ข่าวสารบ้านเรา

• "สมเด็จพระมหาธีราจารย์" มรณภาพแล้ว

สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้มรณภาพแล้ว เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 54 ด้วยโรคชรา สิริอายุรวม 88 ปี 1 เดือน สร้างความโศกเศร้าให้แก่คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญน้ำหลวงสรงศพ พร้อมพระราชทานโกศไม้ 12 ชั้น ไตรครอง ซึ่งถือเป็นเกียรติยศสูงสุด พร้อมด้วยฉัตรเครื่อง 10 ฉัตร ตั้งประดับรอบโกศ พระราชทานสวดอภิธรรม ศพ 7 คืน และพระราชทานสวดบำเพ็ญพระราชกุศล 7 วัน จากนั้นเปิดให้หน่วยงานราชการ องค์กรต่างๆ และศิษยานุศิษย์เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม และบำเพ็ญกุศลถวายสมเด็จพระมหาธีราจารย์ จนครบ 100 วัน ในวันที่ 18 มิ.ย.

สำหรับประวัติโดยย่อนั้น สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร) เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2466 ณ บ้านท่าหิน อ.อุทัย จ. พระนครศรีอยุธยา เมื่ออายุได้ 14 ปี บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดกระสังข์ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2487 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดพระญาติการาม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนคร ศรีอยุธยา ปี พ.ศ. 2498 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดพระราชทานแต่งตั้งเลื่อนและสถาปนาสมณศักดิ์ ดังนี้ พ.ศ. 2505 เป็นพระราชาคณะ ชั้นสามัญ ที่ พระปริยัติโสภณ พ.ศ.2507 เป็นพระราชา คณะ ชั้นราช ที่ พระราชโมลี พ.ศ. 2511 เป็นพระราชาคณะ ชั้นเทพ ที่ พระเทพโสภณ พ.ศ. 2515 เป็นพระราชาคณะ ชั้นธรรม ที่ พระธรรมปิฎก พ.ศ. 2530 เป็นพระราชาคณะ เจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ที่ พระธรรมวโรดม พ.ศ. 2535 เป็นสมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ ที่ สมเด็จพระมหาธีราจารย์

ในการปกครองคณะสงฆ์นั้น ได้เป็น เจ้าคณะภาค 13 เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม และพระอุปัชฌาย์วิสามัญ เป็นเจ้าสำนักเรียนพระปริยัติธรรมวัดชนะสงคราม เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นเจ้าคณะ ใหญ่หนใต้ เป็นเจ้าคณะใหญ่หนกลาง และเป็นคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

• มส. ตั้ง "พระพรหมโมลี"
เป็นเจ้าคณะใหญ่หนกลาง

ดร.อำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เปิดเผยหลังการประชุม มหาถรสมาคม (มส.) เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 54 ว่า ด้วยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสสโร) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ได้มรณภาพลงเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 54 เป็นเหตุให้ผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนกลางว่างลง และเนื่องจากเป็นตำแหน่งสำคัญจึงไม่ควรว่างเว้นเป็นเวลานาน ที่ประชุมมส.จึงมีมติให้พระพรหมโมลี (สมศักดิ์ อุปสโม) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 1 และเจ้า อาวาสวัดพิชยญาติการาม เขตคลองสาน กทม. ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 8 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ

สำหรับประวัติ “พระพรหมโมลี” มีนามเดิมว่า สมศักดิ์ ชูมาลัยวงศ์ อุปสมบทเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2504 ณ วัดละมุด จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมาในปี 2548 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏที่ พระพรหมโมลี ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ 1, คณะกรรมการพิจารณางบประมาณศาสนสมบัติกลางประจำ, กรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสงฆ์, รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส จ.นครปฐม

• มส. มีมติให้คณะสงฆ์ทุกจังหวัดร่วมรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ศูนย์ช่วยเหลือคนไทยในประเทศญี่ปุ่น

ดร.อำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เปิดเผยว่า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ได้แจ้งที่ประชุมมหาเถรสมาคมทราบ กรณีได้สั่งการให้วัดปากน้ำญี่ปุ่น เมืองนาริตะ เขตชิบะ ซึ่งเป็นวัดสาขาของวัดปากน้ำภาษีเจริญ เปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทยในประเทศญี่ปุ่น ที่ประสบภัยพิบัติจากเหตุแผ่นดินไหว และสึนามิ พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้คณะสงฆ์ทุกจังหวัดร่วมรับบริจาคเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยส่วนกลางเปิดรับบริจาคที่ สำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธมณฑล จ. นครปฐม สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด

พร้อมกันนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยังเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขากระทรวงศึกษาธิการ ชื่อบัญชี “ช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิญี่ปุ่น” เลขที่บัญชี 059-0-17802-4 โดยจะสิ้นสุดการรับบริจาคในวันที่ 30 เมษายนนี้

• สวท. จัดประกวดเรียงความ
"ใต้ร่มพระบารมี 84 พรรษา"

นายไพฑูรย์ หิรัญประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย(สวท.) กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรชาวไทยเป็นล้นพ้น จากการที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กว่า 3,000 โครงการ พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยในทุกพื้นที่ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเพื่อเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนผลิตรายการ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ได้จัดประกวดเรียงความหัวข้อเรื่อง “ใต้ร่มพระบารมี 84 พรรษา” โดยเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป มีส่วนร่วมในการเขียนเรียงความด้วยการเสนอแนวคิดในการน้อมนำแนวพระราชดำริมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตของคนไทยอย่างมีความสุขสอดคล้องกับสภาวะในปัจจุบัน

สำหรับหลักเกณฑ์นั้น จะต้องพิมพ์ด้วยตัวพิมพ์ Angsana New ขนาด 18 ความยาวไม่เกิน 2 หน้ากระดาษเอ 4 หรือไม่น้อยกว่า 40 บรรทัด ส่งมาที่ ส่วนผลิตรายการ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ถนนวิภาวดีรังสิต ดินแดง กรุงเทพฯ 10400 วงเล็บหน้าซองว่า ประกวดเรียงความ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2554

สำหรับรางวัลมี 5 รางวัล เป็นเงินสดพร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ รางวัลชนะเลิศเงินสด 15,000 บาท รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง 10,000 บาท รองชนะเลิศอันดับสอง 5,000 บาท และรางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 2,500 บาท ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0-2277-3238 , 0-2277-3241 ในวัน และเวลาราชการ หรือดูรายละเอียดทางเว็บไซต์ www.prd.go.th

• รัฐบาลพม่าถวายสมณศักดิ์
ด้านวิปัสสนาสูงสุดแด่พระสงฆ์ไทย

ดร. อำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เปิดเผยหลังการประชุม มหาถรสมาคม(มส.) เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 54 ว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ว่า รัฐบาลพม่าได้มีการ ถวายสมณศักดิ์แด่พระธรรมมังคลาจารย์ (ทอง สิริมงคโล) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งบำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา โดยสมณศักดิ์ดังกล่าว ถือเป็นสมณศักดิ์สูงสุดสำหรับพระภิกษุสายวิปัสสนา คือ “อัครมหากัมมัฏฐานจริยา” โดยในปีนี้ มีพระภิกษุต่างชาติที่ได้รับการถวายสมณศักดิ์ทั้งหมด 10 รูป อาทิ ไทย อินเดีย ศรีลังกา เวียดนาม เนปาล บังกลาเทศ สหราชอาณาจักร

พระธรรมมังคลาจารย์ อายุ 88 ปี พรรษา 67 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ และหัวหน้าพระวิปัสสนาจารย์หนเหนือ กองการวิปัสสนาธุระ ท่านได้เข้าฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานจากสำนักวัดมหาธาตุฯ กทม. และสำนักมหาสีสยาดอ สาสนยิสสา กรุงย่างกุ้ง พม่า จากนั้น ได้กลับมาเปิดสำนักวิปัสสนากรรมฐาน ดำเนินการสอนตลอดมา จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าพระวิปัสสนาจารย์หนเหนือ กองการวิปัสสนาธุระ และได้ขยายสำนักสาขาปฏิบัติอีกหลายสำนัก ทั้งในและต่างประเทศ

• ไปรษณีย์หนองคายเปิดตัว
แสตมป์ที่ระลึก "หลวงตามหาบัว"

นายประภาส พันธ์ชูเพชร หัวหน้าไปรษณีย์หนองคาย ได้นำตราไปรษณียากร หรือแสตมป์ ซึ่งเป็นภาพส่วนตัวของพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) มาเผยแพร่ให้ประชาชนที่สนใจอยากซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยแสตมป์ชุดดังกล่าว ทางไปรษณีย์เขต 4 ได้รับการ อนุญาตจากวัดเกสรศีลคุณ หรือวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี จัดพิมพ์เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ผู้เลื่อมใสศรัทธาหลวงตามหาบัว มีโอกาสเก็บแสตมป์ ชุดนี้ไว้เป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว โดยพิมพ์เป็น 2 แบบ แบบละ 10,000 แผ่น คือแบบแนวตั้ง ราคา 70 บาท มี 4 ดวง 3 สี คือ สี เหลือง สีฟ้า และสีเขียว และแบบแนวนอน ราคา 120 บาท มี 10 ดวง โดยส่วนหนึ่งของรายได้จากการจำหน่ายแสตมป์ จะรวบรวมมอบให้วัดป่าบ้านตาด ถวายเป็นกุศลแด่หลวงตามหาบัว

ผู้ที่สนใจสามารถซื้อแสตมป์ชุดดังกล่าว ได้ที่ไปรษณีย์หนองคาย และไปรษณีย์ในสังกัดไปรษณีย์เขต 4 ทั้งอุดรธานี ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 17 พ.ค.นี้ และจะไม่มีการผลิตเพิ่มเติมอีก สอบถามรายละเอียด โทร. 042-411-521

• แผ่นดินไหวในพม่า ส่งผล
โบราณสถานไทยเสียหายหลายแห่ง

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 54 ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ ที่ประเทศพม่า โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย ไปทางทิศเหนือประมาณ 56 กม. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บ้านเรือนได้รับความเสียหาย เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้โบราณสถานที่สำคัญต่างๆ ทางภาคเหนือ ได้รับความเสียหายหลายพื้นที่ เบื้องต้นพอประมวลได้ดังนี้

วัดพระธาตุเจดีย์หลวง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พระธาตุเจดีย์หลวง อายุราว 667 ปี เจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนาที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในเชียงแสน ปลายของยอดเจดีย์ด้านบนสุด หักโค่นลงและกระทบกับเจดีย์ เล็กที่ตั้งอยู่ใกล้ฐานของพระธาตุเจดีย์หลวง ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก จนทำให้แตกหักทั้งยอดเจดีย์ และพระธาตุองค์เล็ก นอกจากนี้ยังมีการพังทลายของ อิฐและคอนกรีตฉาบด้านนอกเป็นโพรงขนาดใหญ่

วัดพระธาตุจอมกิตติ จ.เชียงราย องค์พระธาตุจอมกิตติเอียงลงอีก และมีรอยร้าวแตกรอบองค์ แผ่นทองโลหะที่ปิดรอบองค์พระธาตุบิดตัว ยอดฉัตร ขององค์พระธาตุคดงอ แต่ไม่หักลงมา

วัดศรีโคมคำ จ.พะเยา พระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปเก่าแก่อายุราว 900 ปี บริเวณใต้ศอกด้านขวาลงมาถึงนิ้วมือ มีรอยแตกมองเห็นประมาณ 1-2 ซ.ม. ยาวประมาณเกือบ 1 เมตร

ส่วนที่วิหารวัดภูมินทร์ อ.เมือง จ.น่าน จิตรกรรมฝาผนังที่สร้างไว้สมัย ร.5 เกิดรอยแตกร้าว 3 เมตร โดยปูนรองพื้นปริกะเทาะออก ทำให้ภาพจิตกรรมด้านบนประตูทิศเหนือได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ องค์พระประธานจตุรทิศ 2 ใน 4 ด้านทิศตะวันตกและทิศใต้ มีรอยแตกร้าวหลายจุด

ส่วนที่สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พระพุทธนวล้านตื้อ หรือพระเชียงแสนสี่แผ่นดิน พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ริมแม่น้ำโขง องค์พระเกิดรอยร้าว บริเวณพระเศียร ด้านหลัง เส้นพระศก (เส้นพระเกศาที่เป็นรูปก้นหอย) ได้หลุดหายไป 1 เส้น

นอกจากนี้ แรงสั่นไหวยังทำให้โบราณสถานหลายแห่งในเชียงราย อาทิ วัดรัตนวราราม และวัดโพธาราม เกิดรอยร้าวบริเวณผนัง และพื้นทรุดตัว

• มส. แต่งตั้งคณะกรรมการ
การศึกษาพระปริยัติธรรม

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามประกาศมหาเถรสมาคม (มส.) ว่าด้วยโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. 2553 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2553 ได้กำหนดให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาขึ้น

ดังนั้น ที่ประชุมมหาเถรสมาคมจึงมีมติแต่งตั้ง สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการสภาการศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ร่วมเป็นกรรมการ โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะทำหน้าที่ เช่นเดียวกับคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) ของกระทรวงศึกษาธิการคือกำหนดนโยบายการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ให้คำแนะนำส่งเสริมการจัดการศึกษาและการประกันคุณภาพการศึกษาให้มีคุณภาพ ให้ความเห็นชอบจัดตั้ง ขยายชั้นเรียน ยุบรวม เลิกดำเนินการโรงเรียน ออกระเบียบ คำสั่ง ประกาศการบริหารบุคลากรโรงเรียน โดยเชื่อว่า การมีคณะกรรมการดังกล่าวจะทำให้การศึกษาคณะสงฆ์มีคุณภาพมากขึ้น

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 125 เมษายน 2554 โดย มรรคา)