• ปณท.จัดทำแสตมป์วิสาข 54
ภายใต้ชื่อ “ชนะมารชนะโลก”
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้จัดทำแสตมป์ชุดวันสำคัญทางพุทธศาสนา เนื่องในวันวิสาขบูชา ชื่อ “ชนะมารชนะโลก - Winning the Devil, Winning All in the World” เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบไทยในสมัยรัชกาลที่ 1 ที่มีชื่อเสียง มีความงดงามทางด้านศิลปะที่สมบูรณ์ โดยเป็นภาพที่นำมาจากจิตรกรรมฝาผนังวัดคงคาราม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี “ภาพมารผจญ” ซึ่งมีรายละเอียดของพื้นหลังที่ระบายด้วยสีแดงชาดเข้มมีดอกไม้ร่วงถมเต็มพื้นที่ มีแม่ธรณีบีบมวยผมยืนเยื้องกรายด้วยท่าทางอ่อนช้อยใต้ที่ประทับของพระพุทธเจ้าปางมารวิชัย พระวรกายปิดทองทรงจีวรสีแดง และด้านข้างมีพระยาวัสวดีมารนั่งประทับบนหลังช้างกาย สีเขียว และเหล่าไพร่พลเป็นยักษ์ขี่สิงห์ ขี่ม้า ภาพเหล่านี้เป็นภาพตอนน้ำท่วมกองทัพพญามาร เห็นทหารวิลันดากับทหารฝรั่งเศสใส่หมวกหนังสีดำหลายคน
แสตมป์ชุดนี้ออกแบบโดย วีณา จันทนทัศน์ ขนาด 30x72 มม. จำนวนพิมพ์ 700,000 ดวง ราคาดวงละ 3 บาท เปิดจำหน่ายวันที่ 17 พ.ค. 54 ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่่ายตลาดตราไปรษณียากร โทร. 0-2831-3583,0-2831-3816 หรือ CallCenter 1545
• พุทธมณฑลจัดงาน
วิสาขบูชา 54
นายกนก แสนประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงาน พุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในโอกาสวันวิสาขบูชา วันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เป็นสิริมงคลดิถีคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยองค์การสหประชาชาติได้ประกาศยกย่องให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลก ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 17 พฤษภาคม 2554 สำนักงานพุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงได้จัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา โดยจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 14-17 พฤษภาคม เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกิจกรรมสืบสานความดีงามในวิถีของชาวพุทธ และเพื่อเป็นการระลึกถึงพระพุทธเจ้า
เริ่มด้วยวันที่ 14 พ.ค. เวลา 16.15 น. พิธีธรรมยาตราปฏิบัติบูชา โดยพระสงฆ์ 1,500 รูป พุทธศาสนิกชน 1,500 คน พร้อมด้วยประมุขสงฆ์ ผู้ นำชาวพุทธนานาชาติ เวลา 19.00 น. การแสดงแสง สี เสียง “วันวิสาขบูชา พุทธบารมี” ส่วนวันที่ 17 พ.ค.ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา เวลา 07.30 น. การทำบุญตักบาตร และเวลา 16.00 น. พิธีเวียนเทียนและพิธี ถวายผ้าป่า และการแสดงพระธรรมเทศนาโดยสมเด็จ พระมหารัชมังคลาจารย์ เวลา 20.00 น. การบรรยายธรรม และเวลา 22.00 น. การสนทนาธรรม
สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกวันประกอบด้วย การปฏิบัติธรรมฝ่ายพระสงฆ์ที่สวนเวฬุวัน การปฏิบัติธรรมฝ่ายฆราวาส ที่อาคารพิพิธภัณฑ์ทางพระพุทธศาสนา การแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับความสำคัญของวันวิสาขบูชาและการประกวดของเยาวชน การสักการะธรรมเจดีย์ คัมภีร์พระพุทธศาสนาโบราณ พิธีเวียนเทียน การสนทนาธรรม กิจกรรมธรรมบันเทิง ภาพยนตร์ธรรมะ กิจกรรมพระธรรมทูตศรีลังกา นิทรรศการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์จังหวัดสมุทรสาคร การรับน้ำพระพุทธมนต์ 9 พระอารามหลวง และการแสดงแสง สี เสียง “วิสาขบูชา พุทธบารมี” ซึ่งแสดง 2 รอบ คือ เวลา 19.00 น. และ 21.00 น.
• กลุ่มศิลปะเปิดจิตจัดงาน มหรสพทางวิญญาณ
“โลกรอดเพราะกตัญญู”
กลุ่มศิลปะเปิดจิต จีวันแบนด์ และสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี ร่วมกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้จัดมหรสพทางวิญญาณคอนเสิร์ตเพลงพุทธทาส เป็นประจำทุกปี นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณท่านพุทธทาสภิกขุ และสนองเจตนารมณ์ของท่านที่จะทำเพลงศาสนาเพื่อชาติและประชาชน ให้ผู้คนได้รับฟังเพื่อความรื่นเริงทางสติปัญญา
โดยในปีนี้ได้สานต่อกิจกรรมภายใต้โครงการ “กตัญญูกตเวทีสองศรีพระศาสนา” เนื่องในโอกาส 100 ปีชาตกาลท่านปัญญานันทภิกขุ และ 105 ปีชาตกาลท่านพุทธทาสภิกขุ ด้วยการจัดงานมหรสพทางวิญญาณ “โลกรอดเพราะกตัญญู” เนื่องด้วยเล็งเห็นความสำคัญของ ‘ความกตัญญู’ ซึ่งถือเป็นบันไดขั้นแรก เป็นพื้นฐานให้เด็กและเยาวชนเติบโตอย่างปกติสุข แต่เมื่อมองความจริงของสังคมในปัจจุบัน กลับมีคนกตัญญูเพียงน้อยนิด ปัญหาต่างๆ จึงสะสมเพิ่มพูน เป็นปัญหาใหญ่ผูกโยงกับหายนะของโลกอย่างง่ายดาย เพียงเพราะมนุษย์ขาดความกตัญญู
ทั้งนี้ มหรสพทางวิญญาณ คอนเสิร์ตจีวันแบนด์ “โลกรอดเพราะกตัญญู” จะจัดขึ้นในวันที่ 28-29 พ.ค.(2 รอบ) ณ หอประชุมเล็กศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เวลา 14.00-17.00 น. (กิจกรรมหน้าหอประชุม “2 วันกตัญญู” เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-14.00 น.) โดยรายได้จากการจำหน่ายบัตร จะนำไปใช้ในโครงการนำเพลงธรรมะสู่เยาวชนและการผลิตจัดทำสื่อธรรมะให้กับโรงเรียน วัด และหน่วยงานด้านเยาวชนทั่วประเทศ
• เตรียมสร้าง “โบสถ์ดิน” แห่งแรกในประเทศไทย
ถวายเป็นพระราชกุศล “ในหลวง” 84 พรรษา
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 54 พระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชฯ และนายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ร่วม แถลงข่าวโครงการการสร้างอุโบสถดิน ตามแนวเศรษฐกิจ พอเพียง โดยพระครูสังฆสิทธิกรเปิดเผยว่า เนื่องในโอกาส วันคล้ายวันสถาปนา สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ ที่ 19 ครบรอบ 22 ปี วันที่ 21 เมษายน 2554 ซึ่งถือว่าเป็น สมเด็จพระสังฆราช ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ ในการนี้ได้มีการจัดกิจกรรมแห่งการสถาปนา ได้แก่ โครงการสร้างอุโบสถดินแห่งแรกในประเทศไทย ณ วัดป่าพุทธนิมิต ซึ่งเป็นวัดกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และการจัดพิมพ์หนังสือพระนิพนธ์ รวมทั้งโครงการสาธารณะประโยชน์ต่างๆ
โดยอุโบสถดิน ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จะมีขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 15 เมตร ใช้งบประมาณก่อสร้าง ไม่เกิน 1 ล้านบาท และตึกวิเวกอาศรม 5 หลัง ใช้งบประมาณไม่เกินหลังละ 150,000 บาท จัดสร้างที่วัดป่าพุทธนิมิตสถิตสีมาราม ต.เหล่าโพนค้อ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ซึ่งพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์วันที่ 24 เมษายน 2554
อุโบสถดินแห่งแรกของไทยออกแบบโดยกรมราชทัณฑ์ และก่อสร้างโดยผู้ต้องขังที่กำลังจะพ้นโทษ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราชและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการทำความดีให้สังคม ซึ่งสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชจะนำดินที่สังเวชนียสถาน 4 แห่งจากประเทศเนปาล อินเดีย และดินจากพระสถูปโบราณสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชจากเมืองตักกสิลา ประเทศปากีสถาน มาผสมเพื่อเป็นสิริมงคลในการสร้างอุโบสถดินด้วย
ทั้งนี้หากประชาชนประสงค์จะร่วมทำบุญตามโครง การดังกล่าว ติดต่อสอบถามได้ที่โทร.02-281-2831-2
• กระทรวงไอซีทีจัดถวายพระพรออนไลน์
เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า โครงการ “ถวายพระพรออนไลน์เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา” ผ่านทางเว็บไซต์ www.welovekingonline. com เป็นการสานต่อความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังจะเห็นได้จากการจัดงานถวายพระพรออนไลน์ “ด้วย ๙ ชาวไทย” เมื่อปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ในปีนี้กระทรวงไอซีทีได้จัดโครงการ “ถวายพระพรออนไลน์เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา” เพื่อเป็นช่องทางให้พี่น้องชาวไทยได้ร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าว ได้ตลอดทั้งปี 2554 พร้อมคาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกระแสความตื่นตัวจากทุกภาค ส่วนให้ร่วมกันทำความดี สามัคคี และปรองดองกัน เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระบิดาแห่งเทคโนโลยี และปีนี้เป็นปีมหามงคลของประเทศไทย พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษา กระทรวงไอซีทีต้องการที่จะให้คนไทยได้มีโอกาสร่วมถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทุกวันทุกที่ทั่วโลกตลอดปีนี้ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน อีกทั้งโครงการถวายพระออนไลน์ยังเป็นการดำเนินรอยตามแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นแบบอย่าง ที่ทรงประดิษฐ์คำอวยพรปีใหม่ด้วยคอมพิวเตอร์ให้ปวงชนชาวไทย”
สำหรับขั้นตอนการถวายพระพรออนไลน์นั้น ให้เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ www.welovekingonline.com เลือก e-Postcard พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีให้เลือก 9 แบบ จากนั้นเลือกดอกไม้ประจำเดือนเกิด เลือกคำถวายพระพรจาก บุคคลต้นแบบที่มีอยู่ในเว็บไซต์ แล้วกดส่งคำถวายพระพร
• เชิญชวนเยาวชน ร่วมปฏิบัติธรรม
โครงการอิ่มบุญ 999 วัด เฉลิมพระเกียรติ “ในหลวง”
นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่า วุฒิสภา ร่วมกับมหาเถรสมาคม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มูลนิธิพัฒนาและส่งเสริมเยาวชนคนหนุ่มสาว บริษัท ซี พี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด จัดทำโครงการอิ่มบุญ 999 วัด เยาวชนปฏิบัติธรรม 84,000 คน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และสืบทอดพระพุทธศาสนา รวมทั้งเพื่อสนองคุณบิดามารดา ครูอาจารย์ และบรรพชน และเพื่อปลูกฝังคุณธรรมในจิตใจของเยาวชน
โดยโครงการนี้เป็นการเชิญชวนเยาวชนจำนวน 84,000 คน เข้าวัด 999 แห่งทั่วประเทศ เป็นเวลา3 วัน 2 คืน เพื่อปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เดินจงกรม สวดมนต์ ถือศีล ฟังธรรม และเรียนรู้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา รวมทั้งการจัดพิมพ์หนังสือ “ธรรมะสำหรับเยาวชน” แจกฟรีแก่ผู้เข้าร่วมโครงการและนักเรียนที่สนใจ จำนวน 1 ล้านเล่ม
ด้านนายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ประธานคณะกรรมการโครงการอิ่มบุญฯ กล่าวว่า โครงการนี้เน้นให้เยาวชนพัฒนาตนเองให้มีความสมบูรณ์พร้อม โดยเฉพาะด้านจิตใจ อารมณ์ และสติปัญญา และปลูกฝังด้านคุณธรรมจริยธรรม เพื่อเป็นเกราะป้องกันเยาวชนให้พ้นจากอบายมุขทั้งหลายทั้งปวง เพื่อลดปัญหาสังคมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะจัดโครงการนี้ระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม 54 เยาวชนที่สนใจสามารถสมัครได้ที่โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
• สมเด็จพระเทพฯ ทรงห่วง
สามเณรไม่ค่อยได้เรียน “บาลี”
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า จากการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาในพื้นที่ภาคเหนือ พระองค์ทรงมีพระราชดำรัส ถึงความห่วงใยในการศึกษาของสงฆ์ โดยเฉพาะการเรียนบาลี ซึ่งถือ ว่าพระสงฆ์ สามเณร จะต้องอ่านเขียนบาลีได้เพื่อใช้ศึกษาพระไตรปิฎก แต่ที่ผ่านมาทรงเห็นว่า สามเณรที่เรียนในโรงเรียนพระปริยัติธรรมไม่ค่อยได้เรียนบาลี ซึ่งจะส่งผลให้สามเณรอ่านบาลีไม่ออก ทางโรงเรียนควรจะมีการปรับหลักสูตรให้สามเณรได้เรียนบาลีด้วย
อย่างไรก็ตาม พศ.ได้ปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียน พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา มาก่อนหน้านี้ และขณะนี้ร่างหลักสูตรใหม่ของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ได้ดำเนินการจัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีการเพิ่มวิชาบาลีเข้าไปในหลักสูตรด้วย ซึ่งจะไม่กระทบถึงเวลาเรียน โดยเบื้องต้น พศ.เห็นว่าอาจจะมีการลดจำนวนวิชาสามัญที่ไม่จำเป็นออกไป แล้วนำวิชาบาลีเข้ามาแทน เพื่อไม่ให้สามเณรเรียนหนักจนเกินไป และในเร็วๆ นี้ พศ.จะนำร่างหลักสูตรใหม่ เข้าหารือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้น ฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อหารือแนวทางการลดจำนวนวิชาสามัญลง จากนั้นจะนำร่างดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคมพิจารณาต่อไป
“ผมคิดว่า หลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กำลังเหมือนโรงเรียนฆราวาสทั่วไป ซึ่งที่จริงไม่ควรใช้หลักเดียวกันทั้งหมด เพราะโรงเรียนของเรามีลักษณะเฉพาะที่จะต้องรักษาเอกลักษณ์ของพระสงฆ์เอาไว้ คือจะต้องอ่านบาลีอออก ที่ผ่านมาสามเณรที่เรียนในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา จะอ่านเขียนบาลีไม่ค่อยได้ นี่คือจุดบอด เพราะหากพระสงฆ์อ่านเขียนบาลีไม่ได้ ก็จะไม่ใช่ศาสนทายาทที่จะมาสืบทอดหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ดังนั้น การรักษาศาสนทายาทได้ พระสงฆ์จะต้องอ่านเขียนบาลีได้ เพื่อไว้ใช้ศึกษาพระไตรปิฎกที่เป็นภาษาบาลี รวมทั้งจะต้องชี้แจงให้กระทรวงศึกษาธิการเห็นว่า เราจะต้องปรับหลักสูตรให้เหมาะสมกับการเป็นโรงเรียนของพระ” ผอ.พศ.กล่าว
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 126 พฤษภาคม 2554 โดย มรรคา)