เชียงราย - ชาวอำเภอเวียงชัยนับร้อยฮือปิดถนนขวางรถผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ให้ออกจากพื้นที่ หลังเข้าตรวจการทิ้งขยะบนที่ ส.ป.ก. ตามข้อร้องเรียน เจอสวนกลับคนร้องถมที่รุกคูเมืองโบราณ แถมขุดดินล้ำถนนสาธารณะไปขายอีก
วันนี้ (28 พ.ค.) ชาวบ้านร้องเจริญ หมู่ 11 และบ้านร่องห้า หมู่ 1 ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ประมาณ 100 คน นำโดยนายอำนวย เนืองนันที ผู้ใหญ่บ้านร่องห้า นายอำนวย กาบจอก ผู้ใหญ่บ้านร้องเจริญ นายทอง ก๋าแก้ว อดีตผู้ใหญ่บ้านร่องห้า รวมตัวปิดทางเข้า-ออกที่ดิน ส.ป.ก.4-01 บ้านร่องห้า ใกล้กับคูเมืองโบราณ หรือเมืองไชยนาราย เพื่อไม่ให้รถตู้ของนายนิติ วิรัชวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 1 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะออกจากพื้นที่ หลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก.4-01 เนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ ติดกับคูเมืองโบราณ ตามข้อร้องเรียนของนายเติง บัวจำ อยู่บ้านเลขที่ 222 บ้านร่องห้า ที่ระบุว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่บริหารจัดการเรื่องขยะ และทางชุมชนได้นำขยะไปทิ้งบริเวณที่ดินดังกล่าวจนทำให้ตนเองได้รับความเดือดร้อน
กลุ่มชาวบ้านที่ปิดล้อมรถให้เหตุผลว่า ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 แปลงดังกล่าวนอกจากจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขยะแล้ว ผู้ที่ถือครองอยู่ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของที่แท้จริง แต่ได้มาจากบุคคลที่มีชื่อถือครองมาอีกต่อ รวมทั้งยังมีการขุดดินทั้งในที่ดินของตัวเอง และบนถนนสาธารณะจนหน้าดินมีรอยเว้าให้เห็นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังถมคูเมืองโบราณจนแคบเดินข้ามได้ ทั้งที่ในอดีตเป็นคูลึกและกว้าง
นายทองกล่าวว่า เจ้าของที่ดินแปลงนี้เคยมีปัญหากับชาวบ้านมาแล้ว โดยได้ถมดินล้ำเขตคูน้ำโบราณ และขุดดินบนถนน รวมทั้งที่ดินของตัวเองออกไปขาย จนชาวบ้านร้องเรียนมาครั้งหนึ่ง จากนั้นนายเติงก็ยินยอมขุดคูให้ลึกเหมือนเดิมด้วยดีประมาณ 200 เมตร แต่กลับไปร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินว่าชาวบ้านนำขยะไปทิ้งจนตัวเองได้รับความเดือดร้อน ทั้งที่ชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านได้ตกลงกันว่าจะใช้คูที่ลึกกว่า 3 เมตรนี้เป็นสถานที่ทิ้งขยะ และเผา หรือฝังตามขั้นตอน เนื่องจากเห็นว่าเป็นที่สาธารณะ รวมทั้งไม่อนุญาตให้คนนอกนำขยะไปทิ้งด้วย
นางหอมนวล บุญเรือง ชาวบ้านคนหนึ่ง กล่าวว่า ที่ดินบริเวณนี้มีคูน้ำลึก 2-3 เมตรล้อมรอบ เนื้อที่หลายร้อยไร่เพราะเป็นเมืองโบราณที่เรียกว่าไชยนาราย ในอดีตเคยพบโบราณวัตถุ เช่น อิฐโบราณ ชาม ถ้วย กระดูกช้าง แต่ปัจจุบันชาวบ้านเข้าไปถือครองทำการเกษตร ดังนั้นชาวบ้านจึงไม่เห็นด้วยที่นายเติงจะถมคูเมืองโบราณ และเมื่อชาวบ้านใช้เป็นสถานที่ทิ้งขยะกลับมาถมหรือขุดดินเพิ่มเติม ก่อนจะไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน
ทั้งนี้ คณะผู้ตรวจการแผ่นดินได้ให้ความสนใจในข้อมูลที่ชาวบ้านบอก แต่ก็อยากให้ชาวบ้านไปประชุมหารือและหาทางออกกันที่ศาลากลางจังหวัด แต่ชาวบ้านยังไม่ยอมให้รถของคณะผู้ตรวจการแผ่นดินออกจากพื้นที่ เพราะต้องการให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ผางาม ช่วยทำบันทึกข้อตกลง ระบุเนื้อหาว่าให้นายเติงยินยอมขุดคูให้ลึกเหมือนของเดิม และกลับไปใช้ประโยชน์ในเขต ส.ป.ก.4-01 เช่นเดิม โดยให้นายเติงมาลงชื่อพร้อมกับผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน และนายประสิทธิ์ ศิริคำฟู นายก อบต.ผางาม นายสรศักดิ์ คำฟู กำนันตำบลผางาม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเจรจากันอยู่นาน เพราะนายเติงได้ออกไปจากที่ชุมนุม ทิ้งรถตู้ของผู้ตรวจการแผ่นดินให้อยู่กลางวงล้อมของชาวบ้าน จนต้องนำเอกสารไปขอให้นายเติงลงนามที่บ้าน ชาวบ้านจึงยอมเปิดถนน และพากันเดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดเพื่อให้ทางจังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อแก้ปัญหาให้ชาวบ้านต่อไป