ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หลายประเทศได้ประสบกับภัยธรรมชาติครั้งยิ่งใหญ่ อาทิ แผ่นดินไหว น้ำท่วม หิมะถล่ม พาผู้คนบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก
นี่แหละคือธรรม อันหมายถึง ธรรมชาติ ธรรมดา ของสรรพสิ่งที่ล้วนแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป พระพุทธองค์จึงทรงสอนมนุษย์ว่า อย่าประมาทในการใช้ชีวิต ให้เร่งประกอบคุณงาม ความดีตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ เพราะความตาย จะมาเยือนเวลาใดก็ไม่รู้
ความตายเป็นเรื่องน่าสะพรึงกลัวสำหรับ มนุษย์ แม้ว่าทุกคนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ตาม และเรื่องราวหลายเรื่องของความตาย เช่น ตายแล้ว ไปไหน ตายแล้วฟื้นจริงหรือ? ก็ยังเป็นข้อถกเถียงที่รอคำตอบ
ดังนั้น เมื่อมีบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มหนึ่งจาก 25 ศูนย์การแพทย์ชั้นนำในยุโรปและอเมริกา ร่วมพิสูจน์ “ตายแล้วฟื้น” จริงหรือ? ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ จึงเป็นเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่ง ดร.แซม พาร์เนีย หัวหน้าโครงการศึกษาวิจัยเรื่องนี้บอกว่า “การวิจัยครั้งนี้ของเราซึ่งนับเป็นครั้งแรก เรามีเทคโนโลยีและวิธีการมากมายที่จะช่วยตรวจสอบหาความจริงในเรื่องประสบการณ์ “วิญญาณออกจากร่าง” เพื่อดูว่า เกิดอะไรขึ้น เมื่อเราตายลง มีบางอย่างยังคงดำเนินต่อไปหรือเปล่า นั่นเป็นเรื่องที่น่าค้นหา มิใช่หรือ”
แต่สิ่งที่พุทธศาสนาสอนไว้ก็คือ ทุกคนเกิดมาชดใช้กรรม ไม่เว้นแม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทรงมีโรคปวดหลังเรื้อรังอันเกิดจากกรรมในอดีตชาติ ที่ทำให้พระองค์ทรงทุกข์ทรมาน เรื่องนี้มีเล่าไว้ในพระไตรปิฎก ซึ่ง นพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ ได้นำมาเขียนเล่าไว้ในเรื่อง “โรคจากกรรมเก่า”
เรื่องโรคภัยไข้เจ็บก็เป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงเช่นเดียวกับความตาย แต่อาจจะมากน้อยต่างกัน หลายโรคสามารถป้องกันได้ ด้วยการใช้ชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นยืน เดิน นั่ง นอน การรับประทานอาหาร การออกกำลัง กาย ฯลฯ ดังนั้น วิธีป้องกัน ‘สายตาเสื่อม’ จากโรคเบาหวาน, ออกกำลังกาย ต้านข้อเข่าเสื่อมก่อนวัย, กินอย่างไร จึงปลอดภัยจากโรคเบาหวาน, อาหารต้านมะเร็ง จึงเป็นเรื่องที่ควรศึกษาไว้
ทั้งหมดนี้ มีให้อ่านใน ‘ธรรมลีลา’ ฉบับประจำเดือนมีนาคม 53 นี้แล้ว
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 112 มีนาคม 2553)
