xs
xsm
sm
md
lg

รอบรู้โรคภัย : ระวัง! โรคที่เกิดจากความร้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เนื่องจากขณะนี้ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ทุกคนให้ความสำคัญ นับวันอุณหภูมิของโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ สภาพอากาศในประเทศไทยก็มีอุณหภูมิสูงขึ้นเช่นเดียวกัน

โรคจากความร้อน เป็นโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่โดยทั่วไปไม่ค่อยพบบ่อยในประเทศไทย อาจทำให้แพทย์ไม่ได้คำนึงถึงในการวินิจฉัยโรคลมแดด (Heat Stroke) ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต

อาการสำคัญ และวิธีป้องกันโรค มีดังนี้

1. โรคลมแดด (Heat Stroke) เป็นโรคที่เกิดจากความร้อนที่มีอาการรุนแรงที่สุด อาจเสียชีวิตได้ สาเหตุเนื่องจากระบบการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายไม่ทำงานในสภาวะอากาศที่ร้อนจัด

สัญญาณเตือน มีอาการแสดงหลายแบบ ดังนี้

- อุณหภูมิร่างกายสูงมากกว่า 40 องศาเซลเซียส หรือ 103 องศาฟาเรนไฮ โดยการวัดทางปาก
- ผิวหนังแดง ร้อน และแห้ง ไม่มีเหงื่อ
- ชีพจรเต้นแรง และเร็ว
- ปวดหัวตุ๊บๆ
- วิงเวียน
- คลื่นไส้
- สับสน
- ไม่รู้สึกตัว

คำแนะนำเมื่อพบผู้ป่วยที่มีอาการ

- นำผู้ป่วยเข้าในที่ร่มทันที
- ทำให้อุณหภูมิร่างกายเย็นลงทันที โดยการใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัว แช่ในน้ำเย็นหรือใช้ผ้าชุบน้ำเย็นห่อตัวในรายที่อาการหนัก
- ไม่ให้น้ำดื่มแก่ผู้ป่วยในรายที่ไม่รู้สึกตัว ถ้าผู้ป่วยมีอาการคล้ายชัก ห้ามใช้วัสดุเช่น นิ้ว หรือช้อนส้อม ใส่เข้าไปปากผู้ป่วย ในรายที่อาเจียนให้จับผู้ป่วยตะแคงเพื่อป้องกันการสำลัก
- ส่งพบแพทย์ทันที

2. โรคเพลียแดด (Heat Exhaustion) เป็นโรคที่เกิดในขณะที่ร่างกายอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง หรือจากการออกกำลังกายอย่างหนัก จนทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงกว่า 37 องศาเซลเซียส แต่ไม่เกิน 40 องศาฟาเรนไฮ

สัญญาเตือน มีอาการแสดงหลายแบบ ดังนี้

- เหงื่อออกมาก
- หน้าซีด
- กล้ามเนื้อเกร็ง
- รู้สึกเหนื่อย
- อ่อนแรง
- วิงเวียน
- ปวดหัว
- คลื่นไส้หรืออาเจียน
- เป็นลม

ผู้ป่วยจะมีชีพจรเบาและเร็ว อาจมีอาการหายใจเร็วและตื้น ในรายที่ไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีอาจนำไปสู่โรคลมแดดได้ ในรายที่อาการหนัก หรือมีโรคประจำตัวเช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ให้รีบพบแพทย์ทันที

คำแนะนำเมื่อมีอาการ

- ดื่มน้ำเย็น (ปราศจากแอลกอฮอล์)
- พัก
- อาบหรือเช็ดตัวด้วยน้ำเย็น
- ถ้าเป็นไปได้ให้อยู่ในสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ เพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย
- สวมเสื้อผ้าที่เบาสบาย

3. โรคตะคริวแดด (Heat Cramps) มักจะเกิดขึ้นในคนที่เสียเหงื่อมากในระหว่างการออกกำลังกายหรือใช้แรงมาก ทำให้ร่างกายเสียน้ำและเกลือแร่ ระดับเกลือที่ต่ำลงในกล้ามเนื้อส่งผลให้เป็นตะคริว (อาจเป็นอาการหนึ่งของโรคเพลียแดดก็ได้) ผู้ป่วยจะมีอาการปวดกล้ามเนื้อ เกร็ง ที่บริเวณหน้าท้อง แขน หรือขา

คำแนะนำเมื่อมีอาการ

- หยุดการออกกำลังกายหรือการใช้แรงทันที และเมื่ออาการดีขึ้นแล้ว ไม่ควรออกกำลังกายซ้ำภายใน 2-3 ชั่วโมง- - รีบเข้าที่ร่ม ถ้าเป็นไปได้ให้อยู่ในสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ
- ดื่มน้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มที่มีเกลือแร่
- ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 ชั่วโมง ให้ไปพบแพทย์

4. ผิวหนังไหม้แดด (Sunburn) ผิวหนังเป็นรอยแดง ปวดแสบร้อนเล็กน้อยหลังจากถูกแดด โดยทั่วไปมีอาการเล็กน้อย สามารถหายเองได้ภายใน 1 สัปดาห์ ในรายเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี หรือรายที่มีไข้ ตุ่มพองน้ำใส ปวดรุนแรง ให้ปรึกษาแพทย์

คำแนะนำเมื่อมีอาการ

- หลีกเลี่ยงการออกแดดซ้ำ
- ประคบเย็น
- ทาโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นบริเวณที่เป็น

ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคจากความร้อน (Heat-related illness)

1. เด็กทารกและเด็กเล็ก
2. ผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี
3. ผู้ที่ท้วม หรือน้ำหนักเกิน
4. ผู้ที่ออกกำลังกายหรือใช้แรงอย่างหนัก
5. ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง หรือกำลังรับประทานยาบางชนิด เช่น ยารักษาภาวะซึมเศร้า นอนไม่หลับ

(ข้อมูลจากสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค)

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 148 เมษายน 2556 โดย กองบรรณาธิการ)

กำลังโหลดความคิดเห็น