รัฐคุชราตพัฒนาพุทธสถาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวแสวงบุญ
• อินเดีย : เจนารายัน วีอัส รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและสาธารณสุขรัฐคุชราต เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลรัฐคุชราต ได้พัฒนาสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นมรดกทางพุทธศาสนาหลายแห่งในรัฐเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวภายในประเทศและต่างชาติ และหนึ่งในนั้นคือ พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ภายในแผนกโบราณคดีและประวัติศาสตร์โบราณของมหาวิทยาลัยมหาราชา ศยาจิเรา แห่งเมืองบาโรธา ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
“ผอบดังกล่าว ถูกขุดขึ้นมาจากสถูปแห่งหนึ่งในเมืองเทวนิโมริ ใกล้วัดชัมลาจิ ทางตอนเหนือของรัฐคุชราต โดย อาร์ เอ็น เมห์ธา และ เอส เค เชาดารี ศาสตราจารย์สองท่านจากแผนกประวัติศาสตร์โบราณของมหาวิทยาลัย ในปี 1963”
โดยทางการคาดว่าจะมีบรรดานักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญจากจีน ญี่ปุ่น ไทย ศรีลังกา ภูฏาน และที่อื่นๆ มาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก
(จากPTI)
พบพระพุทธรูปหินแกะสลักอายุ 1,400 ปี ที่ลาดัคห์
• อินเดีย : เมื่อเร็วๆนี้ กองโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์แห่งรัฐชัมมูและแคชเมียร์ ของอินเดีย ได้ค้นพบพระพุทธรูปหินแกะสลักเก่าแก่อายุ 1,400 ปี ที่บริเวณแซนสการ์ ในเขตลาดัคห์ ซึ่งมีลักษณะเดียวกับพระพุทธรูปแห่งเมืองบามิยันของอัฟกานิสถาน ซึ่งถูกทำลายโดยกลุ่มตาลีบัน
การค้นพบครั้งนี้ สร้างความยินดีให้บรรดานักโบราณคดี ซึ่งเชื่อว่า บริเวณดังกล่าวจะกลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากญี่ปุ่นและไต้หวัน
อนึ่ง แซนสการ์ เป็นดินแดนพุทธศาสนา อยู่ในแขวงคาร์จิล ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองศรีนาการ์ไปทางตอนเหนือ 220 กม.
(จาก IANS)
ริชาร์ด เกียร์ พระเอกดังฮอลลีวู้ด รณรงค์ให้พุทธคยาเป็นเขตมังสวิรัติ
• อินเดีย : ริชาร์ด เกียร์ ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดัง ซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชน ได้เดินทางไปร่วมฟังการปาฐกถาทางพุทธศาสนาโดยองค์ทะไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณแห่งทิเบต ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4-8 มกราคมที่ผ่านมา ณ เมืองพุทธคยา โดยเขาได้สนับสนุนข้อเรียกร้องให้พุทธคยา ซึ่งเป็นสถานที่ที่ องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ เป็นเขตมังสวิรัติ
“ผมสนับสนุนเต็มที่ให้พุทธคยาเป็นเขตมังสวิรัติิ” เกียร์กล่าว และยังร้องขอให้ชาวเมืองพุทธคยา รวมถึงนักท่องเที่ยวหันมาปฏิบัติตามด้วย โดยพระเอกคนดังได้เข้ากราบสักการะและสวดมนต์ภาวนาที่วัดศรีมหาโพธิ และเปิดเผยว่ามีความสุขที่ได้ มาอยู่ที่พุทธคยาและอยากจะกลับมาอีกบ่อยๆ เกียร์ถือเป็น หนึ่งในสานุศิษย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดขององค์ทะไล ลามะ เขามาที่ธรรมศาลา ในรัฐหิมาจัลประเทศของอินเดีย อันเป็นที่ตั้งของรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบต เป็นประจำ
เกียร์พร้อมด้วยพระภิกษุ แม่ชี และผู้มีจิตศรัทธาหลายร้อยคน ร่วมกันจุดเทียน เดินธรรมยาตราวิงวอนให้ผู้คนหันมาปฏิบัติตามวิถีมังสวิรัติ โดยสมาคมมังสวิรัติแห่งทิเบต ที่เป็นผู้จัด ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหากำไร ได้บอกว่า การสนับสนุนดังกล่าวของเกียร์ จะช่วยให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติตื่นตัวและเข้าร่วมรณรงค์ เพื่อให้พุทธคยาเป็นเขตมังสวิรัติ ซึ่งทางสมาคมฯได้ยื่นเรื่องต่อนายนิทิช กุมาร นายกรัฐมนตรีรัฐพิหารไปแล้ว และทางสมาคมฯได้รณรงค์ในเรื่อง นี้มาตั้งแต่ปี 2006 วิงวอนให้ประชาชน ละเว้นการซื้อ ขาย หรือบริโภคเนื้อสัตว์ทุก รูปแบบในช่วงจาริกแสงบุญบนดินแดน ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
เทนซิน คุงกา ลูดิง ผู้ก่อตั้งสมาคมฯ กล่าวว่า “เนื่องจากพุทธคยาเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ การทำให้เป็นเขตมังสวิรัติ น่าจะสอดคล้องกับคำสอนอันเคร่งครัดของพระพุทธองค์”
(จาก Newkerala)
องค์ทะไล ลามะ เตรียมเปิดสอนวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ให้พระ
• อินเดีย : เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา องค์ทะไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณ แห่งทิเบต กล่าวในงานสัมนาประจำปีของสมาคมระบบประสาทวิทยาแห่งอินเดีย ณ สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์สัญชัย คานธี ว่า ในเร็วๆนี้ จะเริ่ม เปิดสอนวิชาวิทยาศาสตร์สมัยใหม่แก่บรรดาพระสงฆ์ โดยบรรจุอยู่ในหลักสูตร การเรียนการสอนของวัดพุทธทั่วโลก
“เราได้เริ่มส่งนักศึกษาที่ได้รับคัดเลือก ไปศึกษาวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองแอตแลนต้า สหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 5 ปี”
ปัจจุบัน ที่ธรรมศาลาในอินเดียได้เปิดสอนวิชาวิทยาศาสตร์ภาวจิตและการใช้เหตุผล โดยองค์ทะไล ลามะได้กล่าวย้ำถึงพลังของการทำสมาธิ ซึ่งจำต้องได้รับการวิจัยอย่างเป็นระบบมากขึ้น
“เมื่อเร็วๆนี้ นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ เข้ามาช่วยเราทำการวิจัยคนกลุ่มหนึ่งและพบว่า หลังจาก 3 สัปดาห์ที่พวกเขา นั่งสมาธิ ช่วยทำให้ความดันโลหิตลดลง จิตใจสงบ ทำให้ความคิดกระจ่างขึ้น และความเครียดลดลง ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างในสมองของมนุษย์ที่ยังต้องสำรวจ เราต้องทำสมาธิเพื่อให้เกิดการเปลี่ยน แปลง”
ผู้นำจิตวิญญาณบอกว่า วิทยาศาสตร์จะต้องช่วยนำไปสู่ความเห็นอกเห็นใจ ความรักและความเชื่อมั่น เพราะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพที่สมบูรณ์ทั้งกาย ใจ ครอบครัว และชุมชน
“การศึกษาสมัยใหม่มุ่งเน้นไปที่สมองเท่านั้น ไม่ให้ความสำคัญเรื่องใจ ควรจะมีมาตรการช่วยส่งเสริมด้านศีลธรรมด้วย ก่อนหน้านี้ คนมองว่าเรื่องจิตวิญญาณไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ แต่ปัจจุบัน เราเริ่มตระหนักว่า สภาวะทางจิตเป็นเรื่องสำคัญมาก” องค์ทะไล ลามะ กล่าว โดยเสริมว่านักวิทยาศาสตร์ บางคนระบุว่า คนที่อารมณ์เสีย จะทำให้ ภูมิคุ้มกันร่างกายลดลง
องค์ทะไล ลามะ ยังเสริมว่า ควรมีการศึกษาวิจัยระดับการมีสติ “เคยเห็นหลายครั้งที่ทางการแพทย์ระบุว่า บุคคลเสียชีวิตแล้ว แต่ร่างกายยังไม่เน่าเปื่อยเป็นเวลาหลายวัน อีกตัวอย่างหนึ่ง พระภิกษุรูปหนึ่ง สมองตาย แต่กลับฟื้นขึ้นมาใหม่ในอีก 10 วันต่อมา จึงเห็นควรให้มีการศึกษาวิจัยเพิ่มมากขึ้น เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าว โดยตั้งอยู่บนหลักเหตุผลและการทดลอง เพราะแม้แต่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงสอนบรรดาสาวก อย่าได้เชื่อคำสอน ของพระองค์ จนกว่าจะได้ตรวจสอบและลองทำดูเสียก่อน”
(จาก Express News Service)
อุบาสิกาทั่วโลกชูแถลงการณ์ 15 ข้อ ร่วมมือกันช่วยยูเอ็นในการพัฒนา
• เวียดนาม : การประชุมศากยธิดาสากล ครั้งที่ 11 ณ โฮจิมินห์ ซิตี้ ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2009 ถึง 3 มกราคม 2010 ได้ปิดฉากลงอย่างงดงาม โดยแม่ชี กัมมะ เลคชี โซโม ประธานสมาคมศากยธิดาสากล ได้กล่าวว่า เวียดนามได้ให้การสนับสนุนธรรมะแก่บรรดาอุบาสิกาทั่วโลกเสมอมา
ตลอดการประชุม 7 วัน มีการพูดถึงบทบาทของอุบาสิกา โดยตัวแทนจากทั่วโลกและจากเวียดนามได้นำเสนอรายงาน 57 เรื่อง ที่มุ่งศึกษาเรื่องสถานภาพ ผลกระทบ และการช่วยเหลือของบรรดาอุบาสิกาทั่วโลกที่มีต่อกิจกรรมสังคม โดยเฉพาะทางด้านการศึกษาและวัฒนธรรม
ในแถลงการณ์ร่วม 15 ข้อ เหล่าอุบาสิกาเวียดนามและต่างชาติกว่า 2,000 คน ระบุว่า พวกเธอจะพยายามดำเนินการเพื่อให้เป้าหมายการพัฒนาของยูเอ็น ในเรื่องการลดความยากจน พัฒนาด้านการศึกษา ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิสตรี การป้องกันโรคเอดส์ การปกป้องสภาพแวดล้อม และการร่วมมือกันทั่วโลกเพื่อการพัฒนา สำเร็จลุล่วงภายในปี 2015
ทั้งนี้ ยังได้เรียกร้องให้อุบาสิกาทั่วโลก ช่วยส่งเสริมสันติภาพและความสามัคคี เพื่อให้เกิดความยุติธรรม เป็นประชาธิปไตย โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของ การเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่นของแต่ละประเทศ และวอนให้ประชาคมโลกช่วยเหลือเหยื่อฝนเหลืองในสงครามเวียดนามอีกด้วย
สำหรับการประชุมอุบาสิกาโลก ครั้งที่ 12 จะจัดให้มีขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์
(จากVietNamNet)
สารานุกรมชาวพุทธ ภาษาอังกฤษฉบับแรกของโลกทำมา 55 ปี ใกล้แล้วเสร็จ
• ศรีลังกา : ดร.ดับบลิว.จี.วีรารัตเน หัวหน้ากองบรรณาธิการ ผู้จัดทำสารานุกรมสำหรับพุทธศาสนิกชนเป็นภาษาอังกฤษ ฉบับแรกของโลก เปิดเผยเมื่อเร็วๆนี้ ว่า ขณะนี้สารานุกรมดังกล่าวใกล้จะแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ โครงการจัดทำสารานุกรมฉบับนี้ เริ่มดำเนินการโดยรัฐบาลศรีลังกาในปี 1955 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 2500 แห่งวันประสูติขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ภายใต้การควบคุมดูแลของ ศาสตราจารย์อีเมอริทัส จี. พี. มาลาลาเซเกรา หัวหน้ากองบรรณาธิการรุ่นแรก คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2010
เนื้อหาภายในครอบคลุมเรื่องพุทธศาสนาในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า วัฒนธรรมและวรรณกรรม กิจกรรมของพุทธศาสนาทั้งฝ่ายเถรวาทและมหายาน โดยจะจัดพิมพ์เป็น 8 เล่ม แต่ละเล่มหนาราว 900 หน้าพร้อมสารบัญ
(จาก Daily News Sri Lanka)
รัฐบาลทหารพม่าสั่งห้าม โฆษณาการแสดงธรรม
• พม่า : เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการสังฆะ มหานายกะ ซึ่งเป็นองค์กรสงฆ์ที่รัฐให้การสนับสนุน ออกประกาศว่า รัฐบาลทหาร ได้ประกาศห้าม ติดป้ายโฆษณาการแสดงธรรมในเมืองมัณฑะเลย์
ทั้งนี้ การแสดงธรรมและสนทนาธรรม ถือเป็นประเพณีสืบทอดกันมายาว นานในพม่า โดยป้ายโฆษณาจะติดรูป พระสงฆ์ผู้แสดงธรรม
พระรูปหนึ่งบอกว่า “อาตมาคิดว่า รัฐบาลทหารต้องการให้ประชาชนเลิกฟังธรรม ซึ่งทำให้ชาวบ้านไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง”
นอกจากนี้ ทางการยังได้สั่งห้ามพระสงฆ์บางรูป เช่น ชเว นยา วาร์ สยาดอว์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงฆ์ ชเว นยา วาร์ ในนครย่างกุ้ง มิให้เข้าร่วม การสนทนาธรรม เนื่องจากท่านได้พูดถึงนางอองซานซูจี และสาระสำคัญของการมีอิสรภาพ
ออง เท็ต ลิน ผู้จัดรายการสนทนาธรรม บอกว่า “เราต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่รัฐและคณะกรรมการสังฆะ มหานายกะ ทราบล่วงหน้า โดยส่งชื่อพระสงฆ์ หัวข้อธรรมที่จะแสดง รวมทั้งเวลาและสถานที่ที่ใช้จัด ซึ่งพื้นที่ก็มีให้จำกัด เพราะทาง รัฐต้องการลดจำนวนคนที่มาฟังลง”
โดยก่อนหน้านี้ กองงานศาสนาก็ได้งดออกหนังสือรับรองให้พระสงฆ์ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ
พระอาชิน อิสสริยะ ผู้ก่อตั้งสมาพันธ์ สงฆ์พม่า กล่าวว่า “เป็นที่แน่ชัดว่า รัฐบาลทหารกำลังท้าทายเหล่าพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน พวกเขาไม่ต้องการให้พระเป็นที่นิยม ชื่นชอบ หรือใกล้ชิดชาวบ้าน การจำกัดสิทธิ์เหล่านี้ เป็นการ กลั่นแกล้งพระสงฆ์ ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อประเทศชาติและประชาชน และยิ่งทวีความขัดแย้งมากขึ้น”
(จากThe Irrawaddy)
ไฟไหม้วัดเกาหลีชื่อดังส่งท้ายปี
• เกาหลี : เช้าตรู่ของวันที่ 20 ธันวาคม 2009 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่วัดฮานจีลัม วัดที่มีชื่อเสียงของเมืองเยียวซู ในจังหวัดจอลลา ซึ่งอยู่ทางใต้ของเกาหลีใต้ แต่ไม่ มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เพลิงได้ลุกไหม้เป็นเวลา 3 ชม. กว่าเจ้าหน้าที่จะดับได้สำเร็จ ทำให้อาคารใหญ่ 3 หลัง จากทั้งสิ้น 8 หลัง กลายเป็นเถ้าถ่าน ประเมินความเสียหายเบื้องต้นราว 600 ล้านวอน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีโบราณวัตถุสำคัญทางพุทธศาสนาหลายชิ้นถูกทำลายในกองเพลิง
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า บริเวณโถงที่ถูก ไฟไหม้ ไม่พบหัวฉีดน้ำอัตโนมัติติดตั้งบนฝ้าเพดาน หรืออุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยใดๆ โดยก่อนเกิดเหตุ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวราว 5-8 หมื่นคนมาเที่ยวที่วัดแห่งนี้ เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่หลังเกิดเหตุ ทางเมืองเยียวซูก็ยังคงจัดงานเฉลิมฉลองปีใหม่ขึ้นที่วัดระหว่างวันที่ 21 ธันวาคม 2009 ถึง 1 มกราคม 2010
วัดฮานจีลัม เป็นวัดเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อว่า มีทัศนียภาพอันงดงามยามพระอาทิตย์ขึ้น สร้างในปีค.ศ. 644 โดยพระวอนโย เดิมมีชื่อว่า วัดวอนตังงัม แต่มักถูกเรียกขานว่าอาศรมเต่าศักดิ์สิทธิ์ เพราะเชื่อว่าเป็นสถานที่จำศีลของเต่า เนื่องจากบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยหินที่ดูคล้ายกระดองเต่า แต่ในปี 1715 ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “วัดฮานจีลัม” ซึ่งมีความหมายว่า อาศรมที่ตั้งหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์
(จาก The Korea Times)
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 111 กุมภาพันธ์ 2553 โดยเภตรา)