ความเจ้าชู้หลายใจเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาอยู่ในสังคมปัจจุบัน หลายกรณีความเจ้าชู้ของคู่ครอง ทำให้ครอบครัวต้องแตกแยก เกิดปัญหาสังคมต่างๆ ตามมามากมาย กรรมที่แต่ละคนทำจึงไม่เพียงมีผลต่อตนเอง และครอบครัวเท่านั้น แต่ยังมีผลไปถึงสังคมโดยรวมด้วย เหตุนี้เองพระพุทธเจ้าจึงได้พยายามพร่ำสอนให้ทุกคนมีศีล ๕ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตราบใดที่คนในสังคมยังผิดศีลธรรมอยู่นั้น ปัญหาของสังคมย่อมไม่มีวันที่จะหมดไปได้
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เกิดจากความเจ้าชู้หลายใจ จนทำให้เป็นผลร้ายต่อชีวิตและสังคมตามมา เรื่องมีอยู่ว่า
มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งชื่อว่าสมโภชน์ ชีวิตของเขานับว่าเป็นชีวิตที่ดีพอสมควร สมโภชน์จบการศึกษาระดับปริญญาตรี หลังจากนั้นเขาได้สมัครเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ได้รับเงินเดือนมาก ชีวิตของสมโภชน์จึงเป็นอยู่อย่างสบายท่ามกลางเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรือง
ต่อมาสมโภชน์เกิดตกหลุมรักหญิงคนหนึ่ง ทั้งสองดูใจกันอยู่สักพัก จึงได้ตัดสินใจแต่งงานร่วมกันสร้างครอบครัวต่อไป ระยะแรกๆ ทั้งคู่ก็รักใคร่กันดี อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดมา ไม่มีวี่แววเลยว่าคนใดคนหนึ่งจะเจ้าชู้แอบไปมีใจให้กับคนอื่น
หนึ่งปีผ่านไป สมโภชน์และภรรยามีลูกด้วยกันหนึ่งคนเป็นผู้ชาย หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ทั้งสองรักลูกชายคนนี้มาก วางแผนกันไว้ว่า จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกคนนี้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ และจะทำทุกอย่างที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่ชีวิตของคนเรานั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความคิดความฝัน มันขึ้นอยู่กับความจริง หรือการกระทำของแต่ละคนต่างหาก ความฝันของสมโภชน์ที่วาดไว้อย่างสวยงามนั้น กำลังจะพังทลายลงเพราะการกระทำของตนเอง
วันหนึ่งสมโภชน์ได้เจอกับหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่ง ตอนแรกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่ต่อมาเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนนี้จากการทำงานร่วมกัน วันเวลาผ่านไป ทำให้สมโภชน์เริ่มค่อยๆ มีใจออกห่างจากภรรยาของตน หันไปมีใจให้กับผู้หญิงคนใหม่
ถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆ เขาจะไม่ได้คิดอะไรกับผู้หญิงคนนี้ เขายังรักภรรยาและลูกชายของเขามาก จะทำอะไรก็นึกถึงภรรยาและลูกชายอยู่ตลอดเวลา แต่อำนาจของกิเลสที่มีอยู่ในใจนั้น มันทำให้ความรักที่มีต่อภรรยาค่อยๆ จางหายไปเรื่อยๆ มันบังตาไม่ให้เขามองเห็นผลกรรมชั่วที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นานวันเข้าสมโภชน์ก็ไม่นึกถึงภรรยาและลูกอีกเลย กลับรู้สึกว่า ผู้หญิงคนใหม่นี้เป็นคนดีมีน้ำใจ หน้าตาสวย อยู่ใกล้แล้วรู้สึกอบอุ่นมากกว่า เขาจึงแอบหาเวลามาพบกับผู้หญิงคนนี้อยู่เป็นประจำ จนทำให้ภรรยาเกิดความสงสัย ครอบครัวนี้จึงมีรอยร้าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ภรรยาของสมโภชน์คอยติดตามดูพฤติกรรมของสามี ว่าไปมีใจให้กับคนอื่นหรือไม่ กระทั่งได้ทราบความจริงว่า สามีแอบไปมีผู้หญิงคนอื่น ทำให้เธอทั้งโกรธทั้งแค้นสมโภชน์มาก ทั้งสองคนจึงเริ่มมีปากเสียงกันหนักขึ้นทุกวัน ต่อหน้าลูกชายที่ทำตาปริบๆ นั่งมองดูพ่อแม่ทะเลาะกัน ด้วยความหวาดกลัว
ในที่สุดทั้งคู่ก็ตัดสินใจหย่าขาดจากกัน เพราะภรรยาทนรับพฤติกรรมของสามีไม่ไหว ทั้งสองได้แบ่งสมบัติกันคนละครึ่ง ส่วนลูกชายนั้นอยู่กับผู้เป็นแม่ ขณะที่สมโภชน์ แยกไปอยู่กับแฟนใหม่อย่างสุขสบายใจ
สมโภชน์คิดว่าตนเองได้พบผู้หญิงที่ดีที่สุดแล้ว เธอเป็นคนดี มีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบดี เขาจึงไว้ใจผู้หญิงคนนี้มาก หากผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไรเขาก็จะหาให้ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้
ฝ่ายหญิงสาวรู้ว่าสมโภชน์ไว้เนื้อเชื่อใจมาก จึงค่อยๆ หลอกเอาทรัพย์สมบัติของเขาทีละเล็กละน้อย จนในที่สุด สมโภชน์ยอมยกสมบัติทุกอย่างให้กับภรรยาใหม่ เพราะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดแล้ว ชีวิตของเขาที่เหลือก็ขอฝากไว้ให้ผู้หญิงคนนี้ช่วยดูแล แต่กรรมของสมโภชน์ที่เคยก่อไว้นั้น มันช่างเร็วเหมือนจรวดเหลือเกิน
เพราะหลังจากที่ผู้หญิงคนนี้ได้ทรัพย์สมบัติจากสมโภชน์ทั้งหมดแล้ว เธอก็เริ่มออกลายให้เห็น เอาใจออกห่างจากเขา แอบไปมีแฟนใหม่ และกำลังหาทางที่จะเลิกกับเขาให้ได้ เธอจึงควงชายชู้มาให้เห็น เท่านั้นเองสมโภชน์ก็เกิดความโมโหสุดขีด เพราะความที่ตนเองทุ่มเทให้กับผู้หญิงคนนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เธอกลับทำกับเขาอย่างโหดร้าย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับที่สมโภชน์เคยทำไว้กับภรรยาคนแรกของเขาเลย
กรรมที่สมโภชน์เคยก่อไว้ เริ่มแสดงออกมาให้เห็นแล้ว เขาถูกภรรยาใหม่ทิ้ง พร้อมกับหลอกเอาทรัพย์สมบัติไปจนหมดสิ้น ชายหนุ่มไม่เหลืออะไรเลย ชีวิตที่เคยสุขสบายจึงตกต่ำลงมาทันที ความเป็นอยู่ก็ย่ำแย่ ครั้นจะกลับไปหาภรรยาเก่า เธอก็ไม่ยอมคืนดีด้วย เพราะเจ็บช้ำใจกับสิ่งทีี่เขาเคยทำไว้กับเธอ
สมโภชน์จึงกลายเป็นคนล้มเหลวในชีวิต ครอบครัวที่เคยวาดฝันไว้ว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า นั่นก็เพราะความมักง่ายใจเร็วของตัวนั่นเอง หากเขารู้จักหักห้ามใจ ไม่ให้ไหลไปตามอำนาจของกิเลส ชีวิตของเขาก็คงไม่เป็นเช่นนี้
การกระทำของสมโภชน์ไม่ได้มีผลเฉพาะกับตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปที่ลูกชายด้วย เพราะช่วงที่เขาเลิกร้างกับภรรยาคนแรกนั้น เธอต้องเลี้ยงดูลูกอย่างลำบาก เพราะฐานะของเธอไม่ค่อยจะสู้ดีนัก และเธอก็มักทำตัวเสเพลอยู่บ่อยๆ เพื่อประชดชีวิต ทำให้ลูกชาย มีปัญหา ทะเลาะกับแม่อยู่เป็นประจำ จนเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่น ในที่สุดก็กลายเป็นเด็กเกเร และไปสร้างปัญหาให้กับสังคมส่วนรวม
นี่คือผลจากความชั่วของสมโภชน์ เขาไม่เพียงได้รับผลของกรรมชั่วในชาตินี้เท่านั้น ในชาติหน้าเขาจะต้องตกนรกหมกไหม้อีกด้วย!!
กิเลสตัณหาที่มีอยู่ในใจนั้น หากเราไม่รีบทำลายมันให้หมดสิ้นไป หรือไม่ทำให้มันอ่อนอำนาจลง สักวันมันจะเล่นงานเราอยู่นั่นเอง เหมือนกับสมโภชน์ที่ถูกกิเลสเล่นงานจนชีวิตต้องหมดสิ้นทั้งทรัพย์สินเงินทองและครอบครัวที่เขารัก
หากเราไม่อยากเป็นเช่นเดียวกับเขา ก็จงพยายามทำ ความดี หาทางกำจัดกิเลสที่มีอยู่ในจิตใจให้หมดสิ้นไป อย่าให้มันมีอำนาจมาชักจูงจิตใจของเราได้ หากปล่อยให้มันมีอำนาจเหนือเราเมื่อใด เมื่อนั้นมันย่อมนำหายนะมาสู่ตัวเรา วิธีการประคองให้จิตใจอยู่เหนืออำนาจกิเลสที่ทำได้ง่ายที่สุด คือ รักษาศีล ๕ อยู่เสมอ หากเรายึดมั่นในศีล ไม่ล่วงละเมิดศีล ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม กิเลสก็จะทำอะไรเราไม่ได้ ชีวิตของเราก็จะพบแต่ความสุขความเจริญ ไม่ว่าในชาตินี้หรือชาติไหนก็ตาม
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 111 กุมภาพันธ์ 2553 โดย มาลาวชิโร)
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เกิดจากความเจ้าชู้หลายใจ จนทำให้เป็นผลร้ายต่อชีวิตและสังคมตามมา เรื่องมีอยู่ว่า
มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งชื่อว่าสมโภชน์ ชีวิตของเขานับว่าเป็นชีวิตที่ดีพอสมควร สมโภชน์จบการศึกษาระดับปริญญาตรี หลังจากนั้นเขาได้สมัครเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ได้รับเงินเดือนมาก ชีวิตของสมโภชน์จึงเป็นอยู่อย่างสบายท่ามกลางเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรือง
ต่อมาสมโภชน์เกิดตกหลุมรักหญิงคนหนึ่ง ทั้งสองดูใจกันอยู่สักพัก จึงได้ตัดสินใจแต่งงานร่วมกันสร้างครอบครัวต่อไป ระยะแรกๆ ทั้งคู่ก็รักใคร่กันดี อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดมา ไม่มีวี่แววเลยว่าคนใดคนหนึ่งจะเจ้าชู้แอบไปมีใจให้กับคนอื่น
หนึ่งปีผ่านไป สมโภชน์และภรรยามีลูกด้วยกันหนึ่งคนเป็นผู้ชาย หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ทั้งสองรักลูกชายคนนี้มาก วางแผนกันไว้ว่า จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกคนนี้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ และจะทำทุกอย่างที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่ชีวิตของคนเรานั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความคิดความฝัน มันขึ้นอยู่กับความจริง หรือการกระทำของแต่ละคนต่างหาก ความฝันของสมโภชน์ที่วาดไว้อย่างสวยงามนั้น กำลังจะพังทลายลงเพราะการกระทำของตนเอง
วันหนึ่งสมโภชน์ได้เจอกับหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่ง ตอนแรกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่ต่อมาเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนนี้จากการทำงานร่วมกัน วันเวลาผ่านไป ทำให้สมโภชน์เริ่มค่อยๆ มีใจออกห่างจากภรรยาของตน หันไปมีใจให้กับผู้หญิงคนใหม่
ถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆ เขาจะไม่ได้คิดอะไรกับผู้หญิงคนนี้ เขายังรักภรรยาและลูกชายของเขามาก จะทำอะไรก็นึกถึงภรรยาและลูกชายอยู่ตลอดเวลา แต่อำนาจของกิเลสที่มีอยู่ในใจนั้น มันทำให้ความรักที่มีต่อภรรยาค่อยๆ จางหายไปเรื่อยๆ มันบังตาไม่ให้เขามองเห็นผลกรรมชั่วที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นานวันเข้าสมโภชน์ก็ไม่นึกถึงภรรยาและลูกอีกเลย กลับรู้สึกว่า ผู้หญิงคนใหม่นี้เป็นคนดีมีน้ำใจ หน้าตาสวย อยู่ใกล้แล้วรู้สึกอบอุ่นมากกว่า เขาจึงแอบหาเวลามาพบกับผู้หญิงคนนี้อยู่เป็นประจำ จนทำให้ภรรยาเกิดความสงสัย ครอบครัวนี้จึงมีรอยร้าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ภรรยาของสมโภชน์คอยติดตามดูพฤติกรรมของสามี ว่าไปมีใจให้กับคนอื่นหรือไม่ กระทั่งได้ทราบความจริงว่า สามีแอบไปมีผู้หญิงคนอื่น ทำให้เธอทั้งโกรธทั้งแค้นสมโภชน์มาก ทั้งสองคนจึงเริ่มมีปากเสียงกันหนักขึ้นทุกวัน ต่อหน้าลูกชายที่ทำตาปริบๆ นั่งมองดูพ่อแม่ทะเลาะกัน ด้วยความหวาดกลัว
ในที่สุดทั้งคู่ก็ตัดสินใจหย่าขาดจากกัน เพราะภรรยาทนรับพฤติกรรมของสามีไม่ไหว ทั้งสองได้แบ่งสมบัติกันคนละครึ่ง ส่วนลูกชายนั้นอยู่กับผู้เป็นแม่ ขณะที่สมโภชน์ แยกไปอยู่กับแฟนใหม่อย่างสุขสบายใจ
สมโภชน์คิดว่าตนเองได้พบผู้หญิงที่ดีที่สุดแล้ว เธอเป็นคนดี มีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบดี เขาจึงไว้ใจผู้หญิงคนนี้มาก หากผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไรเขาก็จะหาให้ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้
ฝ่ายหญิงสาวรู้ว่าสมโภชน์ไว้เนื้อเชื่อใจมาก จึงค่อยๆ หลอกเอาทรัพย์สมบัติของเขาทีละเล็กละน้อย จนในที่สุด สมโภชน์ยอมยกสมบัติทุกอย่างให้กับภรรยาใหม่ เพราะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดแล้ว ชีวิตของเขาที่เหลือก็ขอฝากไว้ให้ผู้หญิงคนนี้ช่วยดูแล แต่กรรมของสมโภชน์ที่เคยก่อไว้นั้น มันช่างเร็วเหมือนจรวดเหลือเกิน
เพราะหลังจากที่ผู้หญิงคนนี้ได้ทรัพย์สมบัติจากสมโภชน์ทั้งหมดแล้ว เธอก็เริ่มออกลายให้เห็น เอาใจออกห่างจากเขา แอบไปมีแฟนใหม่ และกำลังหาทางที่จะเลิกกับเขาให้ได้ เธอจึงควงชายชู้มาให้เห็น เท่านั้นเองสมโภชน์ก็เกิดความโมโหสุดขีด เพราะความที่ตนเองทุ่มเทให้กับผู้หญิงคนนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เธอกลับทำกับเขาอย่างโหดร้าย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับที่สมโภชน์เคยทำไว้กับภรรยาคนแรกของเขาเลย
กรรมที่สมโภชน์เคยก่อไว้ เริ่มแสดงออกมาให้เห็นแล้ว เขาถูกภรรยาใหม่ทิ้ง พร้อมกับหลอกเอาทรัพย์สมบัติไปจนหมดสิ้น ชายหนุ่มไม่เหลืออะไรเลย ชีวิตที่เคยสุขสบายจึงตกต่ำลงมาทันที ความเป็นอยู่ก็ย่ำแย่ ครั้นจะกลับไปหาภรรยาเก่า เธอก็ไม่ยอมคืนดีด้วย เพราะเจ็บช้ำใจกับสิ่งทีี่เขาเคยทำไว้กับเธอ
สมโภชน์จึงกลายเป็นคนล้มเหลวในชีวิต ครอบครัวที่เคยวาดฝันไว้ว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า นั่นก็เพราะความมักง่ายใจเร็วของตัวนั่นเอง หากเขารู้จักหักห้ามใจ ไม่ให้ไหลไปตามอำนาจของกิเลส ชีวิตของเขาก็คงไม่เป็นเช่นนี้
การกระทำของสมโภชน์ไม่ได้มีผลเฉพาะกับตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปที่ลูกชายด้วย เพราะช่วงที่เขาเลิกร้างกับภรรยาคนแรกนั้น เธอต้องเลี้ยงดูลูกอย่างลำบาก เพราะฐานะของเธอไม่ค่อยจะสู้ดีนัก และเธอก็มักทำตัวเสเพลอยู่บ่อยๆ เพื่อประชดชีวิต ทำให้ลูกชาย มีปัญหา ทะเลาะกับแม่อยู่เป็นประจำ จนเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่น ในที่สุดก็กลายเป็นเด็กเกเร และไปสร้างปัญหาให้กับสังคมส่วนรวม
นี่คือผลจากความชั่วของสมโภชน์ เขาไม่เพียงได้รับผลของกรรมชั่วในชาตินี้เท่านั้น ในชาติหน้าเขาจะต้องตกนรกหมกไหม้อีกด้วย!!
กิเลสตัณหาที่มีอยู่ในใจนั้น หากเราไม่รีบทำลายมันให้หมดสิ้นไป หรือไม่ทำให้มันอ่อนอำนาจลง สักวันมันจะเล่นงานเราอยู่นั่นเอง เหมือนกับสมโภชน์ที่ถูกกิเลสเล่นงานจนชีวิตต้องหมดสิ้นทั้งทรัพย์สินเงินทองและครอบครัวที่เขารัก
หากเราไม่อยากเป็นเช่นเดียวกับเขา ก็จงพยายามทำ ความดี หาทางกำจัดกิเลสที่มีอยู่ในจิตใจให้หมดสิ้นไป อย่าให้มันมีอำนาจมาชักจูงจิตใจของเราได้ หากปล่อยให้มันมีอำนาจเหนือเราเมื่อใด เมื่อนั้นมันย่อมนำหายนะมาสู่ตัวเรา วิธีการประคองให้จิตใจอยู่เหนืออำนาจกิเลสที่ทำได้ง่ายที่สุด คือ รักษาศีล ๕ อยู่เสมอ หากเรายึดมั่นในศีล ไม่ล่วงละเมิดศีล ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม กิเลสก็จะทำอะไรเราไม่ได้ ชีวิตของเราก็จะพบแต่ความสุขความเจริญ ไม่ว่าในชาตินี้หรือชาติไหนก็ตาม
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 111 กุมภาพันธ์ 2553 โดย มาลาวชิโร)