xs
xsm
sm
md
lg

ใส่ใจสุขภาพ : ใช้ธรรมชาติบำบัด พัฒนาคุณภาพชีวิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธรรมชาติบำบัด หมายถึงการดูแลรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิตโดยอาศัยกระบวนการตามธรรมชาติให้มีความสมดุลของการพักผ่อน การออกกำลังกาย และการกินอาหาร โดยที่ไม่ใช้ยาและสารเคมีในการบำบัดรักษา

Mr.Jacob Vadakkanchary คุณหมอชาวอินเดีย ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาแบบธรรมชาติบำบัด ได้กล่าวว่า โรคทุกชนิดที่เกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจของคนเรา สามารถเยียวยารักษาตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ หรือแม้แต่โรคมะเร็ง

ขอเพียงแค่ไม่ปล่อยให้ชีวิตของเราต้องมีแต่ความวิตกกังวล หรือความเครียดมากเกินไป รวมถึงการไม่ออกกำลังกาย หรือการพักผ่อนอย่างไม่เพียงพอ หรือการกินอาหารที่มีสารเคมีปนเปื้อน ซึ่งหากเราใช้ชีวิตแบบปล่อยปละละเลยไม่ระมัดระวังเช่นนี้ ก็จะทำให้เกิดผลเสีย และเกิดโรคร้ายต่างๆ ต่อร่างกายของเรา

ดังนั้น การจะมีสุขภาพกายและใจที่ดีได้นั้นจึงต้องประกอบด้วยการมีสมดุลของการพักผ่อน การออกกำลังกายและการกิน ดังนี้

การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำให้จิตใจสดชื่น รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และทำให้กล้ามเนื้อเข็งแรงแล้ว ยังช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือด หัวใจ ปอดและระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น

การออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่ายๆ เช่น เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เต้นรำ แอโรบิก เล่นกีฬา ซึ่งตามปกติแล้วเราควรใช้เวลาในการออกกำลังกาย ครั้งละประมาณ 30- 45 นาที สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรง

การพักผ่อน

หมายถึง การพักผ่อนร่างกายและการพักผ่อนจิตใจ ได้แก่

• การพักผ่อนร่างกาย การพักผ่อนที่ดีที่สุด คือ การนอนหลับ โดยทั่วไปร่างกายของคนเราต้องการการนอนหลับพักผ่อนประมาณ 7-9 ชั่วโมง ขณะนอนหลับนั้น ร่างกายและสมองจะมีการซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่สึกหรอ เมื่อตื่นมาเราจึงรู้สึกสดชื่น มีเรี่ยวแรงกำลังในการดำเนินชีวิตอย่างเต็มเปี่ยม

ดังนั้น คนที่มีปัญหาในการนอนไม่หลับ หรือนอนน้อย จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย สมองล้า ไม่ค่อยมีสมาธิ ผิวพรรณไม่มีน้ำมีนวล บางคนอาจเกิดปัญหาสิวด้วย แต่ที่น่ากลัว คือ จะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดต่ำลง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคภัยต่างๆ ตามมาได้อย่างมากมาย

• การพักผ่อนจิตใจ คือ การทำจิตใจให้สงบ ผ่อนคลาย ละความเครียดและความวิตกกังวลต่างๆลง การพักผ่อนจิตใจทำได้ไม่ยาก เช่น

• การพักผ่อนอยู่กับบ้าน พยายามอย่าเอาการงานที่ทำอยู่มาทำให้รกสมอง เช่น ไม่รับโทรศัพท์เรื่องงาน หรือหากิจกรรมที่ตัวเองชื่นชอบมีความสุขทำ ไม่ว่าจะเป็นการนอนอ่านหนังสือเรื่องโปรด ฟังเพลงที่ชอบ ดูหนังที่อยากดู หรือการทำงานอดิเรกที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำ เช่น จัดสวน เย็บปักถักร้อย ทำงานศิลปะ ก็เป็นการสร้างความสุขให้กับตัวเองได้อย่างง่ายๆแล้ว

• การท่องเที่ยว การไปท่องเที่ยวยังที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ธรรมชาติ เช่น ทะเล ภูเขา ไร่สวน สวนสาธารณะ จะทำให้จิตใจสบาย ผ่อนคลายความเครียดได้ดี หรือการไปในสถานที่ต่างๆ ที่เราไม่เคยไปพบเห็น เช่น ที่ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แปลกตา ก็จะทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น และมีความสุขกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้รับ

การกิน

ตามหลักของธรรมชาติบำบัด เน้นการกินพืชผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ที่ปลอดสารเคมี รวมถึงการดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และควรกินอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ และให้มีสารอาหารครบ 5 หมู่

ตัวอย่างของอาหารที่กินแล้วจะช่วยทำให้มีสุขภาพแข็งแรง ได้แก่

• อาหารต้านหวัด คือ อาหารที่มีวิตามินซี เพราะวิตามินซีมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มคอลลาเจนและคาร์นีทีน ซึ่งช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และทำให้ระบบการทำงานของสมองดีขึ้น อาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ฝรั่ง ส้ม มะละกอ กีวี มะม่วง คะน้า กะหล่ำดอก ตำลึง กระเทียม

• อาหารต้านโรคกระเพาะ โรคกระเพาะเป็นโรคสามัญอีกโรคหนึ่งที่เกิดได้ง่ายกับคนทุกเพศทุกวัย เมื่อเป็นแล้วก็จะรบกวนการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก เพราะจะมีอาการปวดท้อง แน่น จุก เสียด ถ้าเป็นหนักและรักษาไม่ดี อาจกลายเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารก็ได้ด้วย

ดังนั้น การป้องการจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราห่างไกลจากโรคนี้

การกินอาหารที่ทำจากเนื้อปลา ช่วยในการต้านโรคกระเพาะได้อย่างมาก เพราะเนื้อปลาเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย และช่วยให้ผนังกระเพาะอาหารดูดซึมได้เร็วขึ้น จึงใช้เวลาย่อยไม่นาน ทำให้ไม่มีอาหารตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร ซึ่งหากมีอาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารมาก ก็อาจเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ ในเนื้อปลายังมีกรดอะมิโนที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

การกินผักใบเขียว และผักที่มีสีเหลือง หรือส้ม และผลไม้ที่มีเบตาแคโรทีนสูง เช่น แอปเปิ้ล มะละกอ ฟักทอง แครอท หน่อไม้ฝรั่ง ผักกาด ช่วยป้องกันเลือดออกในกระเพาะ และช่วยเพิ่มการดูดซึมได้ดีด้วย

นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เพราะน้ำช่วยให้กรดในกระเพาะอาหารที่มีความเข้มสูง เจือจางลงได้

• อาหารต้านเบาหวาน ควรกินอาหารที่มีเส้นใย เช่น ผัก ธัญพืช เต้าหู้ และพยายามงดอาหารจำพวกแป้งด้วย นอกจากนั้น ควรกินมะระ เพราะมะระมีสารชื่อ polypeptide-p ซึ่งช่วยลดการดูดซึมของกลูโคส กินผักบุ้ง ซึ่งมีสารคล้ายอินซูลินสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้ และยังช่วยลดการท้องผูกได้ด้วย

• อาหารต้านมะเร็ง ควรกินธัญพืช ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลีและลูกเดือย นำมาปรุงเป็นอาหารแบบชีวจิตรับประทาน ดื่มชาเขียว เพราะชาเขียวประกอบด้วยคาเทชิน ซึ่งสามารถป้องกันการเกิดมะเร็ง และยังสามารถเปลี่ยนเซลล์มะเร็งให้เป็นเซลล์ปกติได้

และกินปลาทะเลอย่างสม่ำเสมอ เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน เพราะปลาเหล่านี้มีไขมันที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างดี

หลักของธรรมชาติบำบัด คือ การมุ่งเน้นให้เราดูแลรักษาตัวเองโดยใช้หลักธรรมชาติในการพักผ่อนร่างกายและจิตใจอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ปลอดสารเคมี และรับประทานพืชผักผลไม้ให้มากขึ้น

เพราะถ้าทำดังนี้ได้เป็นประจำ ผลดีก็จะเกิดขึ้นกับตัวเราโดยตรง คือ เราจะเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจอย่างแน่นอน


(ข้อมูลจาก ASTV ผู้จัดการออนไลน์)

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 146 กุมภาพันธ์ 2556 โดย ดร.แพง ชินพงศ์)
กำลังโหลดความคิดเห็น