ข่าวสารผ่านโลก

ผู้นำองค์กรเอกชนใหญ่แห่งศรีลังกา ได้รับรางวัลส่งเสริมพุทธศาสนา

• ศรีลังกา : เมื่อเร็วๆนี้ สมาคมบักเกียว เดนโดะ เกียวไก ซึ่งเป็นพุทธสมาคมแห่งญี่ปุ่น ได้จัดพิธีมอบรางวัลด้านวัฒนธรรมประจำปีครั้งที่ 45 แก่ ดร. เอ ที อริยรัตเน ผู้ก่อตั้งองค์กรสารโวทัย (Sarvodaya) ซึ่งเป็น องค์กรเอกชนที่ใหญ่ที่สุด และได้รับการยอมรับมากที่สุดในศรีลังกา ในฐานะที่ท่านได้ช่วยส่งเสริมพุทธศาสนา และนับเป็นชาวศรีลังกาคนที่สองที่ได้รับรางวัลเกียรติยศ นี้ นอกเหนือจากอดีตประธานาธิบดีศรีลังกาผู้ล่วงลับ “เจ อาร์ จาเยวาร์ดินี” ซึ่งเคยได้รับรางวัลนี้ในปี 1983

ดร.อริยรัตเนได้รณรงค์และยึดมั่นมากว่า 50 ปีผ่านการเคลื่อนไหวขององค์กรฯ ในการพิสูจน์ผ่านการกระทำ การปาฐกถา และบทความต่างๆ ที่นำเสนอให้ชาวโลกเห็นว่าคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังคงทันสมัยและใช้ได้ผลในโลกยุคปัจจุบัน สามารถนำมาใช้สร้างคนธรรมดาสามัญให้มีชีวิตที่ดีขึ้น สร้างสังคมที่ปราศจากความรุนแรง และใช้ได้กับระบบเศรษฐกิจและการเมืองทั่วโลก

โดยเงินรางวัลทั้งหมดที่ดร.อริยรัตเนได้รับในครั้งนี้ รวมกับเงินบริจาคจากบรรดาญาติสนิทมิตรสหาย จะนำไปใช้ในการก่อสร้างธรรมศาลาและสถูป ที่วัดปาลิยโคเทลปูรณวิหาร ซึ่งตั้งอยู่ข้างสำนักงานใหญ่ขององค์กรสารโวทัย ในเมืองโมราตูวา ประเทศศรีลังกา

(จาก Srilankanewstoday)

พระสงฆ์ถวายเคล็ดลับครองเรือนแด่เจ้าชายวิลเลียมและพระชายา

• อังกฤษ : พระโพโคทะ ศีลวิมล เจ้าอาวาสวัดพุทธลอนดอนวิหาร (London Buddhist Vihara) มหาเถรสังฆนายเกแห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งได้รับนิมนต์ให้ร่วมในพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายวิลเลียม (พระโอรสในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าหญิงไดอานาผู้ล่วงลับ) และนางสาวเคท มิดเดิลตัน ซึ่งจัดขึ้น ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ แอบบีย์ เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา

เจ้าอาวาสวัดพุทธลอนดอนวิหารได้ถวายคำแนะนำแด่คู่อภิเษกว่า เคล็ดลับของการครองเรือนอย่างมีความสุขคือ การทำสมาธิทุกวัน

“คุยปัญหาและทำสมาธิด้วยกันทุกเช้า เพื่อให้จิตว่างเปล่า ก็จะแก้ปัญหาได้”

แม้ว่าพระโพโคทะจะเป็นพระสงฆ์รูปแรกในพุทธศาสนา ที่ได้รับนิมนต์ให้เข้าร่วมในพระราชพิธีอภิเษกสมรสของราชวงค์อังกฤษ แต่นี่มิใช่ครั้งแรกที่ท่านได้เข้าเฝ้าเชื้อพระวงค์

เมื่อต้นปี 2005 หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิครั้งรุนแรงในมหาสมุทรอินเดียในเดือนธันวาคม 2004 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ ได้เสด็จเยี่ยมวัดพุทธลอนดอนวิหาร เพื่อสนับสนุนและชื่นชมความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประชาชนชาวศรีลังกาและที่อื่นๆ ที่ได้รับทุกข์ทรมานสาหัสจากภัยพิบัติ

เจ้าอาวาสเล่าว่า พระองค์ทรงมีพระเมตตา ทรงสนพระทัยในพุทธศาสนา และทรงซักถามหลายเรื่อง ทรงสนพระทัยเรื่องการทำสมาธิและวิธีการนั่งขัดสมาธิ

พระโพโคทะอยากให้เจ้าชายวิลเลียมทรงดำเนินตามรอยพระบาทของพระบิดา เพื่อเข้าเยี่ยมวัดแห่งนี้ “อาตมาอยากให้ทั้งสองพระองค์เสด็จมาปฏิบัติสมาธิที่นี่”

อนึ่ง วัดพุทธลอนดอนวิหาร สร้างขึ้นในปี 1926 เป็นวัดในนิกายเถรวาท ของศรีลังกา และเป็นวัดพุทธแห่งแรกที่ตั้งอยู่นอกทวีปเอเชีย

(จาก Chiswickw4.com)

เวียดนามจัดประชุมชาวพุทธครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศ

• เวียดนาม : การประชุมเพื่อหาหนทางส่งเสริมการสอนพุทธศาสนา ได้จัดขึ้นที่จังหวัดบิ่งเซืองซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเวียดนาม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นเวลา 4 วัน การ ประชุมนี้มีชื่อว่า “พุทธศาสนากับประชาชน” จัดโดยองค์กรสงฆ์ มีการอภิปรายหลายหัว ข้อที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนิกชนกับการป้อง กันสภาพแวดล้อม การพัฒนาพุทธศาสนาในช่วงรอยต่อ และงานกุศล

ในการประชุมครั้งนี้ คณะสงฆ์จากทั่วประเทศ เห็นพ้องต้องกันที่จะมุ่งส่งเสริมค่านิยมทางพุทธศาสนา ให้แก่ยุวพุทธและยุวชน คนหนุ่มสาวทั่วไป ส่งเสริมพุทธศาสนาในหมู่ ชุมชนชาวเวียดนามโพ้นทะเลเผยแพร่การสอนพุทธศาสนาในพื้นที่ห่างไกลและชนกลุ่ม น้อย และจัดกิจกรรมการกุศลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยองค์กรสงฆ์ได้มอบบ้าน 100 หลังแก่ผู้ยากไร้ และบริจาครถจักรยานให้เด็กนักเรียนยากจน รวมมูลค่าทั้งสิ้น 455,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14 ล้านบาท) และเด็กยากจน 15 คนได้รับการผ่าตัดหัวใจ ด้วยเงินบริจาค

นอกจากนี้ ยังมีพิธีสวดอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตและสวดขอพร พร้อมทั้งมีขบวนแห่ไปตามท้องถนน เพื่อส่งเสริมการแก้ปัญหา สภาพแวดล้อมตามวิถีพุทธอีกด้วย

ทั้งนี้ เวียดนามกินเนสส์บุ๊คออฟเรคคอร์ด (เวียตบุ๊ค) หรือหนังสือบันทึกสถิติเวียดนาม ได้บันทึกว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมของพุทธศาสนิกชน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

(จาก VNS)

เกาหลีใต้เตรียมเผยแพร่วัฒนธรรม ผ่านวัดและสถาบันการศึกษา

• เกาหลีใต้ : เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นายลี เมียง บัค ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เรียกร้องให้มีการส่งเสริมวัดพุทธและสถาบันการศึกษา “เซียววอน” ที่เฟื่องฟูในยุคอาณาจักรโชซอน (1392-1910) ในต่างแดน เพื่อช่วยให้ชาวต่างชาติเข้าใจประเพณีและวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ได้ดีขึ้น

“เราต้องหาวิธีที่มีประสิทธิภาพเพื่อสื่อสารมรดกทางวัฒนธรรมที่ดีเยี่ยมของเราให้ชาวต่างชาติได้สัมผัส ผ่านทางวัดและเซียววอน” ประธานธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวระหว่างการประชุมสภาประธานาธิบดี ในหัวข้อการสร้างเอกลักษณ์ของชาติ ที่ทำเนียบประธานาธิบดีชองวาแด

“วัดแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมทางพุทธศาสนาของเกาหลีใต้ ในขณะที่เซียววอนแสดงถึงค่านิยมลัทธิขงจื้อ เราจำเป็นต้องเผยแพร่วัฒนธรรมสองสิ่งนี้แก่ชาวต่างประเทศ และช่วยกันอนุรักษ์ไว้”

ทั้งนี้ “เซียววอน” ในอดีตคือสถาบันซึ่งเป็นทั้งศาลเจ้าขงจื้อและโรงเรียนเบื้องต้นรวมอยู่ด้วยกัน

ด้านนางลี แบ ยอง ประธานสภาฯ ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ เผยว่า สภาฯมีโครงการหลายอย่างที่จะส่งเสริมเซียววอนไปยังต่างประเทศ

“การพัฒนาเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญในการปรับปรุงภาพลักษณ์และชื่อเสียงของประเทศ แต่สิ่งสำคัญ ที่จะทำให้เกาหลีใต้ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ คือ วัฒนธรรม และการศึกษา เราจำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพ ในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เพื่อให้ชาวต่างชาติเข้าใจเราดีขึ้น” เธอกล่าว

(จาก Koreatimes)

ญี่ปุ่นเปิดตัวพิพิธภัณฑ์พุทธแห่งแรกของโลก

• ญี่ปุ่น : พิพิธภัณฑ์เรียวโกกุ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกแง่มุมทางพุทธศาสนาแห่งแรกของโลก ได้เปิดเป็นทางการแล้วที่ชิโมเกียว วอร์ด ในเมืองเกียวโต เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา

โดยมหาวิทยาลัยเรียวโกกุ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนในเครือพุทธศาสนานิกายโจโดชิน หรือนิกายชิน เริ่มสร้างพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวในปี 2007 มีความสูง 3 ชั้น พร้อมห้องใต้ดิน เพื่อเผยแพร่จุดกำเนิดและความเป็นมาของศาสนาพุทธ พร้อมจัดแสดงสิ่งทรงคุณค่าต่างๆทางศิลปวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ทางพิพิธภัณฑ์จะได้จัดนิทรรศการแสดงศิลปวัตถุที่ทางมหาวิทยาลัยเรียวโกกุเก็บรักษาไว้ ให้คนทั่วไปได้ชมเป็นระยะๆในแต่ละปี ซึ่งรวมถึงวัตถุโบราณในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ด้วย

และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพิธีเปิดครั้งนี้ พิพิธภัณฑ์จึงได้จัดนิทรรศการพิเศษที่มีชื่อว่า “Buddha and Shinran” หรือ “พระพุทธเจ้าและพระชินรัน” โดยจัดแสดงพระพุทธรูป 660 องค์พร้อมพระคัมภีร์ต่างๆ ทั้งที่เป็นของญี่ปุ่นและจากประเทศต่างๆในทวีปเอเชีย

โดยนิทรรศการจะมีถึงวันที่ 25 มีนาคม 2012 เพื่อร่วมฉลองครบรอบ 750 ปีแห่งการมรณภาพของพระชินรัน ผู้ก่อตั้งพุทธศาสนานิกายชิน

(จาก PTI)

เนปาลเมินข้ออ้างอินเดีย เรื่องสถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า

• เนปาล : แม้มีรายงานว่ารัฐอุตตรประเทศของอินเดีย ซึ่งอยู่ติดชายแดนเนปาล กำลังก่อสร้างเมืองจำลอง “ลุมพินีวัน” อันเป็นสถานที่ประสูติขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่อยู่ในเนปาล แต่รัฐบาลเนปาลก็ไม่สนใจ ได้เริ่มเดินหน้าโครงการบูรณะลุมพินีวัน ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับความช่วยเหลือจากญี่ปุ่นและองค์กรยูเนสโก เพื่อยืนยันสถานะว่า พระพุทธองค์ทรงประสูติในประเทศเนปาล

“ในปี 1997 องค์กรยูเนสโกได้ประกาศให้ “ลุมพินีวัน” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงที่ว่า พระพุทธเจ้าทรงประสูติในเนปาล” โมท ราช ทอตเตล รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของเนปาล กล่าว

“อินเดียเป็นหนึ่งในเกือบ 200 ประเทศที่ให้การรับรองคำประกาศของยูเนสโกอย่างเป็นทางการ ลองคิดดู พระพุทธเจ้าทรงประสูติในสถานที่ต่างกัน 2 แห่งได้อย่างไร? “ลุมพินีวัน” ในเนปาล คือสถานที่แห่งเดียว บนโลกใบนี้ที่เป็นสังเวชนียสถานประสูติอันศักดิ์สิทธิ์”

นักโบราณคดีกล่าวว่า หลักฐานชิ้นสำคัญที่สุดที่บ่งบอกว่า องค์พระศาสดาทรงประสูติในราชวงค์ที่ปกครองทางตอนใต้ของเนปาล คือ เสาหินอโศก ซึ่งเป็นเครื่องหมายระบุสถานที่ประสูติ ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างขึ้นขณะเยือนลุมพินีวัน เมื่อ 249 ปีก่อนคริสตกาล และข้อความที่สลักบนเสาหินเป็นอักษรพราหมี (อ่านว่า พราม-มี) ว่า “พระเจ้าปิยทัสสี (พระเจ้าอโศกมหาราช) ทรงศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ได้เสด็จมาเยือนสถานที่ประสูติแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวโรกาสครบรอบ 20 ปีที่ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงสร้างเสาหิน รวมทั้งลดภาษีให้หมู่บ้านลุมพินีวัน...”

รวมทั้งหลักฐานทางประวัติศาสตร์สำคัญอีกชิ้นหนึ่ง คือ รูปปั้นพระประสูติกาล ที่พระเจ้าริปูมัลละ กษัตริย์เนปาล ที่เสด็จจาริกแสวงบุญมายังลุมพินีวันในปีค.ศ.1312 ทรงสั่งให้ปั้นขึ้น ซึ่งต่อมาได้รับการบูรณะ เป็นรูปพระนางสิริมหามายาทรงยืนจับต้นสาละด้วยพระหัตถ์ข้างหนึ่ง เคียงข้างคือพระกุมารน้อยแรกประสูติยืนบนกลีบดอกบัว

นับเป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว ที่เหล่าผู้จาริกแสวงบุญได้พากันเดินทางมาที่ลุมพินีวัน เพื่อสักการะเสาหินอโศกและรูปปั้นพระประสูติกาล

คอนสแตนตินี เมอุชชี่ ผู้เชี่ยวชาญชาวอิตาลี ซึ่งผลักดันให้มีการอนุรักษ์ลุมพินีวันด้วยการทำความสะอาดศาสนวัตถุที่สำคัญเหล่านี้ กล่าวว่า เนื่องจากบริเวณที่ราบเตไร มีอุณหภูมิและความชื้นสูง ประกอบกับเป็นชุมชนที่อาศัย ทำให้เสาอโศกมีตะไคร่จับพอกหนา กลายเป็นสีเขียว

โครงการบูรณปฏิสังขรณ์ลุมพินีวันเป็นเวลา 3 ปีนี้ ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น และแม้จะเชื่อว่าพระพุทธเจ้าทรงประสูติ 623 ปีก่อนคริสตกาล แต่มีข้อถกเถียงว่า อาจทรงประสูติในช่วง 560-624 ปีก่อนคริสตกาล ยูเนสโก จึงหวังว่าการสำรวจทางโบราณคดีควบคู่ไปด้วย อาจทำให้ได้ข้อเท็จจริงในเรื่องเวลาประสูติ

ลุมพินีวันซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่จาริกแสวงบุญสำคัญ ตั้งอยู่ในเขตรูปันเดฮี ทางตอนใต้ของเนปาล ใกล้ชายแดนอินเดีย เมืองติเลาราโกต ซึ่งอยู่ห่างจากลุมพินีวันไปทางตะวันตกราว 25 กม.จากตำแหน่งที่ตั้งทำให้เชื่อว่า ในอดีตคือเมืองกบิลพัสดุ์ เมืองหลวงของแคว้นสักกะ อันเป็นเมืองพุทธบิดา

อย่างไรก็ดี มีข้อโต้เถียงในรายงานบางชิ้นที่ว่า เมืองปิปราห์วา ในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย อาจเป็นเมืองกบิลพัสดุ์ในสมัยโบราณก็เป็นได้

ดังนั้น ตามที่มีรายงานว่า เขตสิทธัตถนคร ในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย กำลังสร้างเมืองจำลองลุมพินีวันและติเลาราโกตขึ้น ทำให้สาธารณชนในเนปาลรู้สึกกังวลว่า อาจทำให้บรรดาผู้จาริกแสวงบุญต่างพากันเข้าใจผิด คิดว่าพระพุทธเจ้าทรงประสูติในอินเดีย

(จาก IANS)

รัสเซียยื่นมือ ช่วยศรีลังกาพัฒนาพุทธสถาน

• ศรีลังกา : รัฐบาลรัสเซียจะให้ความช่วยเหลือโครงการพุทธศาสนาหลายโครงการ ในงานพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้

นายวลาดิเมียร์ พี มิลไคลอย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำศรีลังกา ได้เข้าพบนาย ดี เอ็ม ชยรัตเน นายกรัฐมนตรีศรีลังกา ที่ทำเนียบในกรุงโคลัมโบ เพื่อแจ้งถึงการที่รัสเซียจะส่งผู้แทนจำนวนมากจากองค์กรพุทธศาสนาในรัสเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุม พุทธศาสนิกชนสากล

โดยเอกอัครราชทูตกล่าวว่า “รัสเซียได้ดำเนินการ พัฒนาพุทธสถานจำนวนมากในประเทศรัสเซีย และรัสเซียจะให้การช่วยเหลือพัฒนาพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์ในศรีลังกาเช่นกัน”

ส่วนนายกรัฐมนตรีศรีลังกาได้กล่าวถึงความสำคัญของการที่รัสเซียได้ให้การช่วยเหลือเผยแพร่กิจกรรมของชาวพุทธในศรีลังกา และขอขอบคุณประเทศรัสเซียที่ได้ให้ความช่วยเหลือในการจัดงานพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้

(จาก Lanka Daily News)

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 126 พฤษภาคม 2554 โดย เภตรา)