xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมะกับสุขภาพ : ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต พิชิตโรคเรื้อรัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉบับที่แล้วผู้เขียนได้พูดถึงเรื่องการทำสมาธิช่วยบำบัดโรคเรื้อรังไปบ้างแล้ว ครั้งนี้ขอเพิ่มเติมเรื่องการดูแลรักษาและป้องกันโรคเรื้อรังด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

โรคเรื้อรังต่างๆ เช่นโรคหัวใจ โรคความดัน โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง เป็นสาเหตุการตายส่วนใหญ่ของคนในโลกนี้ แต่ละปีทั่วโลกมีคนเสียชีวิตจากโรคเรื้อรังรวมกัน ปีละ 35 ล้านคน ในจำนวนนี้ 9 ล้านคนมีอายุต่ำกว่า 60 ปี

เราพบโรคหัวใจมากในยุโรปและอเมริกา พบโรคเบาหวานมากในจีนและอินเดีย พบโรคมะเร็งมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ต้องสูญเสียบุคลากรที่มีคุณภาพก่อนวัยอันควรจำนวนมาก จนกระทั่งสหประชาชาติต้องเข้ามาจัดประชุมระดมความร่วมมือในการแก้ปัญหานี้ เนื่องจากก่อให้เกิดการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ทั้งกำลังคนและงบประมาณ เพราะจริงๆแล้วโรคเหล่านี้สามารถป้องกันได้

ผู้ที่ได้ศึกษาเรื่องนี้มานานกว่า 35ปี คือ ศาสตราจารย์ดีน ออร์นิช (Dr.Dean Ornish) ซึ่งผู้เขียนได้เคยพูดถึงเรื่องของโรคหัวใจใน “ธรรมลีลา” ฉบับที่ 142 ต.ค. 55ที่ผ่านมา แต่ในที่นี้ขอกล่าวอีกครั้งหนึ่งในแง่มุมอื่นๆ

ดร.ออร์นิช เป็นอายุรแพทย์ทางด้านโรคหัวใจ ทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก และเป็นประธานสถาบันวิจัยด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ซึ่งได้ทำงานวิจัยเพื่อแสวงหาทางป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ

ดร.ออร์นิชได้ใช้โปรแกรมที่เรียกว่า The Spectrum ซึ่งเขาคิดขึ้นมา โดยใช้การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ซึ่งมีหลักใหญ่ๆ 3 เรื่อง คือ

1) อาหาร เขาให้กินอาหารไขมันต่ำ ร้อยละประมาณ 10-15ให้กินผักผลไม้ให้มาก กินปลาที่มีไขมันโอเมก้า 3 เช่นปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคคาเรล เป็นต้น กินธัญพืชที่ไม่ขัดขาว (Whole grains) ถั่ว เห็ด งา

2) ให้ออกกำลังกายโดยการเดินวันละ 30 นาที

3) ให้ฝึกโยคะ ฝึกสมาธิ ความผ่อนคลาย ทำกลุ่มบำบัด


โดยใช้โปรแกรมนี้ทดลองในผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ พบว่า

• ในโรคหัวใจ การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตสามารถทำให้เส้นเลือดหัวใจที่อุดตันขยายออกได้ โดยไม่ต้องกินยาและผ่าตัด

• ในโรคเบาหวาน การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต สามารถลดน้ำตาลในเลือด และ Beta-A-1C ลงได้ดี ทำให้ใช้ยาเบาหวานลดลง

• ในโรคความดันโลหิตสูง ก็เช่นกัน การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ช่วยลดความดันทั้งค่าบนและล่างลง ช่วยลดการใช้ยาลงได้ภายในเวลา 12 สัปดาห์

• ในโรคซึมเศร้า ในกรณีไขมันในเลือดสูง กรณีของโรคอ้วนก็ได้ผลเช่นเดียวกัน

ส่วนการศึกษาในโรคมะเร็ง เขาทดลองในคนไข้มะเร็งต่อมลูกหมากระยะแรก ซึ่งไม่รุนแรง พบว่า การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเป็นเวลา 1 ปี ช่วยให้ขนาดของมะเร็งลดลง โดยดูจากอัลตร้าซาวด์ทางทวารหนัก และค่า PSA ที่ลดลงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รักษาตามปกติ ซึ่งอันนี้น่าสนใจ แสดงว่าการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้

นอกจากนั้นเขายังพบว่า การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลึกลงไปถึงระดับหน่วยพันธุกรรมที่เรียกว่ายีน (Gene) 500 ตัว ที่สำคัญคือการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตช่วยส่งเสริมยีนที่ยับยั้งการเกิดโรค และยับยั้งยีนที่กระตุ้นให้เกิดโรค ท่านผู้อ่านอาจจะหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน www.pnas.org /gene expression

ล่าสุดอีกเรื่องหนึ่งที่ฮือฮากันมากคือ เรื่องของการชะลอความชรา เขาพบว่า การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตช่วยรักษาความยาวของทีโลเมียร์ (Telomeres)ไม่ให้สั้นลง ทีโลเมียร์เป็นส่วนที่คลุมอยู่ปลายสายของโครโมโซม ซึ่งเป็นตัวกำหนดอายุคนเรา ถ้าทีโลเมียร์สั้นลงเร็ว อายุก็สั้นลงด้วย (สำหรับเรื่องทีโลเมียร์นี้ ผู้เขียนจะกล่าวถึงอีกครั้งในตอนต่อๆไป)

งานวิจัยที่เล่ามานี้ ท่านผู้อ่านสามารถดูได้ในเว็บไซด์ของสถาบันวิจัยด้านเวชศาสตร์ป้องกัน (www.pmri.org/research)

ท่านผู้อ่านครับ ปัจจุบันนี้ โปรแกรม Spectrum ของ ดร.ดีน ออร์นิช ได้รับการยอมรับและนำไปใช้ในโรงพยาบาลต่างๆ ไม่น้อยกว่า 300แห่ง นอกจากนั้น เขายังได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ปรึกษาในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน แห่งสหรัฐอเมริกา วัย 65 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบเมื่อปี 2004 และเข้ารับการผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ (coronary bypass surgery) 4 เส้น ในปีต่อมาเส้นเลือดที่ผ่าไว้ตีบตันอีก จึงต้องรับการผ่าตัดใหม่ เขาอยู่ต่อมาได้อีก 5ปี และล่าสุดเมื่อปี 2010เขามีอาการเจ็บหน้าอกอีก และเข้ารับการขยายเส้นเลือดและใส่ขดลวดไว้ 2 เส้น

กรณีของคลินตัน เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า การผ่าตัดเป็นเพียงการแก้ปัญหาปลายเหตุ เมื่อยังไม่แก้ที่ต้นเหตุ ก็จะกลับมามีอาการเจ็บหน้าอกและต้องผ่าตัดใหม่อีก

ดังนั้น ดร.ออร์นิชจึงแนะนำให้เขาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ โดยเปลี่ยนจากอาหารเนื้อสัตว์ เบอร์เกอร์ อาหารฟาสต์ฟู้ดที่เขาชื่นชอบ มาเป็นมังสวิรัติ ซึ่งทำให้เขามีน้ำหนักลดลง 24 ปอนด์ รวมทั้งการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จนถึงปัจจุบันเขายังไม่มีอาการเจ็บหน้าอกอีกเลย

ส่วนในด้านจิตใจ คลินตันก็เริ่มเรียนรู้เรื่องของการฝึกสมาธิแบบพุทธ และการสวดมนต์ ซึ่งเขาชอบการสวดมนต์มาก เขากล่าวว่า หลังสวดมนต์เสร็จทุกครั้งเขาจะรู้สึกสดชื่นและมีพลังอย่างประหลาด

ดร.ออร์นิช นับว่าเป็นแพทย์โรคหัวใจที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดท่านหนึ่งในอเมริกา ในการใช้วิธีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตบำบัดโรคเรื้อรังต่างๆ ให้หายได้โดยไม่ต้องใช้ยา หรือใช้ยาน้อยลง

เขาเขียนหนังสือไว้หลายเล่ม เช่น The Spectrum, Eat More, Weight Less, Love and Survival, Dr. Dean Ornish Program for Reversing Heart Disease เป็นต้น โดยอาจจะหาฟังคำบรรยายได้ใน youtube.com พิมพ์ชื่อ Dean Ornish ลงไป ก็จะมีคำบรรยายให้ฟังมากมาย เรื่องที่น่าสนใจ เช่น The Power of Lifestyle Changes and Love – Dr. Dean Ornish, Dean Ornish,M.D. Transform 2010 Mayo Clinic. เป็นต้น

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 146 กุมภาพันธ์ 2556 โดย น.พ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)




กำลังโหลดความคิดเห็น