สถาาบันเวชศาสตร์ชะลัยสหรัฐฯ จัดประชุมวิชาการนานาชาติด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยเป็นครั้งแรกในไทย 12-14 พ.ย.นี้ เปิดเวทีให้แพทย์แรกเปลี่ยนความรู้ด้านการชะลอวัย ไม่ต้องบินไปไกลถึงต่างประเทศ
สถาบันเวชศาสตร์ชะลอวัยอเมริกันหรือเอโฟร์เอ็ม (American Academy of Anti-Aging Medicine: A4M) ประกาศจัดงานประชุมสัมมนาวิชาการทางด้านเวซศาสตร์ชะลอวัยและการฟื้นฟูสุขภาพ ระดับนานาชาติ ครั้งที่ 1 (1st International Bangkok Congress on Anti-Aging and Regenerative Medicine) หรือบีคาร์ม 2009 (BCAARM 2009) ระหว่างวันที่ 12-14 พ.ย.52 ณ โรงแรมมิลเลเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ
นายนิวัฒน์ กิตติชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอโฟร์เอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า การประชุมสัมนานี้เป็นเวทีสำหรับแพทย์ที่ต้องการเสริมความรู้ทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและการฟื้นฟูสุขภาพ ซึ่งปกติต้องเดินทางไปเก็บชั้วโมงที่ต่างประเทศเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเฉพาะทาง และมีค่าใช้จ่ายมากถึง 2-3 ล้านบาท แต่การจัดงานนี้ขึ้นในเมืองไทยทำให้แพทย์ไทยไม่ต้องเดินทางไกล
ทั้งนี้การประชุมสัมมนาวิชาการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยฯ นี้ จัดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ เซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน, ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตต์, ลาส เวกัส สหรัฐฯ ซึ่งนายนิวัฒน์กล่าวว่า เคยเข้าร่วมงานประชุมเวชศาสตร์ชะลอวัยนี้ที่ลาสเวกัส แล้วเกิดความประทับใจ จึงอยากให้มีการประชุมเช่นเดียวกันนั้นในเมืองไทย
ด้านโรเบิร์ต โกล์ดแมน (Robert Goldman) ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งสถาบันเอโฟร์เอ็มกล่าวว่า สถาบันเป็นสมาคมการแพทย์ที่ไม่หวังผลกำไร ที่มาร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีในการตรวจ ป้องกันและบำบัดเพื่อการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ เมื่อแรกก่อตั้งสถาบัน 12 ปีที่ผ่านมา มีแพทย์ร่วมทำงานในสถาบันเพียง 12 คน แต่ปัจจุบันมีแพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูมากกว่า 100,000 คน
เมื่อกล่าวถึงเวชศาสตร์ชะลอวัยนั้น หลายคนอาจนึกถึงเพียงความสวยงามและการดูแลผิวพรรณ แต่ ศ.นพ.ดร.ธัมม์ทิวัตถ์ นรารัตน์วันชัย ประธานบริษัท เอโฟร์เอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด และหัวหน้าสำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่าเวชศาสตร์ชะลอวัยเป็นศาสตร์ที่ทำให้คนเราอายุยืนและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่เพียงไม่ชราแต่ยังต้องแข็งแรงไม่ทุพลภาพ รักษาจากภายในให้หัวใจแข็งแรง สมองดี และร่างกายแข็งแรง
สำหรับหัวข้อที่จะเป็นไฮไลท์ในการประชุมกลางเดือน พ.ย.นี้ ศ.นพ.ธัมม์ทิวัถ์กล่าวว่า เป็นเรื่องสเต็มเซลล์เพื่อรักษาโรค ที่หลายประเทศเปิดเสรีให้ทำวิจัย แต่เรื่องนี้ยังเป็นสิ่งต้องห้ามในเมืองไทย โดยจุดเด่นของงานคือการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยจากทั่วโลก 40 คนมาร่วมงานเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ภายในการประชุม
