงคนรักเก่าซึ่งมีสถานะเป็นภรรยาของผู้อื่น ให้กลับมาเป็นคนรักของตนอีกครั้ง ขณะที่ฝ่ายหญิงก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความหรูหราฟุ้งเฟ้อที่ฝ่ายชายมอบให้ ผสมกับความเสน่หาในอดีต สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ไม่ต่างอะไรจากชู้รัก

แม้คาราเวย์จะอยู่ในสภาวะน้ำท่วมปาก ที่ต้องเก็บงำความลับต่างๆเอาไว้ แต่ที่สุดแล้ว ความลับย่อมไม่มีในโลก ทอมเริ่มรู้ว่า ภรรยากำลังนอกใจ เขาจึงสืบสาวประวัติของแกตสบี้ จนรู้ว่า แกตสบี้เป็นแค่เด็กยากจน ที่ได้รับความมั่งคั่งมาจากการช่วยเศรษฐีไร้ทายาทคนหนึ่ง ก่อนจะต่อยอดความร่ำรวยด้วยการลักลอบค้าสุรา ซึ่งเป็นสินค้าผิดกฎหมายในยุคนั้น แถมยังติดสินบนนักการเมือง นายตำรวจใหญ่

งานเลี้ยงที่ต้องการฉีกหน้ากากจอมปลอมของแกตสบี้จึงเกิดขึ้น เมื่อวันหนึ่งทอมชวนทุกคนไปสังสรรค์ส่วนตัวภายในโรงแรมหรู ก่อนจะค่อยๆเค้นความลับของเศรษฐีหนุ่มออกมาให้ภรรยาได้รับทราบ แม้งานนี้แกตสบี้จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่เขาก็มั่นใจว่า เดซี่จะตัดสินใจหย่ากับทอม ตามที่ตกลงกันไว้

แต่แล้วความรู้สึกสับสนของเดซี่ ก็ทำให้แผนของแกตสบี้ไม่เป็นไปตามที่คาด และวิกฤตมากกว่านั้น เมื่อเขาพาเดซี่ขับรถหนีกลับบ้าน ก็ไปชนคนตาย ซึ่งก็คือ ภรรยาของจอร์จ วิลสัน นั่นเอง สาเหตุของอุบัติเหตุ ก็เป็นเรื่องที่เกิดจากผลกรรมโดยแท้ เพราะจอร์จจับได้ว่า เมียตัวเองนอกใจ เธอจึงฟูมฟายวิ่งออกไปที่ถนน เพื่อขวางรถซึ่งเธอคิดว่าทอมขับมา

เมื่อทอมได้ข่าวการเสียชีวิตของชู้รัก เขาทั้งแค้น ทั้งตกใจ แต่ก็อาศัยจังหวะดังกล่าว ป้ายความผิด และเป่าหูจอร์จ ว่าแกตสบี้คือคนที่ลักลอบเล่นชู้ และอาจต้องการฆ่าปิดปาก เรื่องนี้จึงนำไปสู่บทสรุปของชีวิตแกตสบี้ในเช้าวันหนึ่ง เมื่อจอร์จลักลอบเข้าไปปลิดชีพเศรษฐีผู้ยิ่งใหญ่ในคฤหาสน์หลังงาม

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเสนอเรื่องราวของสังคมอันฟอนเฟะในยุคนั้นไว้อย่างลึกซึ้ง และเมื่อมองผ่านมุมของพุทธศาสนาก็เห็นได้ชัดว่า วิกฤตของปัญหาทุกอย่าง มาจากการละเมิดศีล 5 นั่นเอง

การตัดสินใจทำลายชีวิตผู้อื่น, การลักลอบค้าของเถื่อนผิดกฎหมาย ติดสินบน (ไม่ต่างจากการขโมย), การผิดภรรยาผู้อื่น การนอกใจ, การกล่าวเรื่องโกหกหลอกลวง และเมามายลุ่มหลงในสุราจนขาดสติ

ทั้ง 5 ประการนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ ผ่านการกระทำของตัวละครที่หลากหลาย ซึ่งอาศัยในสังคมเมืองอันแสนจะตกต่ำด้านศีลธรรม ซึ่งหากพิจารณา“ความเชื่อมโยง” ของเหตุการณ์ต่างๆ ก็จะพบว่า ศีล ทั้ง 5 ข้อนั้น หากประพฤติผิดข้อใดข้อหนึ่ง มันก็สุ่มเสี่ยงที่จะไปละเมิดข้ออื่นๆ ตามมา

ดังนั้น “ศีล 5” จึงเป็นเรื่องสำคัญ เป็นหลักยึดมั่นขั้นพื้นฐานที่ชาวพุทธพึงปฏิบัติ เพราะ “ศีล 5” คือ หลักเบื้องต้นที่จะนำชีวิตหลุดพ้นจากความเสื่อม หากใครหลุดกรอบ ละเมิดไปข้อใดข้อหนึ่ง แล้วไม่รีบดึงตัวเองกลับมา ความเสื่อมของชีวิตก็จะค่อยๆเพิ่มพูนขึ้น ถูกดูดลงไปในวังวนแห่งกิเลส ชักจูงให้ผิดข้ออื่นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งต้องประสบกับหายนะในที่สุด

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 151 กรกฎาคม 2556 โดย ชยวรรศ มานะศิริ)





กำลังโหลดความคิดเห็น