“ประพันธ์” ย้ำ “โหวตโน” ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ เตือนเจ้าหน้าที่รัฐอย่าข่มขู่ คุกคาม ผู้ที่ออกไปรณรงค์ ไม่อย่างนั้นโดนฟ้องแน่ข้อหาละเมิดสิทธิประชาชน เชื่อหาก “ยิ่งลักษณ์” ได้เป็นนายกฯ “ไอ้ตู่-ไอ้เต้น” ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งอย่างแน่นอน ฝาก “ประยุทธ์” ลองคิดดูถึงวันนั้นจะทำตัวอย่างไร หากต้องรับงานตามคำสั่ง ท่านจตุพร-ณัฐวุฒิ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”
นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ปราศรัยบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า อยากจะกราบเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ข้าราชการที่อาจจะยังไม่เข้าใจว่าการรณรงค์โหวตโนของพี่น้องประชาชนนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย และไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะไปข่มขู่คุกคาม และขัดขวางการใช้เสรีภาพของประชาชนในการรณรงค์โหวตโน ถ้าเป็นการคุกคามก็เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นการกระทำละเมิดต่อประชาชน ประชาชนมีสิทธิ์จะฟ้องร้องดำเนินคดีได้
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า การรณรงค์โหวตโน ตามกฎหมายเลือกตั้งนั้นถูกต้องทุกประการ เพราะในมาตรา 51 ตนกราบเรียนพี่น้องไว้แล้วว่า ในการลงคะแนนนั้นบัตรเลือกตั้งจะต้องมีช่องให้ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน นั่นหมายความว่า คณะกรรมการเลือกตั้ง กฎหมายเลือกตั้ง และรัฐธรรมนูญ รับรองสิทธิของประชาชนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน จึงได้ทำบัตรและมีช่องสำหรับผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนกาในช่องนั้นได้ นี่คือกฎหมายรับรองสิทธิของการรณรงค์โหวตโน
นอกจากมาตรา 51 แล้ว ในมาตรา 56 ก็เขียนเอาไว้ว่า ในกรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ประสงค์ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัคร หรือบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทำเครื่องหมายกากบาทในช่องไม่ลงคะแนนในบัตรเลือกตั้ง นี่ก็จะตอบคำถามพี่น้อง หรือคนหลายคนที่มีข้อข้องใจในปัญหาข้อกฎหมาย ในกรณีที่เราไม่ประสงค์จะลงคะแนนให้ ฝ่ายกฎหมายก็เขียนระบุไว้ว่า ให้กาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน
นอกจากนี้แล้ว ในการนับคะแนนคือ มาตรา 59 เขาบอกว่า การนับคะแนนจะอยู่ที่มาตรา 68-69 ว่าเวลามีการลงคะแนนในบัตรในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้น กฎหมายบังคับให้เจ้าหน้าที่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งนั้นจะต้องขานคะแนนว่าอย่างไร
มาตรา 70 ให้มีการนับคะแนนสำหรับบัตรเลือกตั้ง ที่มีผู้เลือกตั้งทำเครื่องหมายว่า ไม่ลงคะแนนเลือกตั้ง และให้ประกาศจำนวนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนเลือกตั้งด้วย ในมาตรา 70 เขาเขียนไว้ชัดเจนเลยว่า ให้มีการนับคะแนน คือการนับคะแนนที่ลงให้ใคร มาตรา 68-69 เขียนไว้ แต่ในกรณีมาตรา 70 จะเขียนไว้เฉพาะเลยว่า ให้มีการนับคะแนนสำหรับบัตรเลือกตั้งที่ผู้เลือกตั้งทำเครื่องหมายว่า ไม่ลงคะแนนเลือกตั้ง และให้ประกาศจำนวนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนเลือกตั้งด้วย ในการนับคะแนน หากปรากฏว่ามีบัตรเสีย ให้แยกบัตรเสียออกต่างหาก และห้ามมิให้นับบัตรเสียเป็นคะแนนไม่ว่ากรณีใด
“สรุปแล้วคือ ท่านไปลงในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้น คณะกรรมการเลือกตั้งจะต้องประกาศบัตรผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนด้วย นอกจากประกาศว่าลงคะแนนให้เบอร์ไหน ลงคะแนนให้พรรคไหน แล้วต้องประกาศว่า ถ้าบัตรนั้นลงในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ก็ต้องประกาศว่า นาย ก. ไม่ประสงค์ หรือบัตรนี้ไม่ประสงค์ลงคะแนน ในกระดานต้องกาช่องผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนด้วย จะได้นับไปด้วยว่า ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้นมีจำนวนเท่าใด จะทำเป็นบัตรเสียไม่ได้” นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์กล่าวว่า เมื่อดูเฉพาะกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ควรจะต้องไปสับสน และอย่าไปกร่าง อย่าไปวางอำนาจกับประชาชน อย่าไปข่มขู่ประชาชนที่เขาไปรณรงค์โหวตโน เพราะถ้าไปทำเช่นนั้น ตัวเองสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมาย ถูกฟ้อง เสียอนาคต ติดคุก มันไม่คุ้มกัน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปสอพลอ เอาใจนักการเมือง หรือผู้บริหารบ้านเมือง เพราะมันเป็นเรื่องที่ผิดต่อกฎหมาย และสุ่มเสี่ยงต่ออนาคตของตัวเอง
นอกจากนี้แล้ว ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 45 นี่ก็พูดซะให้ครบเลย ว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 45 นั้น การแสดงความคิดเห็น สิทธิในการพูด การแสดงความคิดเห็น การเขียน การโฆษณา การสื่อสารใดๆ ของประชาชนนั้นเป็นสิทธิเสรีภาพที่ผู้ใดจะไปละเมิดมิได้ นี่โดยรัฐธรรมนูญ
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ทีนี้การที่เราไปชูป้ายว่าอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา มันเป็นการแสดงโดยภาพ และมีข้อความ เป็นการสื่อความหมายว่า เราอย่าปล่อยคนที่ไม่ดีเข้าสู่สภานั่นเอง ก็คือรณรงค์ให้ประชาชนเลือกคนที่ดีเข้าสภา หรือถ้าเห็นว่ามีคนที่ไม่ดีพอให้เราเลือก ก็อย่าไปเลือกใคร ไม่ใช่เป็นการกระทำผิดกฎหมาย และไม่ใช่การขัดขวางการเลือกตั้ง และไม่ได้เป็นการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการเลือกตั้ง
นายประพันธ์กล่าวต่อว่า เมื่อคุยเรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญครบถ้วนแล้ว พี่น้องก็จะได้คลายความกังวลใจว่าเราไปรณรงค์ไปด้วยความเชื่อมั่น ไปด้วยความชอบธรรม ความถูกต้องตามหลักกฎหมาย ไปอย่างมีความสุข ไปเพราะเราใช้สิทธิ์ของเราตามระบอบประชาธิปไตย ไปเพราะเราเชื่อว่า ถ้าพี่น้องมารณรงค์โหวตโน และลงในช่องประสงค์ไม่ลงคะแนนมากเท่าไหร่ ก็จะเป็นเครื่องชี้วัดว่า ประเทศไทยคนไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องการสนับสนุนนักการเมืองเลวเข้าสู่สภา ถ้ายิ่งเราไปมากเท่าไหร่ จะเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ยิ่งถ้ามีประชาชนออกไปใช้เสียงโหวตโน 2 ล้าน 3 ล้าน 4 ล้าน จะเป็นประวัติศาสตร์ใหม่ของการเมืองประเทศไทยอย่างแน่นอน
เรื่องนี้นักการเมืองที่เลือกตั้งทั้ง 2 ฝ่าย ทุกพรรค โดยเฉพาะพรรคที่เป็นรัฐบาลกลัวที่สุด แม้ได้รับเลือกตั้งไปแล้ว ดีไม่ดีพรรคโหวตโนอาจจะมาเป็นอันดับ 1 หรืออันดับ 2 ก็ได้ จะเป็นการตบหน้าคนที่ดีแต่พูดทำงานไม่เป็น และให้การสั่งสอนนักการเมืองที่เราเห็นว่ามันใช้ไม่ได้ทั้งนั้น อย่างสะใจที่สุด ไม่เพียงแต่สะใจประชาชนเท่านั้น ยังจะปลุกกระแสให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในบ้านเมืองของเราอย่างแน่นอน
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า อยากจะคุยเพื่อเป็นความรู้ประกอบการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ที่ยังลังเลอยู่ว่า เราจะเลือกอย่างไรดี ในการเลือกตั้งคราวนี้ อย่าให้นักการเมืองไปบอกว่า เดินเข้าคูหากาเลือกตั้งเลือกคนที่ท่านรัก เลือกพรรคที่ท่านชอบ ความจริงแล้วมีแต่เลวทั้งนั้น ไม่ใช่ของจริง อย่างนั้นไม่ใช่การเลือกอนาคตของบ้านเมือง แต่สิ่งที่พวกเรากำลังนำเสนอกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศต่างหาก นี่คือการเสนอทางออกที่เป็นอนาคตของบ้านเมือง
เมื่อวันก่อนตนบอกแล้วมันเป็นการเมือง 2 ขั้วที่อันตรายทั้ง 2 ขั้ว และขั้วที่ 3 อันตรายยิ่งกว่า เพราะว่าไม่ว่าขั้วไหนมาก็ร่วมโกงกับเขาได้ทุกขั้ว ร่วมกิน ร่วมโกง ร่วมยำประเทศชาติได้ทั้ง 2 ขั้ว นี่มันอันตรายทั้งนั้นเลย นักการเมืองและพรรคการเมือง
ทีนี้เมื่อเราเจาะลึกลงไปในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์พยายามจะบอกประชาชนทั้งประเทศว่า เป็นการเลือกเพื่ออนาคตบ้านเมือง เป็นการเลือกเพื่อพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ทักษิณก็บอกว่า เป็นการเลือกตั้งไม่แก้แค้นแต่จะแก้ไข แต่ความเป็นจริงแล้ว ทั้ง 2 ฝั่งนี้เล่นภาพมายา หลอกลวง แหกตาประชาชนทั้งคู่
จริงๆ แล้วการเลือกตั้งครั้งนี้ ฝ่ายนายทักษิณอาศัยการเลือกตั้งมาฟอกความผิดให้กับตนเองและพวกพ้อง ส่วนฝ่ายรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ใช้การเลือกตั้งครั้งนี้ปกปิดความล้มเหลวการบริหารของตัวเอง หนีความรับผิดชอบ กลบเกลื่อนปัญหาเรื่องการทุจริต และการขายชาติขายแผ่นดินที่กำลังจะเกิดขึ้น ด้วยน้ำมือของรัฐบาลอภิสิทธิ์เอง
นายประพันธ์กล่าวว่า มาดูฝ่ายเพื่อไทย ถ้าได้รับการเลือกตั้ง มันก็จะอ้างว่าถ้าพวกมันทำผิด ทำไม่ดี คนทั้งประเทศจะเลือก จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือ มันจะเอาผลการเลือกตั้งมาอ้าง และฟอกความผิดให้กับตัวเองทันทีเลย
ถ้ายิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เขาตั้งไอ้จตุพร หรือณัฐวุฒิ เป็นรัฐมนตรีแน่ ไม่ต้องสงสัย เพราะเขาไม่อีแอบเหมือนนายอภิสิทธิ์ ไอ้ณัฐวุฒิตอนเป็นแกนนำเสื้อแดง ทักษิณก็เคยตั้งเป็นโฆษกรัฐบาลมาแล้ว ไอ้จตุพร ขนาดอยู่ในสภาฯ คนเดียวมันยังสามารถสู้กับประชาธิปัตย์ทั้งพรรคได้เลย มันไม่เห็นกลัวเลย คราวนี้มันเอาพวกเสื้อแดง ยกเข้าไปอยู่ในสภาทั้งแก๊งเลย แล้วก็ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ เอาพวกนี้เป็น ส.ส.เอาไว้เป็นไม้กันหมา คอยรบกับพวกประชาธิปัตย์สภาฯจะยิ่งกว่าหมากัดกันอีก
“เพราะฉะนั้น วันนี้ไอ้ฝ่ายนี้ก็ต้องการมาเป็นรัฐบาล เมื่อเป็นรัฐบาลครองเสียงข้างมากในสภาแล้ว เรื่องนิรโทษกรรม เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อลบล้างความผิด และปกปิดความผิด ฟอกความผิดก็จะเกิดขึ้น นี่คือเป้าหมายของเขา ได้ทั้งอำนาจรัฐ ได้ทั้งการฟอกความผิด ได้ทั้งทักษิณกลับคืนมา การเลือกตั้งครั้งนี้เขาต้องทุ่มสุดตัวเพื่อเอาชนะนายแหลเต็มที่” นายประพันธ์ กล่าว
นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ทีนี้ส่วนฝ่ายประชาธิปัตย์ก็ต้องการเอาการเลือกตั้งนี้มาฟอก มาปกปิดความผิดของตัวเอง คือ เรื่องยุบสภา หนีความผิดแล้วรีบไปสู่การเลือกตั้ง พยายามโหมโรงเกาะกระแสให้คนทั้งประเทศลืม ลืมว่ามันทำให้ประเทศไทยเสียแผ่นดินอย่างไร ลืมที่รัฐบาลอภิสิทธิ์กับพวกโกงไปอย่างไร ลืมว่าตอนที่ก่อนยุบสภาฯทิ้งทวนโกงไปสองร้อยกว่าโครงการ กินกันอิ่มหมีพลีมันอย่างไร ลืมว่าอภิสิทธิ์แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ และก็ดีแต่พูด
แต่อภิสิทธิ์ก็มีเดิมพัน คือเขาต้องการชนะการเลือกตั้ง เพราะถ้าชนะ เขาจะได้มาอ้างกับพวกเราได้ ว่าเห็นไหมพวกพันธมิตรฯบอกว่าตัวเองดีแต่พูด ทำงานไม่เป็น ทำไมประชาชนยังเลือกกลับมาอีก มันจะอ้างทันทีเลย
นายประพันธ์กล่าวว่า การลงคะแนนให้คนที่ไม่เข้าท่าทั้งสองฝ่ายกลับมาเป็นรัฐบาล ไม่ว่าใครกลับมามันก็จะอ้างความชอบธรรมขึ้นมาทันที การเลือกตั้งครั้งนี้ มันจึงเป็นความอัปยศที่สุดของบ้านเมือง วันนี้สื่อมวลชนไทยก็ดีใจเพราะได้เงินค่าโฆษณา พรรคการเมืองเสียเงินซื้อสื่อของสื่อมวลชน ใช้สื่อทีวี หนังสือพิมพ์โฆษณาหาตังค์กับนักการเมือง ก็เลยโง่งมงายไปกันหมดทั้งบ้านทั้งเมืองพยายามเชียร์ว่า การเลือกตั้งเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ เป็นอนาคต เป็นความหวัง วัดกึ๋นคนนั้นคนนี้ ความจริงแล้วก็เลวทั้ง 2 ฝ่าย ทำไมไม่พูดความจริงกับประชาชน ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้เสนอนโยบายอะไรที่ดีให้กับบ้านเมืองเลย
และอยากจะฝากไปถึงท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าถ้าวันหนึ่งนายจตุพร หรือนายณัฐวุฒิ อาจจะไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือเอาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ หรือเป็นหนึ่งในคณะรัฐบาล ตนไม่รู้ว่าท่านจะทำตัวอย่างไร เพราะฉะนั้นฝากเป็นการบ้านให้ท่านคิดไว้ด้วยว่า ถ้ายิ่งลักษณ์-ทักษิณ มา พวกนี้ตบเท้าเข้าเป็น ส.ส.ในสภา และส่วนหนึ่งเป็นรัฐมนตรีเสื้อแดงอย่างแน่นอน
ถึงวันนั้นท่านคงจะได้ดูไม่จืด ผมยินดีปฏิบัติตามนโยบายของฝ่ายการเมืองเราครับ ฯพณฯ จตุพร ฯพณฯ ณัฐวุฒิ กระผมยินดีครับ ผมจะรอดูวันนั้นว่าท่านจะทำตัวอย่างไร
คำต่อคำ
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง ทั้งที่อยู่หน้าเวที และตั้งจอรับชมการปราศรัยอยู่ ณ ขณะนี้ด้วยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทราบว่าพี่น้อง อย่างเช่น ที่หาดใหญ่ เขาก็จะมีตั้งจอ ทุกคนมีจอ ASTV ที่บ้าน แต่ไม่อยากฟัง จะมาฟังร่วมกันที่สภากาแฟ และวิพากษ์วิจารณ์ อย่างกับดูหนังกลางแปลง หรือดูหนังตะลุงประมาณนั้น ที่ทางเหนือก็มีกำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ และแม้กระทั่งที่พัทยา ชลบุรี ศรีราชา อะไรทำนองนี้ พี่น้องก็จะมีการจับกลุ่มกันและตั้งวงติดตามรับฟังการปราศรัยบนเวทีนี้อยู่โดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายท่านบอกว่า ถ้าไม่ได้ฟังผมมาพูดเดี๋ยวนอนไม่หลับ ต้องมาฟังซะก่อน เขาบอกอย่างนี้นะครับ ก็ต้องขอบคุณพ่อแม่พี่น้องที่ได้ส่งข่าวมา และถือโอกาสนี้กราบสวัสดีทักทายท่านด้วย
นอกจากนี้ แต่ละวันก็มีจดหมายส่งมาถึงผมมากนะครับ แต่ก็อยากจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องที่เขียนจดหมายส่งมาว่า ทุกฉบับผมเปิดอ่านด้วยตัวเองนะครับ และถ้าพบว่ามีฉบับใดที่เขียนมา มีสาระ มีบทกวี มีของดีๆ มาฝากพี่น้องประชาชน หรือมีเรื่องเล่า มีความคิดเห็นที่น่าสนใจ ผมก็จะนำมาเล่าหรือมาอ่านสู่พี่น้องประชาชนบนเวทีนี้ตามที่เห็นสมควร ฉบับใดอาจจะไม่ได้รับการเอามาอ่านหรือมาพูดถึง ก็ขอให้ได้โปรดทราบว่า ผมอ่านทุกฉบับนะครับ และขอขอบคุณที่ส่งมา และเขียนให้กำลังใจครับพี่น้องครับ ปรบมือให้ท่านเหล่านั้นด้วยครับ
ทุกท่านเขียนมาก็เพื่อเป็นการยืนยันว่า ติดตามรับชมการชุมนุมของพวกเราไม่ได้ขาด และก็เป็นแฟนหน้าจออย่างเหนียวแน่นไม่ไปไหนนะครับ และก็เชื่อมั่นในสิ่งที่พี่น้องทำในขณะนี้ว่า เป็นสิ่งที่ดีงามถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองโดยส่วนรวมแล้วครับ เรามีคนที่ยืนหยัดเคียงข้างกับเราและเห็นด้วยกับพวกเรามากครับพี่น้อง เรามีมิตร เรามีเพื่อน เรามีพี่น้อง เราไม่โดดเดี่ยวอย่างแน่นอนครับ
ก่นอจะพูดถึงจดหมายของพี่น้องประชาชน ก็มาพูดถึงเรื่องกฎหมายที่น้องเก๋ และพี่น้องของพวกเราได้ออกไปรณรงค์โหวตโน ก็คงจะได้พบเหตุการณ์ต่างๆ ในการไปทำงานทางการเมือง ในการไปพบปะพี่น้องประชาชน หรือในการออกไปทำกิจกรรมต่างๆ
พี่น้องครับ สมัยที่พวกผมเคลื่อนไหวกิจกรรมแบบนี้ คือ ไปเผยแพร่ประชาธิปไตย ออกไปพบพี่น้องชาวไร่ชาวนา ไปพบกรรมกร ไปพบประชาชนกลุ่มอาชีพต่างๆ จะมีคนที่มาขัดขวาง คัดค้าน และไม่เข้าใจเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อสิ่งที่เราพูด สิ่งที่เราทำนั้นมันเป็นสิ่งใหม่ เพราะสังคมนี้ส่วนหนึ่งยังจำเจและงมงายอยู่กับความไม่ถูกต้อง การผิดกฎหมาย การทุจริต การคดโกง หรือตกเป็นเบี้ยใบ้รายทาง หรือเป็นคนที่อยู่ใต้อิทธิพลของนักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐก็ตามแต่ เขายังตกอยู่ภายใต้อำนาจ อิทธิพลของนักการเมือง เพราะฉะนั้นเวลาที่เราไปรณรงค์อะไรที่นักการเมืองบางคนไม่เห็นด้วย เขาอาจจะพยายามแสดงบทบาทเพื่อเอาใจนักการเมือง เรื่องอย่างนี้อย่าได้เป็นเครื่องบั่นทอนจิตใจ และกำลังใจพี่น้อง เราต้องเดินหน้าต่อไป และมีหลักการ มีจุดยืนที่จะพูดกับคนเหล่านั้นให้เข้าใจ และหากเขาไม่ยอมรับ หรือไม่ต้อนรับ เราก็หลีกเลี่ยงที่จะไปพบกับคนอื่นๆ ไม่ต้องเสียเวลาในการเผชิญหน้า นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดในการทำงานของเราในสถานการณ์นี้ครับพี่น้อง
ทีนี้อยากจะกราบเรียนและพูดถึงไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ข้าราชการ ที่อาจจะยังไม่เข้าใจว่าการรณรงค์โหวตโนของพี่น้องประชาชนนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เป็นเรื่องผิดกฎหมายนะครับ และไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะไปข่มขู่ คุกคาม และขัดขวางการใช้เสรีภาพของประชาชนในการรณรงค์โหวตโน ท่านไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะกระทำได้ ถ้าเป็นการคุกคาม ข่มขู่ หรือทำร้าย หรือแจ้งข้อหา หรือตั้งข้อหา หรือจับกุม ก็เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นการกระทำละเมิดต่อประชาชน ประชาชนมีสิทธิ์จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับท่านได้นะครับ
จึงอยากจะบอกพี่น้องตำรวจทั้งหลายว่า ท่านทำตามหน้าที่ของท่านไปเถอะ แต่ว่าการที่จะไปขัดขวางการรณรงค์โหวตโนของประชาชนนั้น ท่านไม่มีอำนาจนะครับ แต่ถ้าท่านจะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ให้มีเหตุทะเลาะวิวาท สมมุติว่าเราไปรณรงค์แล้วมีอีกฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วย หน้าที่ตำรวจก็คือดูแลรักษาความสงบไม่ให้มีเหตุร้ายเท่านั้น ไม่ใช่มีหน้าที่ไปขัดขวาง หรือหน้าที่ไปจำกัดคุกคามข่มขู่ผู้รณรงค์ ซึ่งเขาไปด้วยความสงบ
การรณรงค์โหวตโนนั้น ตามกฎหมายเลือกตั้งนั้น ถูกต้องทุกประการนะครับ เพราะในมาตรา 51 ผมก็เขียน ผมก็กราบเรียนพี่น้องไว้แล้วว่า ในการลงคะแนนั้น บัตรเลือกตั้งจะต้องมีช่องให้ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้นกาไม่ประสงค์ลงคะแนน นั่นหมายความว่า คณะกรรมการเลือกตั้ง กฎหมายเลือกตั้ง และรัฐธรรมนูญ รับรองสิทธิของประชาชนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน จึงได้ทำบัตรและมีช่องสำหรับผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนกาในช่องนั้นได้ นี่คือกฎหมายรับรองสิทธิของการรณรงค์โหวตโนได้แล้วครับพี่น้อง
นอกจากมาตรา 51 แล้วครับ ในมาตรา 56 เห็นไหมครับ เขาก็เขียนเอาไว้ว่า ในกรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ประสงค์ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัคร หรือบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทำเครื่องหมายกากบาทในช่องไม่ลงคะแนนในบัตรเลือกตั้งครับ นี่ก็จะตอบคำถามพี่น้อง หรือคนหลายคนที่มีข้อข้องใจในปัญหาข้อกฎหมาย ในกรณีที่เราไม่ประสงค์จะลงคะแนนให้ ฝ่ายกฎหมายก็เขียนระบุไว้ว่า ให้ท่านไปกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน เห็นไหมครับ ในมาตรา 56 นอกจากนี้แล้ว ในการนับคะแนนนะครับ คือ มาตรา 59 เขาบอกว่า การนับคะแนนจะอยู่ที่มาตรา 68 , 69 แล้วผมจะชี้ให้เห็นว่า เวลามีการลงคะแนนในบัตรในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้น เขาเขียนกฎหมายบังคับให้เจ้าหน้าที่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งนั้นจะต้องขานคะแนนว่าอย่างไรนะครับ
มาตรา 70 ให้มีการนับคะแนนสำหรับบัตรเลือกตั้ง ที่มีผู้เลือกตั้งทำเครื่องหมายว่า ไม่ลงคะแนนเลือกตั้ง และให้ประกาศจำนวนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนเลือกตั้งด้วย ในมาตรา 70 เขาเขียนไว้ชัดเจนเลยครับว่า ให้มีการนับคะแนน คือการนับคะแนนที่ลงให้ใคร มาตรา 68, 69 เขียนไว้ แต่ในกรณีมาตรา 70 จะเขียนไว้เฉพาะเลยว่า ให้มีการนับคะแนนสำหรับบัตรเลือกตั้งที่ผู้เลือกตั้งทำเครื่องหมายว่า ไม่ลงคะแนนเลือกตั้ง และให้ประกาศจำนวนผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนเลือกตั้งด้วย ในการนับคะแนน หากปรากฎว่ามีบัตรเสีย ให้แยกบัตรเสียออกต่างหาก และห้ามมิให้นับบัตรเสียเป็นคะแนนไม่ว่ากรณีใด
สรุปแล้วคือ ท่านไปลงในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้น คณะกรรมการเลือกตั้งจะต้องประกาศบัตรผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนด้วย นอกจากประกาศว่าลงคะแนนให้เบอร์ไหน ลงคะแนนให้พรรคไหน แล้วต้องประกาศว่า ถ้าบัตรนั้นลงในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ก็ต้องประกาศว่า นาย ก. ไม่ประสงค์ หรือบัตรนี้ไม่ประสงค์ลงคะแนน ในกระดานต้องกาช่องผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนด้วย จะได้นับไปด้วยว่า ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้นมีจำนวนเท่าใด จะทำเป็นบัตรเสียไม่ได้
ส่วนบัตรเสียนั้น เป็นดังนี้ คือถ้าจะนับเป็นบัตรเสีย จะต้องเป็น 1. บัตรปลอม ถ้าเป็นบัตรเลือกตั้งปลอมจึงจะนับว่าเป็นบัตรเสีย 2. บัตรที่ไม่ได้ทำเครื่องหมายลงคะแนนเลย คือบัตรเปล่าๆ ที่ไม่มีใครกาอะไรเลย อย่างนี้ก็นับเป็นบัตรเสีย 3. บัตรที่ไม่อาจทราบได้ว่า ลงคะแนนให้กับผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด เช่น พรรคการเมือง ก.เบอร์ 4 พรรคการเมือง ข.เบอร์ 5 แกอาจจะกาพาดไปเลยทั้ง 4 ทั้ง 5 คือกากึ่งกลางแบบกั๊กๆ เลยไม่รู้ว่าลงคะแนนให้ใคร อย่างนี้ต้องนับว่า เป็นบัตรเสีย ครับพี่น้อง และบัตรเสียอีกประการหนึ่ง คือ บัตรที่มีลักษณะตามที่คณะกรรมการเลือกตั้งประกาศกำหนดก็จะมีอีกประเภทหนึ่งที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะประกาศว่า บัตรแบบนี้ให้ถือว่าเป็นบัตรเสียนอกจากกรณี 1 , 2 , 3 ที่ผมพูดมาแล้ว ซึ่งอย่างนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้งจะใช้อำนาจประกาศบอกรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่รับทราบไว้เป็นหนังสือแจ้งให้ทราบโดยทั่วไป กรณีบัตรเสียเขาก็จะนับเป็นบัตรเสียเหมือนกัน ว่า ในการเลือกตั้งคราวนี้มีบัตรเสียเท่าไหร่ มีผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเท่าไหร่ มีไม่มาใช้สิทธิ์เท่าไหร่ มาใช้สิทธิ์เท่าไหร่ เลือกพรรคไหนเท่าไหร่ ก็จะมีตัวเลขเป็นสถิติประกาศให้ทราบโดยทั่วไป ตามระเบียบของการจัดการเลือกตั้งครับ เพราะฉะนั้นไม่ประสงค์ลงคะแนนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และข้าราชการ ใครก็ตามพี่น้องประชาชนที่ยังไม่เข้าใจ โปรดทราบว่าเป็นบัตรดีไม่ใช่บัตรเสีย แล้วต้องนับว่าไม่ประสงค์ลงคะแนนครับ
นอกจาก กกต.จะต้องทำบัตรลงคะแนนให้มีช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนนแล้ว ยังรับรองสิทธิ์ของประชาชนผู้ไปใช้สิทธิ์ไม่ประสงค์ลงคะแนน และก็ยังต้องนับเป็นบัตรดี ไม่ใช่บัตรเสียนะครับ โดยนับรวมอยู่ในจำพวกผู้ใช้สิทธิ์ที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกใครเลย นั่นก็คือ กาไม่ประสงค์จะลงคะแนน หรือโหวตโนนั่นเองครับพี่น้องครับ เมื่อดูเฉพาะกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งอย่างนีแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ควรจะต้องไปสับสน และอย่าไปกร่าง อย่าไปวางอำนาจกับประชาชน อย่าไปข่มขู่ประชาชนที่เขาไปรณรงค์โหวตโน เพราะถ้าท่านไปทำเช่นนั้น ตัวท่านเองสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมาย ถูกฟ้อง เสียอนาคต ติดคุก ดาวหลุดมาแล้วมันไม่คุ้มกัน ใช่มั้ยครับ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปสอพลอ เอาใจนักการเมือง หรือผู้บริหารบ้านเมือง เพราะมันเป็นเรื่องที่ผิดต่อกฎหมาย และสุ่มเสี่ยงต่ออนาคตของตัวท่านเอง
นอกจากนี้แล้วตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 45 นี่ก็พูดซะให้ครบเลย ว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 45 นั้น การแสดงความคิดเห็น สิทธิในการพูด การแสดงความคิดเห็น การเขียน การโฆษณา การสื่อสารใดๆ ของประชาชนนั้น เป็นสิทธิเสรีภาพที่ผู้ใดจะไปละเมิดมิได้ นี่โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 นั่นหมายความว่าการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน หรือการแสดงออกด้วยวิธีอื่นๆ หรือการสื่อความหมายใดๆ กับบุคคลอื่น เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่กระทำได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 ผู้ใดจะไปคุกคาม ขัดขวาง การใช้สิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญนั้นมิได้
ทีนี้ การที่เราไปชูป้ายว่าอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา มันเป็นการแสดงโดยภาพ และมีข้อความ เป็นการสื่อความหมายว่า เราอย่าปล่อยคนที่ไม่ดีเข้าสู่สภานั่นเอง ก็คือรณรงค์ให้ประชาชนเลือกคนที่ดีเข้าสภา หรือถ้าเห็นว่ามีคนที่ไม่ดีพอให้เราเลือก ก็อย่าไปเลือกใคร ไม่ใช่เป็นการกระทำผิดกฎหมาย และไม่ใช่การขัดขวางการเลือกตั้ง และไม่ได้เป็นการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการเลือกตั้งครับ
เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปบอกว่า มารณรงค์แบบนี้เป็นปฏิปักษ์ต่อการเลือกตั้ง ไม่ใช่ ถ้าจะเป็นปฏิปักษ์ต่อการเลือกตั้ง ต้อง 1. ไปขัดขวางการสมัครรับเลือกตั้ง เช่น นาย ก.หนวดเคราแพะ กำลังใส่สูทอย่างดี กำลังจะไปสมัครรับเลือกตั้ง พี่น้องที่รณรงค์โหวตโนไปเตะตัดขา หน้าขมำฟาดพื้น เลยไปสมัครเลือกตั้งไม่ได้ อย่างนั้นขัดขวางการรับสมัครเลือกตั้ง หรือว่าพี่น้องประชาชนจะไปลงคะแนนเลือกตั้ง เราก็ไปล็อกคอเขาไว้ หรือไปจับตัวเขาไว้ หรือไปขัดขวางเขาไว้ หรือไปล็อกยึดกุญแจเขาไว้ ขัดขวางการไปใช้สิทธิ์ของเขา อย่างนั้นถือว่ากระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการเลือกตั้ง ผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง
เพราะฉะนั้นถ้าตำรวจจะใช้กฎหมายต้องอ่านกฎหมายให้จบว่า สิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็น ในการสื่อความหมาย ในการพูด การเขียน การโฆษณานั้น รัฐธรรมนูญรับรองไว้ ถ้าทำไม่ได้เฉพาะกรณีที่มีกฎหมายห้าม เช่น เราไปถือป้ายด่าพ่อล่อแม่คนนั้นคนนี้ หรือประกาศด้วยข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาท ใส่ร้ายผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ อันนี้คือกฎหมายห้าม การแสดงความคิดเห็นแบบนี้ทำไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นถึงจะทำไม่ได้ และเป็นความผิดต่อกฎหมาย แต่การไปถือป้ายว่า อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา นั้น ใครล่ะที่คิดว่าตัวเองเป็นสัตว์ ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นสัตว์ มันก็ไม่มี ถ้าคุณมาสมอ้างว่าตัวเองเป็นสัตว์ เท่ากับว่าคุณยอมรับไปเองโดยที่เราไม่ได้ว่าคุณ ไม่ได้ระบุชื่อใครเฉพาะบุคคล ในข้อความอันนี้ อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนนั้น เป็นการใช้สิทธิ์เสรีภาพของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยทุกประการ ไม่เป็นความผิดต่อกฎหมายแต่อย่างใด เรื่องนี้ กกต.ท่านเข้าใจดีกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าเราทำเรื่องนี้เป็นความผิด ตั้งแต่วันที่เราไปถือป้ายอยู่หน้ารั้วทางเข้านั้น กกต.ก็สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้แล้ว เพราะขณะนั้นเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ กกต.อยู่แล้ว รวมทั้งป้ายที่มีการรณรงค์นั้น มันเป็นการรณรงค์ที่เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่กระทำได้ ไม่ได้เป็นการขัดขวางและเป็นปฏิปักษ์ต่อการเลือกตั้งแต่อย่างใด
เพราะฉะนั้นเรื่องทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เกิดความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหลายท่านที่ถามมาว่า เอ๊ะเวลาเราไปเลือกตั้ง กาบัตรโหวตโนแล้วเขาจะขานคะแนนว่าอย่างไร ผมก็ตอบให้ไปหมดแล้ว เขาต้องขานว่า สมมุติ บัตรเขาต้องขานก่อนว่าดีหรือเสีย บัตรดีไม่ประสงค์ลงคะแนน ถ้ากาให้พรรค ก. เขาก็จะขานว่า พรรค ก. บัตรดี กาให้นาย ก. ถ้าบอกบัตรเสียเขาก็ให้คนดู มันจะมีผู้สังเกตการณ์เลือกตั้ง ที่เป็นตัวแทนของทุกพรรคมาดูอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในวันลงคะแนน ตัวแทนของพรรคโหวตโนก็ควรจะไปดูทุกหน่วยเลือกตั้ง เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่มั่วครับพี่น้อง แต่ผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ กกต.ถ้าเขาเห็นบัตรไม่ประสงค์จะลงคะแนนเขาจะดีใจ เขาจะรีบประกาศครับ เพราะเป็นบัตรที่น่าอ่านที่สุดครับพี่น้อง เพราะเป็นบัตรที่ช่วยสนับสนุนความคิดว่า อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภาฯไงครับพี่น้อง
เอาละครับ เมื่อคุยกันเรื่องกฎหมาย เรื่องรัฐธรรมนูญครบถ้วนแล้ว พี่น้องก็จะได้คลายความกังวลใจว่าเราไปรณรงค์ไปด้วยความเชื่อมั่น ไปด้วยความชอบธรรม ความถูกต้องตามหลักกฎหมาย ไปอย่างมีความสุข ไปเพราะเราใช้สิทธิ์ของเราตามระบอบประชาธิปไตย ไปเพราะเราเชื่อว่า ถ้าพี่น้องมารณรงค์โหวตโน และลงในช่องประสงค์ไม่ลงคะแนนมากเท่าไหร่นะครับ ก็จะเป็นเครื่องชี้วัดว่า ประเทศไทยคนไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องการสนับสนุนนักการเมืองเลวเข้าสู่สภานั่นเองครับพี่น้อง แล้วพี่น้องครับ ถ้ายิ่งเราไปมากเท่าไหร่ จะเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย และจะต้องถูกบันทึกในกินเนสส์บุ๊คแน่นอนเลยในการเลือกตั้งของประเทศไทยในคราวต่อไป ทั่วโลกจะกันมาสนใจ และเป็นประเทศไทยประเทศแรกที่มีการรณรงค์โหวตโนอย่าเงอาจริงเอาจังในขอบข่ายทั่วประเทศ ยิ่งถ้ามีประชาชนออกไปใช้เสียงโหวตโน 2 ล้าน 3 ล้าน 4 ล้าน จะเป็นประวัติศาสตร์ใหม่ของการเมืองประเทศไทยอย่างแน่นอนครับพี่น้อง เรื่องนี้นักการเมืองที่เลือกตั้งทั้ง 2 ฝ่าย ทุกพรรค โดยเฉพาะพรรคที่เป็นรัฐบาลกลัวที่สุด แม้ได้รับเลือกตั้งไปแล้ว ดีไม่ดีพรรคโหวตโนอาจจะมาเป็นอันดับ 1 หรืออันดับ 2 ก็ได้ ใครจะไปรู้ครับพี่น้อง จะเป็นการตบหน้าคนที่ดีแต่พูดทำงานไม่เป็น และให้การสั่งสอนนักการเมืองที่เราเห็นว่ามันใช้ไม่ได้ทั้งนั้น อย่างสะใจที่สุดครับพี่น้องครับ
ไม่เพียงแต่สะใจประชาชนเท่านั้น ยังจะปลุกกระแสให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในบ้านเมืองของเราอย่างแน่นอนครับพี่น้อง เพราะเสียงของประชาชนคือเสียงสวรรค์ครับ อย่างเมื่อสักครู่ที่ อ.ปานเทพ ยกตัวอย่างที่ อ.จำรัส ซึ่งท่านเป็นอดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ ท่านก็พูดว่าในเกาหลีเขาก็มีการรณรงค์แบบนี้ ในประเทศอื่นเขาก็มีการรณรงค์แบบนี้ แต่ไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับพวกเราครับ พวกเรานี่รณรงค์ในครอบข่ายทั่วประเทศ นั่นยังอยู่ในชุมชน ยังอยู่ในตำบล หมู่บ้าน เรื่องนี้พรรคการเมืองที่ดีต้องฟังเสียงประชาชน เมื่อประชาชนบอกว่า ไอ้หมอนี่ไม่ควรจะส่งลงสมัครนะครับ แต่ทำไมพรรคการเมืองอีกพรรค ไอ้คนเผาบ้านเผาเมืองมันเอาใส่บัญชีปาร์ตี้ลิสต์หมดเลยครับพี่น้อง ไม่ฟังเสียงประชาชนเลย อีกพรรคหนึ่งประชาชนบอกว่า ไอ้หมอนี่มันแหล ดีแต่พูด ทำงานไม่เป็น โห มันเอามาเบอร์ 1 เลยครับพี่น้อง มันไม่ฟังเสียงประชาชนเลย เมื่อพรรคการเมืองไม่ฟังเสียงประชาชน ประชาชนก็มีสิทธิ์จะใช้สิทธิ์ของตัวเองตอบโต้ด้วยการไม่ประสงค์ลงคะแนน คือ ไม่เลือกทั้งเผาเมือง และดีแต่พูด ทำงานไม่เป็น โกงทุจริตขายชาติใช่ไหมครับพี่น้อง เรื่องมันมีแค่นี้ เพราะฉะนั้นวันนี้ ยิ่งเขาดิ้นรนเท่าไหร่ แสดงว่า สิ่งที่เราทำอยู่เนี้ย ถูกต้องที่สุดแล้วครับพี่น้อง จงเดินหน้าต่อไปครับ
ทีนี้ครับพี่น้อง มีพี่นอ้งส่งจดหมายมาถึงผมหลายฉบับ และก็เขียนมาดี ผมเลยอยากจะอ่านให้พี่น้องฟังด้วยว่าจดหมายที่ผมคัดมา อันนี้มาจากสภาทุ่งหมาหิว นครนายกครับ นี่แค่ท่านขึ้นหัวเรื่องก็น่าอ่านแล้ว ส่งมาอย่างดีเลยจาก อ.บ้านนา จ.นครนายก บอกว่า คุณประพันธ์ครับ ผมแน่ใจแล้วว่า รัฐคือคณะรัฐบาลไทย มีความพยายามที่จะเอาแผ่นดินของเราไปเป็นเครื่องบรรณาการแก่กัมพูชาอย่างสุดความสามารถ โดยมีข้อยืนยันคร่าวๆ ดังนี้
นี่ท่านสรุปมาดีบอกว่า 1 ใช้เล่ห์ล่อลวงคนไทยเข้าคุกเขมรแล้วปล่อยทิ้ง หลักฐานนี้ท่านเชื่อว่ายกแผ่นดินให้เขาแน่ 2.ทหารแคระ อ้วนเตี้ย ยืนยันด้วยวาจาอย่างแข็งขันว่า ที่ตรงนั้นเป็นของเขมร ดูพี่น้องเราแต่ละท่านไม่ธรรมดา 3.คนในคณะรัฐบาลไปลากเอานายธารา ศิลาเวียน มากล่าวเท็จ หักล้างหลักฐานของพี่น้องบ้านหนองจานเรื่องที่ดิน ข้อที่ 3.ที่เชื่อว่าต้องมีเจตนาเอาไปยกที่ดินให้เขาแน่ 4.นายอภิสิทธิ์เองออกมายืนหน้าจอ ยืนยันเส้นปฏิบัติการณ์หาความชอบธรรมให้เขมร 5. ยกทีมไปล้มมวยให้เขมรถึงเวทีโลก คือเวทีมรดกโลกไงพี่น้อง ยังมีอีกหลายข้อ แค่นี้ก็พอจะเอาเข้าคุกเปรย์ซอว์ หรือประหารให้ตายหมื่นครั้งได้แล้วมั้ง ท่านเขียนมามีอารมณ์ขันดีด้วย ส่งกลอนสุภาพที่ไม่ค่อยสุภาพมาร่วมโหวตโน 1 ชิ้น สวัสดีครับลุงดี ทุ่งหมาหิว ชื่อ ลุงดี ทุ่งหมาหิว เขียนมาว่า ขืนเลือกตั้ง ส.ส.2554 ผีไข้โป้งก็จะมีอีกมากหลาย คนที่ไม่ควรตายและควรตาย จะวอดวายสังเวยพญามาร อสูรร้ายขยายพันธุ์ประชันชั่ว มันฟักตัวใต้ดินทุกถิ่นฐาน มือกฎหมายปราบมันไม่ทันการณ์ ต้องแหลกรานเละเทะทั้งไทยแลนด์ ที่หลุดรอดปลอดภัยจากไข้โป้ง แต่ละก๊กก็จะโกงกันจำแท่น ไม่ไว้หน้าประชาชนที่ข้นแค้น ซึ่งเป็นคนให้คะแนนมันนอนมา โอ้โอ๊ะโอ๊ยแม่เจ้าโว้ยกูปวดเฮด นึกเห็นหน้าผีเปรตทุกใบหน้า ล้วนแต่เคยล้วงไส้ไทยประชา ทั้งฉกรรจ์ทั้งชราป่าช้ารอ ปณิธานมันและท่านที่ตั้งไว้ ถ้ายังไม่เข้าโลงต้องโกงต่อ นึกเรื่องนี้ทีไรใจกูท้อ พอโว้ยพออย่าให้ผีเข้าสภา หากว่าการเลือกตั้งมันยังมี ไม่ว่าในปีนี้หรือปีหน้า กูบ่ยั่นบ่กลัวบ่หัวซา กูจะกาลงในช่องไม่เลือกโว้ย
สุดยอดนะ นี่จากนครนายกเขียนมา แล้วมี ปล.บอกว่า ทุกวันอยากให้ผมร้องเพลงด้วย เพราะว่าฟังเพลงแล้วชอบใจ แม้ป้า ลุงจะแก่ก็ชอบเพลงวัยรุ่นอย่างที่คุณประพันธ์ร้อง มันดี เดี๋ยวบอกทีมงานเตรียมไว้ด้วยนะครับ เดี๋ยวถึงเวลาแล้วพี่น้องจะผิดหวัง ต้องเตรียมเพลงเดิมไว้ด้วย เพราะว่าก่อนขึ้นเวที คุณผู้หญิงโทรมาจากเชียงใหม่ บอกว่า ที่โทรมาไม่มีอะไร โทรมาเตือนว่า อย่าลืมร้องเพลงนะ ถึงแม้ว่าจะเป็นคนอายุมากแล้วแต่ชอบเพลงที่คุณประพันธ์ร้อง โอเคครับ
ฉบับนี้ก็ดีครับ ผมมาร์กไว้ว่าเป็นฉบับที่สำคัญมาก จากทหารรักชาติ นี่ท่านใช้ซองข้าราชการเขียนมาเลย เป็นทหารเขียนมาครับ
เรียนคุณประพันธ์ คูณมี คุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ ผมได้ติดตามเวทีพันธมิตรฯ มาตลอด ได้ฟังคำปราศรัยท่าน อ.ศรีศักดิ์ ท่านยินดี วัชรพล ต่อสุวรรณ คุณประพันธ์ นำความทั้งสองท่านมาเกี่ยวพันกัน เห็นว่าความปรากฏชัดเจนมากพอ จะนำความไปฟ้องได้ทันทีสำหรับการซื้อรถถังยูเครนนั้น มีเรื่องราวมานานจนความปรากฏว่า รับเข้ามาประจำการแล้ว ปรากฏว่ามีการเสีย ชำรุด จนใช้การไม่ได้หลายคัน ควรตั้งกรรมการมาพิสูจน์ความจริงว่าใช้ได้หรือไม่ อย่างไร จากการนำเข้าฝึก ณ ศูนย์ฝึกทางยุทธวิธี ปรากฏว่ารถไม่มีกำลัง ติดหล่ม ไม่สามารถใช้ทางยุทธวิธีได้ หากเกิดสงคราม ผลเสียเกิดขึ้นแน่ อันนี้รถถังยูเครนครับ ท่านทหารรักชาติเขียนมา
แล้วท่านก็เขียนต่อไปว่า ผมได้ฟังการแก้ไขการคอร์รัปชั่นแล้ว สงสารประเทศไทย ว่าไม่มีคนดีมารวมกันแก้ไขเรื่องนี้ ตั้งแต่ท่านวางแผน สั่งการ ขั้นการรับสินค้า การตรวจรับงาน ขั้นการรับเงิน จ่ายเงินคอมมิชชั่น ขั้นการตรวจสอบหลักฐาน จากผู้ตรวจสอบภายในและภายนอก เพราะการตั้งราคาอุปกรณ์สินค้าแพงกว่าความเป็นจริง เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐนั่นเอง เมื่อเสียค่าคอมมิชชั่น เหลือเงินทำงานจนคุณภาพไม่ได้ตามสัญญาแล้ว ยังตรวจรับงานได้อย่างไร โดยเฉพาะฝ่ายทหารซื้อ G2G ก็ยังซื้อแพง และไม่มีคุณภาพ ผบ.เหล่าทัพหลายคนที่ผ่านมาก็ไม่เคยถูกลงโทษแม้แต่รายเดียว
ยุทธภัณฑ์หลายชนิดจัดหามาแล้วใช้ทางทหารไม่ได้ แต่กรรมการสอบอย่างไรก็ไม่ผิด แม้แต่ศาลก็ทำอะไรไม่ได้ น่าสงสารคนไทยเหลือเกิน ผมเห็นนายกฯ อภิสิทธิ์ออกมาพูดยุบสภาแล้ว ยังถือโอกาสหาเสียงเสียเลย ถามว่า กกต.ทำอะไรได้ มีกระแสลือว่ามีการจ่ายเงินซื้อเสียงผ่านผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายก อบต. ส.จ. ท.ต. ทม. ทน. โอ้โหย่ออ่านไม่ถูกเลยครับว่าอะไรบ้าง แล้วเขาจะจัดการซื้อเสียงได้อย่างไร ฝ่ายตำรวจก็ไม่เป็นกลาง รอจะให้ทหารมาช่วยบ้าง ผบ.เหล่าทัพก็สั่งให้ทำตัวเป็นกลาง จะไม่ลงมาช่วยคานอำนาจบ้างหรือไร มีทนายทหารบำนาญหลายคนไปลงสมัครเป็นสมาชิกพรรคต่างๆมากมาย และยังมีอิทธิพลต่อแม่ทัพนายกองอยู่แล้ว ทหารจะเป็นกลางได้อย่างไร โปรดติดตามการเมืองในนครราชสีมา คราวนี้จะรุนแรงและข้าราชการจะกระทำผิดมากที่สุด สื่อมวลชน จ.นครราชสีมา ต้องจับตาดูว่า ภาคเอกชนจะเข้ามาช่วยมากน้อยอย่างไร ผมขอให้ผู้ทรงคุณวุฒิ และแกนนำพันธมิตรฯ ต้องหนักแน่น เปิดโปงอย่างต่อเนื่องรุนแรง เน้นให้ประชาชนโดยรวมเฝ้าติดตามการเลือกตั้ง ช่วยกันจับตาดูหัวคะแนน ผู้ใหญ่บ้านกำนัน นายก อบต. นายก อบจ. ทน. สจ. กลุ่ม อสม.กลุ่มเกษตร กลุ่มวิปัสนา โชคดีนะครับจากทหารรักชาติ
ที่ผมอ่านนี่เพราะว่า นี่เป็นจดหมายของทหารท่านหนึ่งที่ท่านเขียนมาใส่ซองจากส่วนราชการมา และยืนยันว่า ที่ผมพูดเรื่องรถถังยูเครนนั้น เป็นความจริงทุกประการว่า คณะนี้รับมาแล้ว เอาไปทดลองใช้ และทดสอบในศูนย์ทางยุทธวิธีแล้ว ปรากฏว่า ใช้ไม่ได้ ไม่มีประสิทธิภาพจริงครับพี่น้อง เสียดายเงิน งบประมาณ ภาษี ประชาชน ทีไปซื้อมา และไม่เคยมี ผบ.ทบ.คนไหนติดคุก ไม่เคยถูกดำเนินคดี ไม่เคยต้องผิดต้องโทษ จากการทำความผิดของตนเอง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ทหารรักชาติอยากจะให้มีการแก้ไข ส่วนการเลือกตั้งซื้อเสียงนั้น ในนี้ตรงกันกับจดหมายฉบับหนึ่ง ฉบับนี้เป็นจดหมายมาจากเมียตำรวจครับ อันนั้นทหาร อันนี้เมียตำรวจ แต่ว่าผมเอ่ยชื่อไม่ได้ แต่เอาเป็นว่าท่านเขียนมาถึงผม ท่านเป็นภรรยานายตำรวจท่านหนึ่งยศไม่สูงนัก สามีไม่รู้ว่า ภรรยาเป็นคนเสื้อเหลือง แต่สามีแดงจ๋าเลย แกบอกว่า อย่างนี้ และเธอก็มาเขียนเล่าความจริงให้ฟังว่า การโกงเลือกตั้งคราวที่แล้วเป็นอย่างไร เธอบอกว่าอย่างนี้นะ สามีนี่แดงแจ๋เลย แต่เธอทนไม่ได้กับความไม่ดีของนักการเมืองสมัยนี้มากโดยเฉพาะทักษิณ อภิสิทธิ์ สุเทพ ยิ่งเห็นว่า จะยุบสภายิ่งไม่อยากเห็นการโกงเลือกตั้งแบบเลวสุดๆ โดยได้ยินพวกสามีและเพื่อนคุยกันว่า การเลือกตั้งเมื่อคราวของทักษิณ สมัยครองอำนาจ มีการเปลี่ยนบัตรทั้งกล่อง โดยการเลือกตั้งทั้งล่วงหน้า และวันลงคะแนนเลือกตั้งจริง กล่องบัตรเลือกตั้งนำไปเก็บไว้ที่สถานีตำรวจ พอตอนดึกๆไม่มีคนเห็นก็เอาบัตรทั้งหมดไปเผาทิ้งที่ค่ายทหาร ร่วมกันกับทหารครับพี่น้อง ทหาร ตำรวจ ผู้ว่าฯ แล้วก็เปลี่ยนบัตรเลือกตั้งใหม่หมดให้ฝ่ายทักษิณชนะทั้งจังหวัด เลวสุดๆ ทนไม่ได้จึงเขียนบอกมา เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขียนบอกมาอยากจะฝากให้คุณไม่ต้องพูด แต่อยากให้ส่งคนไปดู อันนี้ผมพูดแต่ผมไม่ได้เอ่ยชื่อว่า เป็นใครเขียนมานะครับ แต่ว่า นี่เป็นเรื่องจริง เป็นลายมือของเธอเขียนมา และบอกว่า ยืนยันว่าเธอเป็นภรรยาตำรวจ แต่เสื้อเหลืองล้านเปอร์เซ็นต์ครับ และบอกว่าช่วงนี้เขมรพักรบ ฮุน เซน, ฮุน มาเน็ต สั่งให้เขมรขุดรูเหมือนเวียดนาม ไซง่อนเดิม ดิฉันกลัวว่ามันจะขุดมาถึงฐานทหารเรา มันจะทำงานในตอนกลางคืน คือมันจะยิงและทิ้งระเบิดเราแล้ววิ่งลงรู ที่ทราบมาเพราะลูกจ้างเขมรที่อยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งบอกว่า แม่เขาบอกมาว่าให้รีบกลับประเทศด่วน เพราะมันจะโจมตีเราหนักมากเมื่อมันขุดรูเสร็จ เขมรคนนี้เกลียดฮุน เซน มากครับ
เราก็จะได้ความคิดเห็นที่ดีๆ จากพี่น้องประชาชนที่แฝงตัวอยู่แต่ไม่บอกให้สามีรู้ว่าฉันเหลือง ขนาดนอนกอดกันทั้งคืนยังไม่รู้เลยแดงกอดเหลืองหรือเหลืองกอดแดง ยังมีจดหมายอีกเยอะที่ส่งมา เพราะฉะนั้นมันไม่รู้ว่าแดงทับเหลืองหรือเหลืองทับแดง ก็ดูเอาแล้วกันนะครับสถานการณ์
เอาเป็นเรื่องที่อยากจะคุยกับพี่น้องเพิ่มเติมหลังจากที่ได้อ่านจดหมาย คุยเรื่องกฎหมายเลือกตั้งให้พี่น้องได้รับทราบแล้ว อย่างน้อยที่สุดเราจะได้เป็นอาวุธทางปัญญาที่จะไปทำงานรณรงค์กับพี่น้องของเราที่ยังไม่เข้าใจ ผมคิดว่าถ้าเขาเข้าใจข้อเท็จจริง เข้าใจเหตุผลอย่างที่พวกเราคุยกันอยู่ทุกวัน ผมเชื่อแน่ว่า เขาตัดสินใจได้ว่าในวันเลือกตั้งเขาจะตัดสินใจอย่างไร
ในวันนี้ผมอยากจะคุยเพื่อเป็นความรู้ประกอบการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ที่ยังลังเลอยู่ว่า เราจะเลือกอย่างไรดี เราจะตัดสินใจอย่างไรดีในการเลือกตั้งคราวนี้ จะใช้สิทธิ์อันมีความหมายและมีคุณค่าของเรานั้นตัดสินอนาคตบ้านเมืองอย่างไร อย่าให้นักการเมืองไปบอกว่า เดินเข้าคูหากาเลือกตั้งเลือกคนที่ท่านรัก เลือกพรรคที่ท่านชอบ ความจริงแล้วมีแต่เลวทั้งนั้นเลยครับพี่น้อง ไม่ใช่ของจริง อย่างนั้นไม่ใช่การเลือกอนาคตของบ้านเมือง แต่สิ่งที่พวกเรากำลังนำเสนอกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศต่างหาก นี่คือการเสนอทางออกที่เป็นอนาคตของบ้านเมือง
เมื่อวันก่อนผมบอกแล้วมันเป็นการเมือง 2 ขั้วที่อันตรายทั้ง 2 ขั้ว และขั้วที่ 3 อันตรายยิ่งกว่า เพราะว่าไม่ว่าขั้วไหนมาก็ร่วมโกงกับเขาได้ทุกขั้ว ร่วมกิน ร่วมโกง ร่วมยำประเทศชาติได้ทั้ง 2 ขั้ว นี่มันอันตรายทั้งนั้นเลย นักการเมืองและพรรคการเมือง
ทีนี้เมื่อเราเจาะลึกลงไปในการเลือกตั้งครั้งนี้ จริงๆ แล้วพี่น้องครับ การเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าพี่น้องดูลึกๆ ส่องกล้องดูเข้าไปถึงเนื้อในของการเลือกตั้งแล้ว ผมอยากจะให้ข้อจำกัดความชัดเจนขึ้นไปอีกว่า มันเป็นการเลือกตั้งเพื่ออะไรครับ นายอภิสิทธิ์พยายามจะบอกประชาชนทั้งประเทศว่า เป็นการเลือกเพื่ออนาคตบ้านเมือง เป็นการเลือกเพื่อพาประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ทักษิณก็บอกว่า เป็นการเลือกตั้งไม่แก้แค้นแต่จะแก้ไข แต่ความเป็นจริงแล้ว ผมจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องที่เคารพครับ ทั้ง 2 ฝั่งนี้เล่นภาพมายา หลอกลวง แหกตาประชาชนทั้งคู่ครับ จริงๆ แล้วการเลือกตั้งครั้งนี้ ฝ่ายหนึ่งอาศัยการเลือกตั้งมาฟอกความผิดให้กับตนเองและพวกพ้อง ฝ่ายไหนครับ ฝ่ายทักษิณ เพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง คราวนี้ใช้การเลือกตั้งเพื่อฟอกความผิดให้กับตนเอง เดี๋ยวผมจะจารไนให้ฟังว่า เขาอาศัยการเลือกตั้งมาเป็นเครื่องมือเพื่อฟอกความผิดของเขาอย่างไรบ้าง ส่วนฝ่ายรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้การเลือกตั้งครั้งนี้ปกปิดความล้มเหลวการบริหารของตัวเอง หนีความรับผิดชอบ ใช้การเลือกตั้งปกปิดความล้มเหลวในการบริหารประเทศของตัวเอง และกลบเกลื่อนปัญหาเรื่องการทุจริต และการขายชาติขายแผ่นดินที่กำลังจะเกิดขึ้น ด้วยน้ำมือของรัฐบาลอภิสิทธิ์นั้นเอง
มาดูฝ่ายเพื่อไทย ไม่มีใครไม่รู้เลยในประเทศนี้ว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคของทักษิณ กำกับบงการโดยทักษิณเพื่อทักษิณ และตระกูลชินวัตร ที่ไม่รู้มีอย่างเดียวคือ คณะกรรมการ กกต. ไม่รู้ว่าพรรคนี้เป็นพรรคของทักษิณ เลยไม่วินิจฉัยให้ยุบพรรค ว่าเป็นพรรคที่ตั้งมาโดยคนที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง ใช่ไหมครับพี่น้อง อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งข้างหน้าปัญหานี้ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ ถ้าหากว่าพรรคนี้ได้ขึ้นมาปกครองบ้านเมือง ได้อำนาจรัฐกลับคืนมา จะมีผู้ไปร้องเรียน หรือฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกเหมือนเดิมว่า เป็นพรรคที่ถูกกำกับบงการโดยคนที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองแล้ว ใช่มั้ยครับ มันเป็นนอมินี มันไม่ใช่นอมินีเลย มันเป็นโคลนนิ่งของทักษิณเลย คือสำเนาพันธุกรรมมาเลย ทั้งพรรคเพื่อไทย และยิ่งลักษณ์ ใช่มั้ยครับ
ทีนี้ ทักษิณเขาทำความผิดอะไรครับ ทุกคนก็รู้ว่าทักษิณกระทำความผิด และความผิดที่เป็นมาสเตอร์พีซ (Master piece) เป็นผลงานชิ้นสำคัญชิ้นใหญ่ของทักษิณ คือนี่ครับ ศาลพิพากษาให้ยึดทรัพย์ทักษิณ 46,373 ล้าน ในคดีร่ำรวยผิดปกติ ใช่มั้ยครับ นี่ไม่นับรวมคดีที่ดินรัชดาฯ คดีเลี่ยงภาษี และยังมีคดีเอสซี แอสเซท คดีอื่นๆ อีกที่ทักษิณหนีไปแล้วศาลออกหมายจับ ยังคาศาลอยู่ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช่มั้ยครับ
เพราะฉะนั้นคดีเรื่องร่ำรวยผิดปกติ ทุจริต และกระทำความผิดอื่นๆ รวมทั้งทักษิณยังมีหมายครั้งสุดท้ายที่ดีเอสไอ และ ศอฉ. ศูนย์อำนวยการเฉย ใช่มั้ย ที่ออกหมายทักษิณข้อหาก่อการร้าย กับข้อหาล้มเจ้า ใช่มั้ยครับ นั่นก็ออกหมายจับแล้ว ยังหนีหมายจับอยู่ เขามีคดีความผิดติดตัวเยอะ หลายสิบคดี
นอกจากนั้น ยัง เขาเรียกว่าอะไรครับ มีคดีล้มเจ้า มีคดีก่อการร้าย และเป็นหัวหน้าขบวนการจลาจลเผาบ้านเผาเมืองครั้งสำคัญทั้ง 2 ครั้ง 10 เมษาฯ และ 19 พฤษภาฯ ใช่มั้ยครับ ทักษิณเป็นคนบงการ ไปเปิดดูคลิป ดูวิดีโอได้เลย เพราะฉะนั้นตัวทักษิณเองก็มีความผิดติดตัว และที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ เป็นคนก่อให้เกิดจลาจลและสงครามกลางเมืองในประเทศไทยครั้งแรก เรียกว่าเป็นสงครามกลางเมืองเลยครับ มันยิงกันในเมืองเลย ด้วยอาวุธสงคราม ระหว่างกองกำลังฝ่ายทักษิณ กับกองกำลังฝ่ายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครับ
ยิงกันกลางบ้านกลางเมือง ที่ พ.อ.ร่มเกล้า ตาย ที่ยิงกันที่อนุสรณ์สถาน ที่ยิงกันในเวลาที่เข้าขอยึดพื้นที่คืน เป็นการปะทะกันระหว่างกองกำลังของทักษิณ กับกองกำลังของระบอบอภิสิทธิ์ พี่น้องที่ตายทั้งตำรวจ ทหารนั้น เป็นฝีมือและผลงานของอภิสิทธิ์ กับทักษิณทั้งคู่ครับ ต้องรับผิดชอบร่วมกัน จะโยนความผิดไปให้ใครเลยไม่ได้ และพี่น้องชาวราชประสงค์วันนี้ ที่เมื่อวานนี้แค่มีการชุมนุมวันเดียวน่ะ เขาเสียหายไปเป็นนับพันล้านแล้ว เพราะว่าอะไรครับ เพราะว่าคนที่จะมาจัดงานเลี้ยง งานประชุม งานแต่งงาน เขายกเลิกหมดเลย โรงแรมแถวนั้น ไม่ว่าโรงแรมเพรสซิเดนท์ โรงแรมคอนติเนนตัล โรงแรมแอทธินีพลาซ่า หรือโรงแรมโฟร์ซีซั่น โรงแรมอะไรแถวนั้น เอราวัณ ทุกโรงแรมเขายกเลิกหมดเลยครับ ไล่มาจนถึงประตูน้ำ เพราะว่าชุมนุมวันเดียว นักท่องเที่ยวที่จะมา ไม่มาพัก ไม่เข้าพัก ร้านค้าต้องปิดเร็วกว่ากำหนดทุกห้าง เสียหายวันเดียวหลายพันล้านแล้วครับ
แล้วในชุมนุมคราวนั้นเป็นเดือนๆ เขาเสียหายเป็นนับแสนล้านครับ นั่นก็ฝีมือทักษิณ กับอภิสิทธิ์ครับ โทษใครไม่ได้ ต้องรับผิดชอบร่วมกัน พวกคุณสู้กันจนบ้านเมืองไหม้เป็นจุล ประชาชนฉิบายทั้งแผ่นดินใช่มั้ยครับพี่น้อง สู้กันเพื่อชิงอำนาจ ไม่ได้เกี่ยวกับพวกเราเลย เหลืองอยู่บนภู ดูหมากัดกัน ใช่มั้ยครับ เราไม่ได้ไปเกี่ยวข้องเลย เพราะฉะนั้นที่คุณสุเทพบอกว่าเหลืองกับแดงเป็นปัญหากับบ้านเมืองนั้น คุณพูดผิดพูดใหม่ได้ คุณต่างหากที่เป็นปัญหาของแผ่นดินและชาติบ้านเมืองครับ ไม่ใช่พวกเรา อันนี้ชัด
แล้วในส่วนแกนนำเสื้อแดงล่ะ ทักษิณมีความผิดแล้ว ตัวแกนนำเสื้อแดง ไล่มาเลยครับ จตุพร ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 8 ณัฐวุฒิ อันดับ 9 หมอเหวง 19 ก่อแก้ว พิกุลทอง วิภูแถลง และใครต่อใครนะครับ เมียกีร์-อริสมันต์ เมียอดิศร เมียใครต่อใคร พวกมาไม่ได้ก็ส่งเมียมา บรรดาแกนนำ รวมทั้งขวัญชัย ไพรพนา เพชรวรรต ทุกคนอยู่ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์หมด เพราะอะไรครับ เพราถ้าหากว่าได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้แทนแล้ว เขาก็จะได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครอง ต่อไปนี้มึงจะเอาหมายมาจับกู มาตั้งข้อหากู กูได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองแล้ว มันต้องการคุ้มครองและฟอกความผิดทักษิณ และแกนนำเสื้อแดงไปพร้อมๆ กันครับ
3. ส่วนคุณยิ่งลักษณ์ล่ะ ยิ่งลักษณ์นี่เป็นผู้คัดค้านลำดับที่ 4 ในคดีนี้ คุณยิ่งลักษณ์เป็นคนหนึ่งที่ได้รับโอนทรัพย์สินของคุณทักษิณมาไว้ในชื่อตัวเอง แล้วคุณยิ่งลักษณ์ไปให้การต่อศาลว่าตัวเองเป็นคนซื้อหุ้นมาจากพี่ชาย ความจริงแล้วพี่ชายเอามาฝาก เอามาซุกไว้ในนาม ชื่อเมีย ชื่อน้อง ชื่อญาติพี่น้องครับ ศาลไม่เชื่อ ศาลจึงตัดสินให้ยึดทรัพย์อันเป็นของทักษิณที่อยู่ในชื่อของบุคคลเหล่านี้หมด ก็เท่ากับคุณยิ่งลักษณ์ก็มีชนักติดตัว เป็นการเบิกความอันเป็นเท็จต่อศาลเช่นกันครับ แล้วก็ปกปิดทรัพย์สินที่ได้มา อันเป็นการได้มาจากความร่ำรวยที่ผิดปกติของพี่ชายด้วย จึงเท่ากับมีส่วนสมรู้ร่วมคิดในการสนับสนุนและสมคบกันกระทำความผิดด้วย ใช่มั้ยครับ
นี่ก็เอาเฉพาะแค่ 3 กลุ่มใหญ่ๆ ทีนี้ไอ้พวกที่อยู่ในนั้นหลายคนนะครับ โดนคดีหลายคนไม่ว่าจะเป็น ส.ส.พายัพ ปั้นเกตุ หรือใครต่อใคร แม้กระทั่งรองประธานโรมานอฟ ทุกคนมีคดีติดตัวหมด รองประธานโรมานอฟนั้น คดีเก่าก็บุกบ้านป๋า คดีใหม่ก็เผา และขึ้นเวทีจลาจลก็โดนไปด้วย หลายคนในกลุ่มพรรคเพื่อไทย เสื้อแดง มีคดีติดตัวหมด ทำไมเขาจึงเข้าสู่การเลือกตั้ง เพราะว่า ถ้าเขาชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมาก มาจัดตั้งรัฐบาล พี่น้องลองคิดดูซิครับ ทักษิณก็จะอ้าง เพื่อไทยก็จะอ้างกับประชาชนทั้งประเทศได้ เห็นไหม แสดงว่าพวกผมทำถูกซิ ประชาชนถึงเลือกผมมา เผาบ้านเผาเมืองเป็นการต่อสู้ทางการเมือง เป็นการป้องกันตัวเอง รัฐบาลต่างหากเป็นคนวางเพลิงเผา แล้วโยนความผิดใส่ร้ายพวกผม พวกผมไม่ได้ทำ ถ้าพวกผมทำผิด ประชาชนจะเลือกผมมาทำไม เห็นไหมครับ มันจะหน้าด้านอย่างนี้เลย
ในทางการเมืองมันจะอ้างอย่างนี้เลย ว่าถ้าพวกผมทำผิด ทำไม่ดี คนทั้งประเทศจะเลือกผมมาตั้ง 240 - 250 เสียง ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือ มันจะอ้างอย่างนี้ทันที แล้วถ้าคนเขาเกลียดทักษิณ ไม่ชอบทักษิณ ประชาชนจะเลือกเหรอ เพราะฉะนั้นเมื่อเลือกแล้ว คุณต้องเคารพผลการเลือกตั้ง มันจะเอาผลการเลือกตั้งมาอ้าง และฟอกความผิดให้กับตัวเองทันทีเลยครับพี่น้อง แล้วพี่น้องครับ จะเชื่อไม่เชื่อ รับรองว่า ถ้ายิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เขาตั้งไอ้จตุพร หรือณัฐวุฒิ เป็นรัฐมนตรีแน่ ไม่ต้องสงสัย เพราะเขาไม่อีแอบเหมือนอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไอ้ณัฐวุฒิตอนเป็นแกนนำเสื้อแดง ทักษิณก็เคยตั้งเป็นโฆษกรัฐบาลมาแล้ว ไอ้จตุพร ขนาดอยู่ในสภาฯ คนเดียวมันยังสามารถสู้กับประชาธิปัตย์ทั้งภรรคได้เลย มันไม่เห็นกลัวเลย คราวนี้มันเอาพวกเสื้อแดง ยกเข้าไปอยู่ในสภาทั้งแก๊งเลย แล้วก็ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ เอาพวกนี้เป็น ส.ส.เอาไว้เป็นไม้กันหมา คอยรบกับพวกประชาธิปัตย์สภาฯจะยิ่งกว่าหมากัดกันอีกครับพี่น้อง
เพราะฉะนั้นวันนี้ไอ้ฝ่ายนี้ก็ต้องการมาเป็นรัฐบาล เมื่อเป็นรัฐบาลครองเสียงข้างมากในสภาแล้ว เรื่องนิรโทษกรรม เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อลบล้างความผิด และปกปิดความผิด ฟอกความผิดก็จะเกิดขึ้นพี่น้องครับ พี่คือเป้าหมายของเขา ได้ทั้งอำนาจรัฐ ได้ทั้งการฟอกความผิด ได้ทั้งทักษิณกลับคืนมา การเลือกตั้งครั้งนี้เขาต้องทุ่มสุดตัวเพื่อเอาชนะนายแหลเต็มที่ครับพี่นอ้งไม่ตอ้งห่วง
ทีนี้ส่วนฝ่ายประชาธิปัตย์ก็ต้องการเอาการเลือกตั้งนี้มาฟอก มาปกปิดความผิดของตัวเอง คือ เรื่องยุบสภาฯ เพื่ออะไร หนีความผิดใช่ไหมครับ แล้วรีบไปสู่การเลือกตั้ง พยายามโหมโรงเกาะกระแสให้คนทั้งประเทศลืม ลืมว่ามันทำให้ประเทศไทยเสียแผ่นดินอย่างไร ลืมที่รัฐบาลอภิสิทธิ์กับพวกโกงไปอย่างไร ลืมว่าตอนที่ก่อนยุบสภาฯทิ้งทวนโกงไปสองร้อยกว่าโครงการกินกันอิ่มหมีพลีมันอย่างไร ลืมว่าอภิสิทธิ์แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ และก็ดีแต่พูดอย่างไร ลืมไปเลยทุกคนตอนนี้กำลังหลงระเริงกลับไปสู่การเลือกตั้ง อภิสิทธิ์กำลังดีใจว่าตัวเองสามารถเอาการเลือกตั้งมากลบปม ปกปิด กลบเกลื่อนความล้มเหลวในการบริหารของตนเองใช่ไหมครับพี่น้อง
แต่อภิสิทธิ์ ก็มีเดิมพัน เดิมพันอะไรครับ เดิมพันคือ เขาต้องการชนะการเลือกตั้งเหมือนกัน เพราะถ้าชนะการเลือกตั้งแล้ว เขาจะได้มาอ้างกับพวกเราได้ ว่า เห็นไหมไอ้ที่พวกพันธมิตรฯบอกว่า ผมดีแต่พูด ทำงานไม่เป็น วันๆเอาแต่แหล แก้ปัญหาไม่ได้ ขี้ขลาดตาขาวทำให้เสียแผ่นดิน ทำไมประชาชนยังเลือกกูกลับมาอีก มันจะอ้างทันทีเลยครับพี่น้อง เห็นไหมครับ ถ้าจะกลับมาเป็นนายกฯอีกมันจะอ้างเลย พี่น้องครับถ้าการเมืองเป็นแบบนี้ รัฐบาล 1 อีกฟากทำความผิดอย่างที่ผมกล่าวมาแล้ว ฟากอภิสิทธิ์ล้มเหลวในการปกป้องแผ่นดิน ล้มเหลวในการบริหารบ้านเมืองแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นก็ไม่ได้ แก้ปัญหาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองก็ไม่ได้ ปัญหาภาคใต้ก็แก้ไม่ได้ ปัญหาความวุ่นวายจลาจลเอาบ้านเผาเมือง บ้านเมืองฉิบหาย มันก็ไม่รับผิดชอบแก้ไขอะไรไม่ได้เลยครับพี่น้อง วันๆดีแต่พูด ทำงานไม่เป็น ทีนี้ถ้าประเทศไทยเลือกตั้ง แล้วไปลงคะแนนให้คนที่ไม่เข้าท่าทั้งสองฝ่ายกลับมาเป็นรัฐบาล ไม่ว่าใครกลับมาเป็นรัฐบาลมันก็จะอ้างความชอบธรรมขึ้นมาทันที เห็นไหมประชาชนเลือกชั้น พวกแกไม่มีสิทธิ์จะมาพูดอะไร ถ้าชั้นไม่ดีเขาจะมาเลือกชั้นเหรอ พี่น้องครับ การเลือกตั้งครั้งนี้ มันจึงเป็นความอัปยศที่สุดของบ้านเมือง คือว่า ไม่ว่าเราจะไปหยิบเอาฝ่ายใดมา มันก็จะทำให้ได้คนเลวพอกัน คนที่สร้างความเสียหายกับชาติบ้านเมืองมาแล้วทั้งสองฝ่าย เวลานี้เรื่องโกง เรื่องทุจริต เรื่องความล้มเหลว ถูกทิ้งไว้ ซุกไว้ใต้พรมเพื่อทำให้คนลืมไปหมด เรื่องความผิดของทักษิณ เรื่องการเผาบ้านเผาเมือง ถูกทำให้ลืมไปหมด วันนี้สื่อมวลชนไทยก็ดีใจเพราะได้เงินค่าโฆษณา พรรคการเมืองเสียเงินซื้อสื่อของสื่อมวลชน สื่อมวลชนเลยดีใจ ใช้สื่อทีวี ใช้สื่อหนังสือพิมพ์โฆษณาหาตังค์กับนักการเมือง ก็เลยโง่งมงายไปกันหมดทั้งบ้านทั้งเมืองครับ พยายามเชียร์ว่า การเลือกตั้งเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ เป็นอนาคต เป็นความหวัง วัดกึ๋นคนนั้นคนนี้ ความจริงแล้วก็เลวทั้ง 2 ฝ่าย คุณทำไมไม่พูดความจริงกับประชาชน ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้เสนอนโยบายอะไรที่ดีให้กับบ้านเมืองเลย
เพราะฉะนั้นจึงกล่าวโดยสรุปว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ดูไปลึกๆ แล้ว มันเป็นการเลือกตั้งเพื่อเดิมพัน อีกฝ่ายก็ฟอกความผิด อีกฝ่ายปกปิดความล้มเหลวในการบริหาร กลบเกลื่อนเรื่องโกงเรื่องทุจริต และไม่ว่าฝ่ายไหนมา อีกฝ่ายหนึ่งจะไม่ไปขุดเรื่องทุจริตของกัน เพราะไก่เห็นตีนงูงูเห็นนมไก่ ต่างฝ่ายต่างโกงเหมือนกัน เพียงแต่ผลัดกันกินผลัดกันโกงเท่านั้นถ้าใครได้อำนาจเข้ามาปกครองบ้านเมือง ที่ย่อยยับและเสียหายที่สุดคือ ประเทศชาติบ้านเมือง และพี่น้องประชาชน
เพราะฉะนั้นวันนี้ก็เอาแค่นี้เพราะว่าอยากจะพูดอีกหลายเรื่องแต่วันหลังมาคุยกันต่อ จึงนำมาสู่ข้อสรุปว่า ที่พวกเราตัดสินใจโหวตโนมันดีที่สุดแล้ววันนี้ ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ เพราะว่า ไม่ว่าเลือกใครปีกใดปีกหนึ่ง ทั้งหมดที่มาให้ประชาชนเลือกนั้นล้วนแต่เป็นกลุ่มคนที่จะมาสร้างความเสียหายกับบ้านเมือง คะแนนของเรา สิทธิ์ของเรา เสียงของเราจะไม่ให้ใครเอาไปอ้างเพื่อทำลายชาติบ้านเมืองแม้แต่คนเดียว และถ้าเราได้คะแนนเท่าไหร่ออกมา จะกี่ล้านก็ตามแต่ เราจะประกาศได้อย่างสง่างามว่า คะแนน 2 ล้าน 3 ล้าน 5 ล้าน ที่ไม่ประสงค์ลงคะแนนนี่แหละที่ไม่เห็นด้วยในการโกงบ้านกินเมือง และเราจะเป็นหลักให้กับบ้านเมือง ในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง การทุจริตคอร์รัปชั่น และจะไม่ปล่อยให้นักการเมืองใช้อำนาจตามอำเภอใจ มาอ้างสิทธิประชาธิปไตยแบบจอมปลอม มาฟอกความผิดให้กับตัวเอง หาความชอบธรรมให้กับตัวเอง ยิ่งเสียงโหวตโนมากเท่าไหร่เขาจะอ้างความชอบธรรมได้น้อยลงเท่านั้นครับพี่น้อง
เพราะฉะนั้นวันนี้จึงต้องเชิญชวนพี่น้องทั้งประเทศว่า การโหวตโนนี้เป็นการทำบุญให้กับบ้านเมือง เป็นการหาทางเลือกทางออกและอนาคตที่ดีที่สุดให้กับประเทศไทย เป็นการควบคุม กำกับ อบรมสั่งสอน ไม่ให้นักการเมืองเหิมเกริมและอ้างอำนาจประชาชนไปปู้ยี่ปู้ยำประเทศชาติต่อไปครับ
ขอให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนจงมั่นใจในพลังโหวตโน ผมเชื่อมั่นว่าจะมีคนเข้าใจและเห็นด้วยกับพวกเรามากขึ้นทุกวันๆ จากวันนี้ไปจนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้ง ผมเชื่อว่าคนจะเห็นธาตุแท้ของทั้งสองฝ่ายชัดเจนที่สุดครับ เพราะว่าทั้งสองฝ่ายได้แบ ได้เปิดตัวและเผยตัวออกมาอย่างล่อนจ้อนแล้ว ไม่มีอะไรปกปิด ไม่มีอะไรสงสัยสำหรับพี่น้องประชาชนแล้วครับ และอยากจะฝากไปถึงท่าน พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนกันว่า ถ้าวันหนึ่งนายจตุพร หรือนายณัฐวุฒิ อาจจะไปเป็นรัฐมนตรีฯ กลาโหม หรือเอาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ หรือเป็นหนึ่งในคณะรัฐบาล ผมไม่รู้ว่าท่านจะทำตัวอย่างไรนะครับ เพราะฉะนั้นก็ฝากเป็นการบ้านให้ท่านคิดไว้ด้วยว่า ผมเชื่อแน่ว่า ถ้ายิ่งลักษณ์-ทักษิณ มา พวกนี้ตบเท้าเข้าเป็น ส.ส.ในสภา และส่วนหนึ่งเป็นรัฐมนตรีเสื้อแดงอย่างแน่นอนครับ
ถึงวันนั้นท่านคงจะได้ดูไม่จืดครับ พี่น้อง ผมยินดีปฏิบัติตามนโยบายของฝ่ายการเมืองเราครับ ฯพณฯ จตุพร ฯพณฯ ณัฐวุฒิ กระผมยินดีครับ ผมจะรอดูวันนั้นว่าท่านจะทำตัวอย่างไรนะครับ
เอาล่ะ ไม่ร้องไม่ได้ เพราะว่าพี่น้องบอกว่าต้องร้อง เอ้า ร้องก็ร้องครับ
(เพลง : ศรัทธา)