xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมะกับสุขภาพ : เหตุใดจึงอายุยืน คนอายุยืน (ตอนที่ 1)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คนในยุคปัจจุบันนี้จะเป็นโรคต่างๆกันมาก ไม่ว่าจะเป็นโรค เบาหวาน โรคความดัน โรคหัวใจ โรคเครียด โรคมะเร็ง โรคข้อเสื่อม โรคความจำเสื่อม ซึ่งเป็นโรคยอดฮิตที่พบกันเป็นประจำ อันเป็นสาเหตุให้คนเราอายุไม่ยืน

คนปัจจุบันอายุเฉลี่ย ผู้ชาย ประมาณ 70 ปี ส่วนผู้หญิงจะอายุยืนกว่าเล็กน้อย และในคนที่มีโรคประจำตัวอายุก็จะสั้นกว่านี้ บางคนอายุ 50 เศษๆ ก็เสียชีวิตแล้ว ซึ่งพบได้บ่อยขึ้น ในทางการแพทย์เราเชื่อว่า คนควรจะมีอายุยืนกว่านี้ ดังนั้น ปัจจุบันจึงมีวิชาการแพทย์สมัยใหม่ ที่เรียกว่า การแพทย์เพื่อชะลอความชรา หรือ Anti-Aging Medicine ซึ่งจะใช้การให้วิตามิน เกลือแร่ อาหาร เสริมฮอร์โมน สารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ เพื่อทดแทนในยามที่เริ่มมีอายุมากขึ้น เพื่อยืดอายุให้ยาวขึ้นและแก่ช้าลง แต่ข้อเสียของวิธีการนี้ก็คือ ค่ายาแพงมาก และบางครั้งอาจจะเกิดอาการข้างเคียงได้

ผู้เขียนคิดว่าในทางพุทธศาสนา ท่านก็มีคำสอนสำหรับให้เรามีอายุยืน ได้ ซึ่งอาศัยการดูแลสุขภาพตามธรรมชาติ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร ซึ่งเราสามารถจะหาความรู้ได้ในพระไตรปิฎกของพุทธศาสนาเถรวาท

ถ้าเราสังเกตให้ดีจะพบว่า ในครั้งพุทธกาล อุบาสก อุบาสิกา และพระภิกษุทั้งหลายก็มีอายุยืนกันมาก เช่น นางวิสาขามหาอุบาสิกา อายุ 120 ปี พระอานนท์ พระมหากัสสปะ อายุ 120 ปี พระอนุรุทธะ อายุ 150 ปี พระพักกุลเถระอายู 160 ปี ซึ่งนับว่าเป็นผู้ที่มีอายุยืนที่สุดในสมัยนั้น พระพุทธเจ้า ทรงยกย่องท่านว่า ให้เป็นเอตทัคคะในทางเป็นผู้มีอาพาธน้อย ในชีวิตของท่านไม่เคยป่วย และไม่เคยฉันยาแม้แต่เม็ดเดียว

พระพักกุละ บวชเมื่ออายุ 80 ปี คือบวชตอน แก่ และมีอายุต่อมาอีก 80 ปี ซึ่งเป็นคนอายุยืนมากนะครับ น่าอัศจรรย์มาก และตลอดระยะเวลาที่ท่านบวชอยู่ยังมีสิ่งที่น่าอัศจรรย์อีกมาก คือ ท่านไม่เคยมีความคิดในทางกาม ไม่เคยคิดพยาบาท ไม่เคยคิดเบียดเบียน ไม่เคยยินดีกับจีวรที่ชาวบ้านนำมาถวาย ไม่เคยทำจีวรกับภิกษุด้วยกัน ไม่ยินดีในการรับนิมนต์ ไม่เคยนั่งและฉันอาหารในละแวกบ้าน ไม่เคยมองสตรีในรายละเอียดในส่วนต่างๆของร่างกายจนเกิดความรักใคร่พอใจ ไม่เคยแสดงธรรมให้ภิกษุณี สามเณรี สิกขมานา ฟังเกินคาถา 4 บาท ไม่เคยบวชให้ใคร ไม่เคยมีสามเณรรับใช้ ไม่เคยสรงน้ำในเรือนไฟ ไม่เคยให้ภิกษุด้วยกันนวดเฟ้น ไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่เคยฉันยาแม้เท่าชิ้นสมอ ไม่เคยนั่งพิงพนัก ไม่เคยเอนหลังลงนอน ไม่เคยจำพรรษาในวัดใกล้บ้าน เคยแต่อยู่ในป่า ท่านบวชเข้ามาแล้ว ฉันอาหารชาวบ้านได้ 7 วัน วันที่ 8 ก็บรรลุอรหัตผล ท่านก็ไม่เป็นหนี้ชาวบ้านอีกต่อไป และในวาระสุดท้ายของชีวิต ท่านนั่งปรินิพพานในท่ามกลางหมู่สงฆ์ อันนี้ต้องเรียกว่า ยอดเยี่ยมไร้เทียมทานจริงๆ

ท่านผู้อ่านอาจจะเอาอย่างปฏิปทาของท่านบ้างก็ได้นะครับ เวลาทำบุญกุศลใดก็ให้อธิษฐานว่า ในชาติหน้าใดๆ ขอให้ได้เกิดเป็นมนุษย์และมีวิถีชีวิตแบบท่านพักกุละเถระ แล้วก็สะสมความดีเอาไว้เสมอๆ จนบารมีเต็มเปี่ยม ก็จะได้สมดังปรารถนาครับ

ถ้ามาดูในยุคปัจจุบัน เราจะพบว่ากลุ่มคนที่มีอายุยืนในเมืองไทย ที่พบมากคือ พระภิกษุสายวัดป่าทางอีสาน พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านจะมีอายุยืนมาก ยกตัวอย่างเช่น หลวงปู่แหวน อายุ 98 ปี หลวงปู่เหรียญ อายุ 95 ปี หลวงปู่ดูลย์ อายุ 95 ปี หลวงตามหาบัว อายุ 96 ปีแล้ว สม-เด็จพระสังฆราช พระชนมายุ 96 ปีเช่นกัน จะเห็นว่าผู้ที่ปฏิบัติธรรมทำสมาธิภาวนาเป็นประจำจะมีอายุยืน

คนเราจะมีอายุยืนหรือไม่ ในทางการแพทย์พบว่า เกิดจากปัจจัยต่างๆ ตั้งแต่กรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต อาหารการกิน การอยู่การใช้ ยา การดูแลสุขภาพ และโรคภัย อุบัติเหตุต่างๆ

ในทางพุทธศาสนา พระพุทธองค์ ตรัสว่า
“มนุษย์มีอายุสั้นลงเพราะปัจจัยคือ โรคภัยไข้เจ็บ สิ่งแวดล้อม เป็นพิษ อุบัติเหตุ รวมไปถึงการกระทำทุจริต เดิมนั้นมนุษย์มีคุณธรรมสูง ต่อมาประพฤติอกุศลธรรม เช่น ลักขโมย ทำร้ายร่างกาย พูดเท็จ หลอกลวง กล่าวคำหยาบ กล่าวคำไร้สาระ ประพฤติผิดต่อผู้ใหญ่ มนุษย์ได้ทำทุจริต ทำให้อายุสั้นจาก 100 ปี ลดลงเหลือ 10 ปี”
(จักกวัตติสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค)

ท่านผู้อ่านจะเห็นว่า ทัศนะของพุทธศาสนาให้ความสำคัญในเรื่องของความประพฤติทางกาย วาจา ใจ หรือกรรมที่เราทำอยู่ทุกวันนั่นเอง จะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำ ให้อายุของเราสั้นหรือยาว ซึ่งเราจะคุยกันต่อในฉบับหน้านะครับ

(อ่านต่อฉบับหน้า)

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 111 กุมภาพันธ์ 2553 โดยนพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)
กำลังโหลดความคิดเห็น