ข่าวสารบ้านเรา

• ในหลวงพระราชทานชื่อ
พระพุทธรูปทองคำประจำพระชนมพรรษา

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมมหาเถรสมาคม(มส.)ได้รายงานความคืบหน้าโครงการจัดสร้างพระพุทธรูปปางลีลาประจำพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า พระพุทธธรรมิกราชบพิตร ภูมิพลนริศรจตุราสีติวรรษมงคล (พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นพระธรรมิกราช)

นายนพรัตน์กล่าวเสริมว่า พระพุทธรูปปางลีลาจัดสร้างด้วยเนื้อทองคำ 99.99% สูงตลอดรัศมี 38 ซม.น้ำหนักทองคำประมาณ 20 กิโลกรัม แท่นฐาน 8 เหลี่ยมสร้างด้วยเนื้อทองคำขาว น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม โดย มส.ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจำลองตามแบบพระพุทธรูปปางลีลาประจำพระชนมพรรษา ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2520

โดยเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2555 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเททองหล่อ ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

“การจัดสร้างพระพุทธรูปปางลีลาครั้งนี้ถือว่ายิ่งใหญ่มาก ทั้งนี้ การจัดสร้างพระพุทธรูปดังกล่าว นอกจาก มส.แล้วยังมีคณะสงฆ์จีนนิกาย และอนัมนิกาย และประชาชนทั่วประเทศ ร่วมกันบริจาคเพื่อร่วมจัดสร้างด้วย และเมื่อจัดสร้างพระพุทธรูปเสร็จเรียบร้อย มส.ก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อไป”

• พระมหาเจดีย์วัดปากน้ำภาษีเจริญเสร็จแล้ว
พร้อมเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะและปฏิบัติธรรม

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม เปิดเผยว่า จากวัดปากน้ำได้จัดสร้างพระมหาเจดีย์มหารัชมงคลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นเจดีย์ประยุกต์ศิลปะรัตนโกสินทร์และล้านนา สูง 80 เมตร กว้าง 52 เมตร แบ่งเป็น 5 ชั้น ชั้นที่ 1 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ชาวบ้าน ชั้นที่ 2 เป็นพื้นที่ปฏิบัติธรรม สามารถรองรับประชาชนได้1,000 คน ชั้นที่ 3 เป็นพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ จัดแสดงของส่วนตัว เช่น พระพุทธรูป นาฬิกา ไม้เท้า ที่ได้รับจากหน่วยงานและพุทธศาสนิกชน ชั้นที่ 4 ประดิษฐานหลวงพ่อทองคำสร้างจากทองคำ 1,000 กิโลกรัม ห้องปรมาจารย์ในอดีต และชั้นที่ 5 เป็นโดมเจดีย์แก้วหนึ่งเดียวในโลก บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ดวงแก้ว พระพุทธรูปทองคำ หลวงพ่อทองคำ เพดานมีภาพจิตรกรรมเป็นจักรวาล พร้อมเปิดให้ประชาชนได้เข้าสักการะ

สำหรับการสร้างเจดีย์ใช้งบกว่า 500 ล้านบาท โดยได้มีพิธีสมโภชเมื่อวันที่ 22-31 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา

• สธ. ชวนคนไทยมอบบุญปีใหม่
ช่วยสตรีไทยห่างไกลมะเร็งเต้านม

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่า ในเทศกาลปีใหม่ 2556 นี้ สธ.ขอเชิญชวนคนไทยสร้างบุญด้วยการมอบหลวงพ่อโสธร “รุ่นเบญจ-นวมงคล ๕๕๕๕๕๕๕๕๕” เป็นของขวัญให้แก่กัน ทั้งนี้รายได้จะสมทบทุนโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านม ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เจริญพระชนมายุครบ 5 รอบวันที่ 28 กรกฎาคม 2555

ด้าน ดร.นายแพทย์สมยศ ดีรัศมี ประธานมูลนิธิกาญจนบารมี กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อประชาชนโดยเฉพาะสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส ทางมูลนิธิฯจึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อโสธร ดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เช่าบูชา โดยนำรายได้เข้าร่วมสมทบทุนซื้อเครื่องตรวจมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่ (MAMMOGRAM) พร้อมทั้งรถหน่วยประชาสัมพันธ์ จำนวนกว่า 300 ล้านบาท

ผู้สนใจสามารถสั่งจองได้ที่มูลนิธิกาญจนบารมี โทร.0-2591-8185-6 หรือร่วมบริจาคทุนทรัพย์เพิ่มเติมได้ที่มูลนิธิกาญจนบารมี เพื่อเป็นการสร้างบุญกุศลและช่วยชีวิตหญิงไทยให้ปลอดภัยจากโรคมะเร็งเต้านมต่อไป

• สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เชิญชวนคนไทย
ส่ง “เหรียญสุข” สร้างบุญอุโบสถดิน เป็นมงคลรับปีใหม่

พระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 100 พรรษา ในวันที่ 3 ตุลาคม 2556 และเนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2556 สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรมราชทัณฑ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ได้จัดทำเหรียญพระพุทธศรีสุวัฒนบดี หรือเหรียญสุข 5 รูปแบบ ได้แก่ เหรียญเงิน /ทอง อายุวฑฒโก ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยอายุ, เหรียญเงิน/ทอง ธนวฑฒโก ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยทรัพย์, เหรียญเงิน/ทอง สิริวัฒฑโก ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยสิริ, เหรียญเงิน/ทอง พลวฒฑโก ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยกำลัง และเหรียญเงิน/ทอง ขอให้เป็นผู้เจริญด้วยสุข โดยสมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงประทานอัญเชิญพระนามย่อ ญสส. ประดิษฐาน ณ กรอบองค์พระ และกล่อง เพื่อให้ประชาชนส่งมอบเป็นของขวัญที่ระลึกให้แก่บุคคลที่รัก

โดยเปิดให้บูชาเหรียญสุข จำนวน 2 แสนชุด ราคาชุดละ 299 บาท ที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคารกรุงไทย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และศูนย์หนังสือจุฬาฯ ทั้งนี้ รายได้จะนำไปจัดสร้างโครงการสร้างอุโบสถดิน 4 ภาค 9 แห่ง ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ให้แก่วัดที่ยังไม่มีอุโบสถ เพื่อน้อมถวายเป็นพระกุศล และเป็นอนุสรณ์ในวโรกาสดังกล่าว

• กรมการศาสนาขยายโครงการไปสังเวชนียสถาน

นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า จากการที่กรมการศาสนาได้จัดโครงการส่งเสริมพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ประเทศอินเดียและเนปาล ขณะนี้รัฐบาลได้เห็นชอบขยายโครงการเพิ่มจาก 1 รุ่น เป็น 4 รุ่น เดินทางรอบละ 130 คน รวม 520 รูป/คน โดยกรมการศาสนาได้คัดเลือกพระสังฆาธิการ เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด ผู้บริหารศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ นักเรียน นักศึกษา ที่มาร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาต่อเนื่อง วัฒนธรรมจังหวัด ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระพุทธศาสนา เดินทางไปจาริกบุญ โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จำนวน 38 ล้านบาท

• วธ.จัดกิจกรรมฤกษ์ดีปีใหม่ ไหว้พระพุทธรูปวังหน้า

นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เปิดเผยว่า ในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2556

ในส่วนของกรมศิลปากรได้จัดกิจกรรมฤกษ์ดีปีใหม่ ไหว้พระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน โดยได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ 9 องค์ มาให้ประชาชนได้สักการะ ได้แก่

1.พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย-ล้านนา สร้างขึ้นตั้งแต่พ.ศ.700 ซึ่งมีความเชื่อว่า หากได้กราบสักการะจะเกิดสิริมงคลทั้งปวง
2.พระเจ้าห้าพระองค์นาคปรก ศิลปะรัตนโกสินทร์ เชื่อว่าจะปกป้องสิ่งไม่ดีทั้งปวง
3.พระแก้วมรกตหยกรัสเซีย ศิลปะรัตนโกสินทร์ เชื่อว่า จะประสิทธิโชคและโภคทรัพย์
4.พระไภษัชยคุรุ ศิลปะลพบุรี เชื่อว่า จะดลบันดาลให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
5.พระหายโศก ศิลปะล้านนา เชื่อว่า จะไม่มีทุกข์โศก
6.พระชัย ศิลปะรัตนโกสินทร์ เชื่อว่า จะอำนวยฤทธิ์อำนาจแห่งชัยชนะ
7.พระทองคำปางมารวิชัย ศิลปะอยุธยา เชื่อว่า ผู้สักการะจะได้มีความปราดเปรื่องทางปัญญา
8.พระแก้วขาว ศิลปะรัตนโกสินทร์ เชื่อว่า ผู้บูชาจะประสบความเจริญรุ่งเรือง
9.หลวงพ่อนาก ศิลปะล้านนา มีความศักดิ์สิทธิ์ทางด้านแคล้วคลาดเภทภัยทั้งปวง

“ครั้งนี้ กรมศิลปากร ได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์ใหม่รับปี 2556 มาให้ประชาชนสักการะ 5 องค์ ได้แก่ พระเจ้าห้าพระองค์นาคปรก พระแก้วมรกต พระชัย พระทองคำปางมารวิชัย พระแก้วขาว และส่วนอีก 4 องค์เป็นพระคู่บ้านคู่เมืององค์สำคัญที่อัญเชิญมาให้ประชาชนได้สักการะทุกปี ได้แก่ พระพุทธสิหิงค์ พระไภษัชยคุรุ พระหายโศก และหลวงพ่อนาก รวมเป็น 9 องค์ โดยจะเปิดให้สักการะระหว่างวันที่ 1-31 มกราคม 2556 ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร” รมว.วัฒนธรรม กล่าว

• พศ.จัดพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนาเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์พระสงฆ์ ที่ได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้ดำรงสมณศักดิ์ตามสมควรแก่ฐานานุรูป

โดยมีพระราชาคณะที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ตั้งแต่รองสมเด็จพระราชาคณะลงมาถึงระดับพระราชาคณะ ชั้นสามัญ รวม 66 รูป ซึ่งเข้ารับพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 5 ธันวาคม 2555

สำหรับพระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรระดับชั้นต่างๆ 1,980 รูป มีพระบรมราชานุญาตถวายประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร ตามวัน เวลาและสถานที่ ดังนี้

1. ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง จัดพิธี ณ วัดพนัญเชิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา วัน 8 มกราคม 2556

2. ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนเหนือ จัดพิธี ณ พุทธอุทยานนครสวรรค์ วัดภัทรสิทธาราม อ.เมือง จ.นครสวรรค์ วันที่ 15 มกราคม 2556

3. ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนตะวันออก ภาค 10-11-12 จัดพิธี ณ วัดโสธรวราราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา วันที่ 22 มกราคม 2556

4. ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ จัดพิธี ณ วัดสุวรรณคีรีวิหาร อ.เมือง จ.ระนอง วันที่ 29 มกราคม 2556

5. ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนตะวันออก ภาค 8-9 จัดพิธี ณ วัดพระธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 145 มกราคม 2556 โดย กองบรรณาธิการ)