ได้ติดตามการสื่อสารการตลาดหนังเรื่องใหม่ของค่าย GTH “รัก 7 ปี ดี 7 หน” แล้วผมอยากจะให้หนังเรื่องนี้มีส่วนช่วยกระตุ้นให้สังคมคนรุ่นใหม่ สนใจการวิ่งออกกำลังกายมากขึ้นอีก
เพราะภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ผ่านมา GHT สามารถครองความนิยมจากคนรุ่นใหม่ยุคปัจจุบันที่พอใจกับคุณภาพการผลิตอย่างมืออาชีพ และด้วยกลยุทธ์การตลาดที่ดึงดูดความสนใจได้ดี และโดนใจกับเรื่องราวและการนำเสนอแง่มุมใหม่ๆ
ข้อคิดที่ได้รับรู้เบื้องหลังการถ่ายทำ และบทบาทตัวแสดงนำในเรื่อง โดยเฉพาะคู่ของ สู่ขวัญ บูลกุล และ นิชคุณ หรเวชกุล เป็นคนดังทั้งคู่ในจำนวน 3 คู่รักของเรื่อง
ก่อนสวมบทบาทของพระนางที่ต้องเข้าแข่งขันวิ่งมาราธอน จึงต้องฝึกให้เป็นนักวิ่ง เพื่อแสดงให้สมจริง นับเป็นบทพิสูจน์ว่า เมื่อตั้งเป้าหมาย แล้วมีแผนการฝึก มีความมุ่งมั่นใส่ใจ และมีความมานะอดทนด้วยความรับผิดชอบต่อภารกิจ
สิ่งที่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ก็เกิดขึ้นได้
การที่ จิระ มะลิกุล ผู้กำกับมือดีเลือกตัว สู่ขวัญ ที่มีแต่ประสบการณ์เป็นนักเล่าข่าวทางโทรทัศน์ และการเป็นพรีเซนเตอร์เครื่องสำอาง และในชีวิตจริงก็ยังเป็นภรรยา โชค บูลกุล เจ้าของธุรกิจโชคชัย เพราะความเชื่อว่า “ความสามารถสร้างได้” อย่างที่หลายคนเคยทำมาแล้ว
แม้ว่าบทนักวิ่งมาราธอนให้ดูสมจริง มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นัก
สู่ขวัญเคยให้สัมภาษณ์วารสารกายใจ ว่าผู้กำกับบอกว่า ต้องวิ่งให้ได้จริงๆ แบบมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร ซึ่งตอนแรกๆ เธอเองบอกตลอดว่า “ไม่ไหว”
แต่ด้วยวิธีการแนะนำ และให้กำลังใจจากครูฝึกที่ย้ำว่า “การวิ่งมันเป็นมากกว่ากีฬา” จากที่เคยเกลียดการวิ่งมาก แถมเคยมองว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ
พอเริ่มต้นจากการฝึกวิ่งที่สวนลุมพินีตั้งแต่ 8 โมงเช้าทุกวัน จากวันแรกวิ่งรอบสวนลุมฯ ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร โดยถูกฝึกให้วิ่ง 1 นาที เดิน 4 นาที สลับกันไป 1 รอบ เธอบอกว่า ตอนแรกๆ “จะตายเอา ...ต้องต่อรองขอลดรอบวิ่ง” แต่โค้ชก็ปลุกใจว่า “ทำได้ๆน่า...”
เมื่อการฝึกซ้อมวิ่งผ่านไปประมาณ 1 เดือน สู่ขวัญบอกว่า เริ่มรู้สึกอยากวิ่งเองแล้ว
“ไม่ใช่เพราะเราไปรับปากใครมา ไม่ใช่เพราะมีโค้ชไปเฝ้า ไม่ใช่เพราะเราต้องเล่นหนังให้ได้ด้วย แต่มันมาจากความสุขจริงๆ จากนั้นมาก็ไปวิ่งจนถึงทุกวันนี้ และพบว่า การวิ่งมันให้หลายอย่างกับชีวิต...”
ใครอยากรู้ว่าการวิ่งให้คุณค่าอะไรบ้างก็ทดลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง ว่าจะรู้สึกอย่างที่ว่าหรือไม่
ทุกวันนี้ผู้คนมากมายทั่วโลก จึงมีแนวโน้มใช้การวิ่งออกกำลังกาย เพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีเพิ่มขึ้น ขนาดแถวบ้านผมทุกวันช่วงบ่าย มักจะมีคุณพี่วัยหลังเกษียณวิ่งเหยาะๆ รอบหมู่บ้านอย่างเอาจริงเอาจัง
ภาพชายสูงอายุที่ดูแข็งแกร่ง เหงื่อเปียกชุ่มกายน่าเหนื่อยแทนแต่ดูมีความสุข เพราะเห็นเขาทำเป็นกิจวัตร เพื่อสร้างชีวิตที่ยืนยาวอย่างแข็งแรง เห็นแล้วก็ช่วยกระตุ้นให้เห็นความสำคัญที่ต้องจัดโปรแกรมออกกำลังกายเหมือนกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีข้อมูลยืนยันว่า การวิ่งทำให้สุขภาพของหัวใจดีขึ้น คนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายมักมีไขมันไปเกาะบริเวณผนังเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ ทำให้เกิดการอุดตัน ยิ่งไขมันจับตัวหนาขึ้น เลือดที่ผ่านไปเลี้ยงกล้ามเนื้อก็อาจไม่พอ จึงเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ดังนั้น การวิ่งจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยป้องกันโรคนี้ได้
การวิ่งหรือการออกกำลังกายลักษณะใดก็ตาม นอกจากจะสร้างเสริมสุขภาพที่ดี และป้องกันโรคภัยแล้ว ยังเป็นการฝึกฝนและเอาชนะตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เช่น ความใฝ่ดี มีวินัย มุ่งมั่น และอดทน
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 140 สิงหาคม 2555 โดย สุวัฒน์ ทองธนากุล E-mail : suwat@manager.co.th)