ก่อนปฏิบัติธรรม ต้องชำระกายให้สะอาด?
ปุจฉา : นมัสการหลวงปู่ที่เคารพ โยมเพิ่งหันมาสนใจปฏิบัติธรรมด้วยตัวเอง แต่ทำอยู่บ้าน ใช้วิธีฟังเทป แล้วทำตาม โยมอยากจะขอถามหลวงปู่ว่า การตื่นนอนตอนตี 4 แล้วเริ่มปฏิบัติธรรมเลย คือสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม โดยยังไม่ได้ชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อน กับการที่ตื่นมาแล้วอาบน้ำอาบท่า แปรงฟัน แล้ว ไปนั่งสมาธิ ทำอย่างไรจึงจะเหมาะสมกว่ากันเจ้าคะ
รุ่งทิพย์
วิสัชนา : ที่จริงแล้วมันอยู่ที่จิต มันไม่เกี่ยวกับอาบน้ำแปรงฟัน มันเกี่ยวกับใจของคุณว่าตื่นชื่นบานแค่ไหน แต่ถ้าต้องไปสวดมนต์ร่วมกับผู้อื่น เช่น ไปบวชชีพราหมณ์ อย่างนั้นต้องรักษาความสะอาด ถ้าอยู่คนเดียวก็ทำตามที่คุณสบายใจเถอะ เพราะเราเอาประโยชน์ที่ใจ ไม่ได้เอาประโยชน์ที่กาย บางทีฉันเองตื่นตี2-ตี3 มาเดินจงกรม ก็ยังไม่ได้แปรงฟันเลย
อยากเลิกนิสัยไม่ดี
ปุจฉา : เรียนหลวงปู่ที่เคารพอย่างสูง ผมมีเรื่องขอเรียนปรึกษาหลวงปู่ดังนี้ คือผมมีนิสัยไม่ดีบางอย่าง ที่เป็นมาตั้งแต่หนุ่มๆ ตอนนี้ผมแต่งงานมีลูกเมียแล้ว ผมก็ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนแปลงนิสัยที่ไม่ดีนั้น แต่ผมก็ยังเลิกไม่ได้ บางครั้งผมก็ตั้งใจว่าจะสร้างความดีที่ไม่เคยทำบางอย่าง แต่ก็ทำอย่างนั้นได้ไม่นาน ก็กลับมาเป็นเหมือนเก่าอีก ผมเลยรู้สึกไม่ค่อยดีกับตัวเอง ว่าทำไมผมทำไม่ได้ ขอองค์หลวงปู่ช่วยแนะนำข้อธรรมะที่ทำให้มีกำลังใจและการกระทำที่ตั้งมั่นด้วยครับ ขอบพระคุณครับ
อนันต์
วิสัชนา : ขอเพียงมีความตั้งใจ ก็ถือว่าเป็นเบื้องต้นแล้ว เช่น แค่คิดว่าอยากจะกินมะม่วง ก็มันก็เป็นที่มาของการทำให้เราแสวงหาพันธุ์มะม่วงที่เลิศ เมื่อแสวงหาพันธุ์ที่เลิศ ไปหาซื้อลำบาก ก็คิดต่อไปว่า อยากจะปลูกพันธุ์มะม่วงนั้น จนทำให้เราได้กลายมาเป็นเจ้าของต้นมะม่วงที่มีลูกดก
ขอเพียงมีความปรารถนาที่จะทำดี วันนี้ยังทำไม่ได้เท่าที่ใจคิด แต่ความปรารถนานั้นก็ไม่ลดละ จงเพียรพยายามทำไปเรื่อย อย่าหยุด อย่าเลิกมัน อย่าท้อแท้ท้อถอยกับมัน ทำไปตลอด สุดท้ายคุณก็จะได้เป็นเจ้าของความดี หรือเป็นเจ้าของต้นมะม่วงที่สมบูรณ์ในที่สุด
สรุปคือ ทำอะไรที่จะทำให้เรามีกำลังใจที่จะทำดี พระพุทธเจ้าบอกว่า “วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร” ขอเพียงมีความเพียรอย่างต่อเนื่อง แล้วคุณก็จะชนะมันในที่สุด
สวดมนต์บทไหนเป็นมงคล
ปุจฉา : นมัสการพระคุณเจ้าหลวงปู่พุทธะอิสระ ดิฉันชอบอ่านปุจฉา-วิสัชนามาก เพราะได้ความรู้ดี แต่ก็ยังมีข้อสงสัยที่อยากขอปุจฉาเพิ่มเติมค่ะ 1. ดิฉันอยากทราบว่าบุญที่ได้รับจากการทำบุญ 3 อย่าง คือ การใส่บาตร การทอดกฐิน การสร้างโบสถ์ ต่างกันมากน้อยเพียงใดคะ 2. การสวดมนต์ เราจะสวดบทไหนดีคะที่จะเป็นมงคลกับตัวเองมากที่สุด เพราะมีหลายคนบอกว่าต้องสวดบทนั้นบทนี้ทุกวันแล้วจะดี ดิฉันก็เลยอยากรู้ว่าเป็นบทไหนกันแน่ ขอขอบพระคุณที่ท่านเมตตาวิสัชนาค่ะ
นิรมล
วิสัชนา : 1. สำคัญที่สุดมันอยู่ที่ใจคนทำ บางคนทำบุญทอดกฐินก็ทำเพราะเขาชวน เขาแจกซองมาก็ใส่ไปอย่างนั้นแหละ คือไม่มีศรัทธาที่เริ่มจากตัวเอง อย่างนี้ถึงคุณทอดสักร้อยวัดก็ไม่ได้บุญเท่าไหร่ แต่ถ้ามีศรัทธาเกิดขึ้นจากตัวเอง แค่ใส่บาตรก็เป็นบุญเยอะ ถวายสังฆทานก็เป็นบุญมาก ทอดกฐินก็เป็นบุญมหาศาล
สรุปแล้วมันไม่ได้อยู่ที่ชนิดของบุญ แต่มันอยู่ที่หัวใจของคุณ คุณมีศรัทธาจริงๆ หรือไม่ และทำด้วยหัวใจจริงๆหรือเปล่า
2. ที่จริงแล้ว ความเป็นมงคลไม่ได้อยู่ที่บทสวด ความเป็นมงคลมันอยู่ที่คนทำ ถึงจะนิมนต์พระมาสวดที่บ้าน ถ้าเจ้าของบ้านถ้าทำไม่ดี ทำแต่เรื่องอัปรีย์ ให้นิมนต์พระมาสวดทุกวันมันก็ไม่ได้ดีอะไร แต่ถ้าเจ้าของบ้านทำดี ไม่ต้องนิมนต์พระมาสวดสักที มันก็ได้ดีทุกเวลา
พระพุทธองค์ทรงสอนว่า เวลาที่ดี ชื่อว่าฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งเรืองดี ถ้าเราเชื่อ พระพุทธเจ้าก็ต้องเชื่อสิ่งที่พระองค์ทรงสอนว่า เราจะดีด้วยตัวเราทำ ไม่ใช่คำคนอื่นเขา พูดเขาสวดเขาเสกให้
อยากบอกว่าคนไทยส่วนใหญ่นับถือพุทธมาตั้งแต่เกิด สวดมนต์มาตั้งแต่เกิดจนแก่ตาย ยังไม่รู้เลยว่า นะโมตัสสะ แปลว่าอะไร และเราได้อะไรจากการสวด อย่างนี้จะ เป็นพุทธบริษัทได้อย่างไร เพราะพุทธบริษัทแปลว่า พวกที่รู้ ตื่น และเบิกบาน แต่แค่ นะโมตัสสะ ยังไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร แล้วเราจะรู้ ตื่น และเบิกบานได้อย่างไร
สำคัญอยู่ที่สวดแล้วต้องรู้ความหมายของบทที่สวดนั้น เพื่อจะได้รู้ว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมีอะไรบ้าง
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 110 มกราคม 2553 โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)
ปุจฉา : นมัสการหลวงปู่ที่เคารพ โยมเพิ่งหันมาสนใจปฏิบัติธรรมด้วยตัวเอง แต่ทำอยู่บ้าน ใช้วิธีฟังเทป แล้วทำตาม โยมอยากจะขอถามหลวงปู่ว่า การตื่นนอนตอนตี 4 แล้วเริ่มปฏิบัติธรรมเลย คือสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม โดยยังไม่ได้ชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อน กับการที่ตื่นมาแล้วอาบน้ำอาบท่า แปรงฟัน แล้ว ไปนั่งสมาธิ ทำอย่างไรจึงจะเหมาะสมกว่ากันเจ้าคะ
รุ่งทิพย์
วิสัชนา : ที่จริงแล้วมันอยู่ที่จิต มันไม่เกี่ยวกับอาบน้ำแปรงฟัน มันเกี่ยวกับใจของคุณว่าตื่นชื่นบานแค่ไหน แต่ถ้าต้องไปสวดมนต์ร่วมกับผู้อื่น เช่น ไปบวชชีพราหมณ์ อย่างนั้นต้องรักษาความสะอาด ถ้าอยู่คนเดียวก็ทำตามที่คุณสบายใจเถอะ เพราะเราเอาประโยชน์ที่ใจ ไม่ได้เอาประโยชน์ที่กาย บางทีฉันเองตื่นตี2-ตี3 มาเดินจงกรม ก็ยังไม่ได้แปรงฟันเลย
อยากเลิกนิสัยไม่ดี
ปุจฉา : เรียนหลวงปู่ที่เคารพอย่างสูง ผมมีเรื่องขอเรียนปรึกษาหลวงปู่ดังนี้ คือผมมีนิสัยไม่ดีบางอย่าง ที่เป็นมาตั้งแต่หนุ่มๆ ตอนนี้ผมแต่งงานมีลูกเมียแล้ว ผมก็ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนแปลงนิสัยที่ไม่ดีนั้น แต่ผมก็ยังเลิกไม่ได้ บางครั้งผมก็ตั้งใจว่าจะสร้างความดีที่ไม่เคยทำบางอย่าง แต่ก็ทำอย่างนั้นได้ไม่นาน ก็กลับมาเป็นเหมือนเก่าอีก ผมเลยรู้สึกไม่ค่อยดีกับตัวเอง ว่าทำไมผมทำไม่ได้ ขอองค์หลวงปู่ช่วยแนะนำข้อธรรมะที่ทำให้มีกำลังใจและการกระทำที่ตั้งมั่นด้วยครับ ขอบพระคุณครับ
อนันต์
วิสัชนา : ขอเพียงมีความตั้งใจ ก็ถือว่าเป็นเบื้องต้นแล้ว เช่น แค่คิดว่าอยากจะกินมะม่วง ก็มันก็เป็นที่มาของการทำให้เราแสวงหาพันธุ์มะม่วงที่เลิศ เมื่อแสวงหาพันธุ์ที่เลิศ ไปหาซื้อลำบาก ก็คิดต่อไปว่า อยากจะปลูกพันธุ์มะม่วงนั้น จนทำให้เราได้กลายมาเป็นเจ้าของต้นมะม่วงที่มีลูกดก
ขอเพียงมีความปรารถนาที่จะทำดี วันนี้ยังทำไม่ได้เท่าที่ใจคิด แต่ความปรารถนานั้นก็ไม่ลดละ จงเพียรพยายามทำไปเรื่อย อย่าหยุด อย่าเลิกมัน อย่าท้อแท้ท้อถอยกับมัน ทำไปตลอด สุดท้ายคุณก็จะได้เป็นเจ้าของความดี หรือเป็นเจ้าของต้นมะม่วงที่สมบูรณ์ในที่สุด
สรุปคือ ทำอะไรที่จะทำให้เรามีกำลังใจที่จะทำดี พระพุทธเจ้าบอกว่า “วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร” ขอเพียงมีความเพียรอย่างต่อเนื่อง แล้วคุณก็จะชนะมันในที่สุด
สวดมนต์บทไหนเป็นมงคล
ปุจฉา : นมัสการพระคุณเจ้าหลวงปู่พุทธะอิสระ ดิฉันชอบอ่านปุจฉา-วิสัชนามาก เพราะได้ความรู้ดี แต่ก็ยังมีข้อสงสัยที่อยากขอปุจฉาเพิ่มเติมค่ะ 1. ดิฉันอยากทราบว่าบุญที่ได้รับจากการทำบุญ 3 อย่าง คือ การใส่บาตร การทอดกฐิน การสร้างโบสถ์ ต่างกันมากน้อยเพียงใดคะ 2. การสวดมนต์ เราจะสวดบทไหนดีคะที่จะเป็นมงคลกับตัวเองมากที่สุด เพราะมีหลายคนบอกว่าต้องสวดบทนั้นบทนี้ทุกวันแล้วจะดี ดิฉันก็เลยอยากรู้ว่าเป็นบทไหนกันแน่ ขอขอบพระคุณที่ท่านเมตตาวิสัชนาค่ะ
นิรมล
วิสัชนา : 1. สำคัญที่สุดมันอยู่ที่ใจคนทำ บางคนทำบุญทอดกฐินก็ทำเพราะเขาชวน เขาแจกซองมาก็ใส่ไปอย่างนั้นแหละ คือไม่มีศรัทธาที่เริ่มจากตัวเอง อย่างนี้ถึงคุณทอดสักร้อยวัดก็ไม่ได้บุญเท่าไหร่ แต่ถ้ามีศรัทธาเกิดขึ้นจากตัวเอง แค่ใส่บาตรก็เป็นบุญเยอะ ถวายสังฆทานก็เป็นบุญมาก ทอดกฐินก็เป็นบุญมหาศาล
สรุปแล้วมันไม่ได้อยู่ที่ชนิดของบุญ แต่มันอยู่ที่หัวใจของคุณ คุณมีศรัทธาจริงๆ หรือไม่ และทำด้วยหัวใจจริงๆหรือเปล่า
2. ที่จริงแล้ว ความเป็นมงคลไม่ได้อยู่ที่บทสวด ความเป็นมงคลมันอยู่ที่คนทำ ถึงจะนิมนต์พระมาสวดที่บ้าน ถ้าเจ้าของบ้านถ้าทำไม่ดี ทำแต่เรื่องอัปรีย์ ให้นิมนต์พระมาสวดทุกวันมันก็ไม่ได้ดีอะไร แต่ถ้าเจ้าของบ้านทำดี ไม่ต้องนิมนต์พระมาสวดสักที มันก็ได้ดีทุกเวลา
พระพุทธองค์ทรงสอนว่า เวลาที่ดี ชื่อว่าฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งเรืองดี ถ้าเราเชื่อ พระพุทธเจ้าก็ต้องเชื่อสิ่งที่พระองค์ทรงสอนว่า เราจะดีด้วยตัวเราทำ ไม่ใช่คำคนอื่นเขา พูดเขาสวดเขาเสกให้
อยากบอกว่าคนไทยส่วนใหญ่นับถือพุทธมาตั้งแต่เกิด สวดมนต์มาตั้งแต่เกิดจนแก่ตาย ยังไม่รู้เลยว่า นะโมตัสสะ แปลว่าอะไร และเราได้อะไรจากการสวด อย่างนี้จะ เป็นพุทธบริษัทได้อย่างไร เพราะพุทธบริษัทแปลว่า พวกที่รู้ ตื่น และเบิกบาน แต่แค่ นะโมตัสสะ ยังไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร แล้วเราจะรู้ ตื่น และเบิกบานได้อย่างไร
สำคัญอยู่ที่สวดแล้วต้องรู้ความหมายของบทที่สวดนั้น เพื่อจะได้รู้ว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนมีอะไรบ้าง
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 110 มกราคม 2553 โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)