ฉะเชิงเทรา-ครูสี่โรงเรียนเมืองแปดริ้วจูงมือเด็กนักเรียนชั้น ป.4,5,6 นับสิบคน บุกเข้าแจ้งความเอาผิดสมภารวัด อ้างเหตุถูกลวนลามขณะเข้าร่วมโครงการบวชชีพราหมณ์ และบรรพชา สามเณร ถวายพระราชกุศล ช่วงระหว่าง 4-8 ธ.ค.52 ที่ผ่านมา ชาวบ้านนับร้อยหลังรู้ข่าวฮือล้อมวัดบีบให้จับสึก
วันนี้ (9 ธ.ค.52) ที่ สภ.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา นายชัชวาล แสงทอง อายุ 26 ปี ครูปฏิบัติการระดับ 3 โรงเรียนบ้านเทพประทาน ม.8 ต.คลองตะเกรา ซึ่งได้รับมอบหมายให้นำนักเรียนชั้น ป.4,5,6 ของโรงเรียนบ้านเทพประทาน โรงเรียนวัดทุ่งส่าย โรงเรียนวัดท่ากลอย และโรงเรียนบ้านกรอกสะแก จำนวน 9 คน เข้าพบ ร.ต.ท.ชาคินัย เมรสนัด ร้อยเวรสอบสวน สภ.ท่าตะเกรียบ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ต่อ พระอธิการธวัชชัย (ฉฺนทธมฺโม) อายุ 50 ปี เจ้าอาวาสวัดประชานิมิตร ม.12 ต.คลองตะเกรา
โดยกล่าวหาว่า กระทำการอนาจารแก่เด็กนักเรียนหญิง จาก 4 โรงเรียน รวม 12 คน ขณะเข้าร่วมโครงการบวชชีพราหมณ์ และบรรพชาสามเณรถวายพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ระหว่างวันที่ 4-8 ธ.ค.52 ที่ผ่านมา หลังจากได้มีชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คน ที่ทราบเรื่อง ต่างได้พากันเดินทางไปชุมนุมขับไล่เรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องจับสึกออกจากสมณะเพศ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
โดย ด.ญ.แอน (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี เล่าว่า ในวันที่ 4 ธ.ค. หลังได้เข้าร่วมบวชชีพราหมณ์ ตนพร้อมเพื่อนๆ ต่างโรงเรียนรวม 44 คน ได้นอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในศาลาวัด ประชานิมิตร (วัดบ้านทุ่งส่าย) ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ขณะที่ทุกคนกำลังหลับนอนกันหมดแล้ว ได้มีพระอธิการธวัชชัย รูปดังกล่าว เดินเข้ามาลักษณะทำทีเป็นการเข้ามาตรวจตรา ดูแลความเรียบร้อยภายในศาลาวัด
แต่ได้ใช้ไฟฉายส่องใส่ตาของตน ตนจึงหลับตาหลบลง จากนั้นพระรูปดังกล่าวได้ตรงเข้ามาทำการลูบไล้ที่บริเวณต้นขา และของสงวน จากนั้นยังได้พยายามที่จะถอดกางเกงของตนออก แต่เนื่องจากติดสายรัดเอว ซึ่งตนได้รัดไว้อย่างแน่นหนา จึงได้รอดพ้นจากการล่วงเกินไปมากกว่านี้ จากนั้นพระรูปดังกล่าวยังได้เข้าไปลวนลามเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ อีกหลายคน และมีเพื่อนนักเรียนอีกหลายคนที่ตื่นมาเห็นเหตุการณ์ แต่ไม่มีใครกล้าที่จะร้องโวยวาย เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย เนื่องจากไม่มีผู้ใหญ่ทั้งครูและชาวบ้านเฝ้าอยู่ภายในวัด
ซึ่งสาเหตุที่ไม่มีชาวบ้านเฝ้าคอยดูแลนั้น เนื่องจากพระเจ้าอาวาสวัด ได้รับอาสากับครูที่โรงเรียนว่า จะขอเป็นผู้อยู่คอยเฝ้าดูแลเด็กเอง ร่วมกับภรรยาของผู้ใหญ่บ้าน แต่เมื่อถึงในเวลากลางคืนจริงๆ แล้ว กลับไม่มีภรรยาของผู้ใหญ่บ้านมาอยู่ด้วย นอกจากนี้ก่อนที่จะปล่อยให้นักเรียนที่เข้ามาร่วมปฏิบัติธรรมนอนพักผ่อนนั้น พระรูปดังกล่าวยังได้ใช้อุบายหลอกล่อด้วยการเล่าเกี่ยวกับเรื่องผีให้เด็กๆ ฟัง พร้อมกับได้แจกจ่ายยาแก้แพ้อากาศให้แก่เด็กนักเรียนกิน หากใครกลัวผีจนนอนไม่หลับ ก็ให้กินยาเพื่อให้หลับอีกด้วย
โดยเจ้าอาวาสวัดได้กระทำการลักษณะนี้อย่างตัวเนื่องถึง 2 คืน รวมมีนักเรียนหญิงถูกลวนลามทั้งหมด 12 คน ใน 4 โรงเรียน จากทั้งหมด 6 โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านเทพประทาน โรงเรียนวัดทุ่งส่าย โรงเรียนวัดท่ากลอย โรงเรียนบ้านกรอกสะแก โรงเรียนวัดหนองคอก และโรงเรียนบ้านธรรมรัตน์ใน ต่อนานักเรียนนำเรื่องดังกล่าวมาพูดกันจนทราบถึงหูคุณครู
จากนั้นครูที่โรงเรียนจึงได้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมปรึกษาหารือร่วมกันทั้ง 4 โรงเรียน ก่อนพามาเข้าแจ้งความในวันนี้รวม 9 คน จากทั้งหมด 12 คนที่ถูกลวนลาม โดยยังมีอีก 3 คน ซึ่งยังป่วยอยู่จึงไม่ได้เข้ามาร่วมแจ้งความในวันนี้
ด้านบิดาของนักเรียนรายหนึ่ง กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่พระชั้นผู้ใหญ่ มากระทำอย่างนี้ เพราะที่ผ่านมาพระรูปนี้ ถือได้ว่าเข้ามาพัฒนาวัด และเป็นพระสงฆ์ที่มีความรู้ ตนก็เคยให้ความเคารพนับถือศรัทธาเป็นอย่างมากมาก่อน เพราะเป็นผู้มาทำให้วัดมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่ไม่น่ามาก่อเหตุอย่างนี้ขึ้น จึงเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก แต่หากเอาไว้ก็อาจจะเป็นภัยกับสังคมของคนในหมู่บ้านต่อไป
สำหรับถูกสาวของตน ขณะที่ถูกพระรูปนี้กระทำการลวนลามนั้น ยังคงนอนหลับใหลไม่ได้สติ เนื่องจากกินยาแก้แพ้อากาศที่ทางวัดนำมาแจกจ่ายให้แก่เด็ก ที่ยังนอนไม่หลับ แต่มีเพื่อนนักเรียนที่นอนอยู่ใกล้เคียงห่างออกไปประมาณ 2-3 คนเห็นเหตุการณ์ ขณะถูกถอดกางเกงรูดลงมากองอยู่ที่หัวเข่า และลูบไล้คลำไปยังบริเวณต้นขา และของสงวน ก่อนที่เด็กจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาเสียก่อนที่จะมีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณวัดทุ่งส่าย ได้มีชาวบ้านพร้อมผู้ปกครองของเด็กกว่า 100 คน ได้เดินทางไปชุมนุมที่บริเวณศาลาวัดที่เกิดเหตุ พร้อมเรียกร้องให้พระรูปดังกล่าว สาสิกขา สึกออกจากการเป็นสมณะเพศ และออกจากพื้นที่ไป โดย มี นายปริญญาพล อุทยาภรณ์ ปลัดอาวุโส อ.ท่าตะเกียบ และพระครูธรรมรัตนวิมล เจ้าคณะตำบลคลองตะเกรา พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน และ นายก และสมาชิก อบต. เข้ามาร่วมกันสอบสวนถึงกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น
โดยพระอธิการธวัชชัย ยอมรับสารภาพต่อคณะของพระชั้นผู้ใหญ่ระดับตำบล และฝ่ายปกครอง และยินยอมที่จะลาสึกออกจากการเป็นสมณะเพศ แต่เจ้าคณะตำบลนั้น ได้อ้างว่าไม่มีอำนาจที่จะทำการสึกพระรูปนี้ เนื่องจากเป็นเจ้าอาวาสที่ทางเจ้าคณะจังหวัดแต่งตั้ง ส่งมาให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้ นานกว่า 6 ปี แล้ว และเคยเข้ามาอยู่ในเขตพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ ที่วัดหนองคอก มาก่อนหน้าแล้วหลายปี โดยทราบเพียงเบื้องต้นว่า เป็นพระภิกษุที่มีภูมิลำเนามาจากในเขตพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
จากนั้นเจ้าคณะตำบลคลองตะเกรา จึงได้นำตัวพระรูปดังกล่าว ออกจากพื้นที่ไปยังวัดโพธิ์นิมิตร หมู่บ้านร่มโพธิ์ทอง ซึ่งเป็นวัดของเจ้าคณะตำบลเพื่อรอคำสั่งจากทางเจ้าคณะจังหวัด แต่ต่อมาล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.มรายงานว่าพระธวัชชัยได้แอบหลบหนีหายตัวออกจากวัดโพธิ์นิมิตรไปแล้ว