การทำความดีย่อมมีคนยกย่องสรรเสริญ ส่วนการทำความชั่วย่อมมีแต่คนประณามสาบแช่ง
เรื่องนี้เกิดขึ้นในตลาดสดแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ เจ๊กิม เจ้าของร้านขายของชำในตลาด เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเจ้ามือแชร์รายใหญ่ และเป็นคนที่แม่ค้าทั้งตลาดไว้เนื้อเชื่อใจ เพราะเล่นแชร์กันมาเป็นสิบปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหาใดๆ แม่ค้าที่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ก็มักมาขอให้เจ๊กิมช่วยตั้งวงแชร์ให้ ซึ่งแกก็ไม่ขัดข้อง
บางครั้งมีลูกแชร์ในวง เงินหมุนไม่ทันส่งค่างวดแชร์ แกก็ช่วยออกให้ไปก่อนโดยไม่คิดดอกเบี้ย วงแชร์ของเจ๊กิมจึงได้รับความนิยม เพราะได้ดอกเบี้ยดี และได้เงินครบ ไม่เหมือนวงแชร์อื่นๆที่มักมีปัญหาเรื่องเจ้ามือโกง หรือคนเล่นที่ได้เงินก้อนไปแล้วแต่ไม่ยอมส่งค่างวดต่อพร้อมดอกเบี้ย ทำให้คนที่เหลือได้เงินกันไม่ครบ ครั้นจะไปแจ้งความ ตอนนั้นก็ไม่มีกฎหมายเอาผิดได้
กิจกรรมการเล่นแชร์ในตลาดยังคงดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่ง...
มีลูกค้ารายหนึ่งที่ซื้อของประจำกับร้านเจ๊กิม มาชักชวนให้เจ๊กิมไปเล่นแชร์วงใหญ่นอกตลาด โดยบอกว่าแชร์วงนี้ดอกเบี้ยดีมาก และจ่ายตรงทุกงวด เจ้ามือเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ ค้าขายกับต่างประเทศ เธอบอกว่าตัวเองก็เป็นสมาชิกแชร์วงนี้อยู่ เล่นมาปีกว่าแล้ว ได้ดอกมาเยอะเกือบจะเท่าเงินต้นแล้ว จะลงทุนเท่าไหร่ก็ได้ ดอกเบี้ยก็คิดตามเงินต้นที่ลงไป
แรกๆ เจ๊กิมก็ลังเล แต่ความที่แกเองก็เป็นเจ้ามือแชร์ และไม่เคยโกงใคร จึงคิดว่าไม่น่าจะมีใครมาโกงแก แต่เพื่อความไม่ประมาท เริ่มแรกแกก็ลงทุนแต่น้อยก่อน เมื่อเวลาผ่านไปก็เห็นว่าได้ดอกเบี้ยดีอย่างที่ลูกค้าบอก และได้ตรงทุกครั้ง แกจึงค่อยๆเพิ่มเงินลงไปจนกลายเป็นหลักล้าน และผลตอบแทนที่ได้มาก็ทำให้แกดีใจมาก
เมื่อเจ๊กิมได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่าแชร์นอกตลาดวงนี้ไม่มีปัญหา แกจึงเริ่มชักชวนแม่ค้าในตลาดที่เคยเล่นแชร์ด้วยกัน ให้มาเล่นแชร์วงใหญ่แทน
แม่ค้าหลายรายที่พอมีเงินเหลือเก็บก็ทยอยนำเงินมาฝากเจ๊กิมไปเล่นแชร์ให้ และก็ได้รับดอกเบี้ยสูงกว่าฝากธนาคาร ดังนั้น แม่ค้าบางคนจึงถอนเงินฝากจากธนาคารออกมาหมด เพื่อไปลงในแชร์วงใหญ่ที่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเจ้ามือเป็นใคร อยู่ที่ไหน รู้เท่าที่เจ๊กิมบอกว่า เป็นนักธุรกิจใหญ่ที่ค้าขายกับต่างชาติ
ดอกเบี้ยจากแชร์วงใหญ่ ส่งมาทุกงวดไม่เคยขาด พ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างยิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยถึงแชร์วงนี้ไม่ขาดปาก และเอาเงินมาใส่เพิ่มไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง...
วันหนึ่งเจ๊กิมบอกทุกคนว่า ทางเจ้ามือแชร์บอกมาว่า ดอกเบี้ยงวดนี้อาจช้าหน่อย เพราะหมุนเงินสะดุด ซึ่งทุกคนก็ไม่ว่าอะไร เพราะเพียง 2-3 วันหลังจากนั้น ทุกคนก็ได้รับดอกเบี้ยเหมือนเดิม
ต่อมาเหตุการณ์ก็เป็นเช่นเดิม คราวนี้กว่าจะได้รับดอกเบี้ยก็ผ่านไปเกือบหนึ่งอาทิตย์ แต่ก็ยังไม่มีใครเอะใจอะไร... แล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเจ๊กิมบอกว่า งวดนี้ทางเจ้ามือวงใหญ่ไม่ได้ติดต่อมา เบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้ก็ติดต่อไม่ได้ ที่สำคัญคือไม่มีเงินดอกเบี้ยส่งมาเลย
แรกๆทุกคนก็ยังคิดในแง่ดีว่าเจ้ามือแชร์คงหมุนเงินไม่ทัน รอไปอีกหน่อยคงไม่เป็นไร แต่รอเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววว่าเจ้ามือจะติดต่อมา ในที่สุด..ทุกคนก็ต้องใจหายวาบ เมื่อรู้ว่าพวกตนถูกโกงซะแล้ว
เจ๊กิมเครียดกับเรื่องนี้มากจนต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะนอกจากเงินนับล้านของตัวเองที่ต้องสูญเสียไปแล้ว ยังมีเงินอีกหลายล้านของพวกแม่ค้าที่แกชวนมาเล่นด้วย แต่ยังดีที่พวกแม่ค้าเข้าใจว่าแกไม่ได้หลอก เพราะแกเองก็ถูกเขาหลอกเหมือนกัน
เมื่อกฎหมายทำอะไรพวกนี้ไม่ได้ บรรดาแม่ค้าที่ตกเป็นเหยื่อพวกต้มตุ๋นก็ได้แต่รุมประณามสาปแช่ง ขอให้คนที่คดโกงพวกตน ตกนรกหมกไหม้ มีอันเป็นไปชั่วลูกชั่วหลาน ชีวิตครอบครัวอย่าได้มีความสุข ทำอะไรก็ไม่เจริญ ขอให้ชีวิตตกต่ำ พบแต่ความหายนะ วิบัติตลอดไป
วันเวลาผ่านไปเกือบ 20 ปี หญิงสาวที่เป็นลูกค้าเจ๊กิม ซึ่งเคยชวนเล่นแชร์ และก็ถูกโกงจนหมดตัว ได้แวะมาหาเจ๊กิม พร้อมกับเล่าว่า
เธอได้ข่าวมาว่า ชายหนุ่มที่โกงพวกเรานั้น ตอนนี้มีชีวิตที่ลำบากมาก ธุรกิจก็ล่มจม ถูกโกงจนแทบหมดตัว บ้างช่องใหญ่โตก็ต้องขายไป ครอบครัวก็แตกแยก มีลูกชาย 3 คน ลูกคนโตนั้นเกิดมาในขณะที่เขาเพิ่งทำธุรกิจตามปกติ ส่วนอีกสองคนนั้น เกิดมาหลังจากที่เขาร่ำรวยมากจากการโกงเงินแชร์ และนำเงินไปเที่ยวกับครอบครัวอย่างมีความสุข
ตอนนี้ลูกชายคนโตต้องไปเป็นลูกจ้างแบกของส่งของให้กับร้านค้าแห่งหนึ่ง ส่วนคนที่สองก็เป็นเด็กปัญญาอ่อน ช่วยตัวเองไม่ค่อยได้ และคนสุดท้องก็พิการ หูหนวก เป็นใบ้ ลูกชายทั้งสามคนอยู่กับพ่อ เพราะแม่ไปแต่งงานใหม่ เขาต้องหาเงินด้วยการขายของเล็กๆน้อยมาเลี้ยงลูกอย่างยากลำบาก ไปขอหยิบยืมใคร ก็ไม่มีใครให้ เพราะได้ข่าวว่าแต่ก่อนนั้นเขาโกงเงินแชร์ของคนอื่น
ชายหนุ่มเคยคิดอยากฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่ก็เป็นห่วงลูกสองคนที่ไม่สมประกอบ ทุกวันนี้เขาจึงตกอยู่ในสภาพเหมือนตกนรกหมกไหม้ตายทั้งเป็น จากชีวิตเศรษฐีที่แสนสบาย กลายมาเป็นยาจก หาเช้ากินค่ำ อยู่ห้องเช่าเล็กๆกับลูก 3 คน
เจ๊กิมนำเรื่องนี้ไปเล่าในหมู่แม่ค้าขาแชร์ ทุกคนได้แต่สมน้ำหน้า ป้าน้อยแม่ค้าผลไม้จึงพูดขึ้นว่า
“ไม่น่าเชื่อว่า สิ่งที่พวกเราเคยสาปแช่งไว้จะเป็นจริง ช่วยไม่ได้..ใครทำกรรมไม่ดีไว้ก็ต้องรับไป”
การเล่นแชร์ตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ.2534 หมายความว่า การที่บุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไป ตกลงกันเป็นสมาชิกวงแชร์ โดยแต่ละคนมีภาระที่จะส่งเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดรวมเข้าเป็นทุนกองกลางเป็นงวดๆ เพื่อให้สมาชิกวงแชร์หมุนเวียนกันรับทุนกองกลางแต่ละงวดนั้นไป โดยการประมูลหรือโดยวิธีอื่นใด และให้หมายความรวมถึงการรวมทุนในลักษณะอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงด้วย
การฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการเล่นแชร์ มีทั้งโทษปรับและจำคุก แล้วแต่ลักษณะของความผิดที่เกิดขึ้น
ขอเชิญชวนท่านผู้อ่านที่มีประสบการณ์จริงเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งกรรม เขียนเล่ามาเป็นธรรมทานในการเตือนสติแก่เพื่อนร่วมโลกให้ตระหนักถึงบาปบุญคุณโทษ และตั้งอยู่ในความดีงามตลอดไป
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 142 ตุลาคม 2555 โดย อรุณ)