xs
xsm
sm
md
lg

ดาราขวัญใจนักการเมือง เรื่องร้อนที่กลายเป็นไฟลามทุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปี 2552 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ถือเป็นปีที่การเมืองร้อนเป็นไฟ และเรื่องราวก็ได้ลุกลามข้ามรั้วมาถึงแวดวงบันเทิง ทำให้ต้องพลอยหัวปั่นกับกระแสข่าวลืออันวุ่นวายของครอบครัว “ชินวัตร” ที่เข้ามาเกี่ยวโยงพัวพันกับดารา-นักร้องสาว ซึ่งปีที่แล้วนี้นักโทษหลบหนี “ทักษิณ” และญาติมิตร กวาดสถิติมีข่าวฉาวคาวรักซุกใต้เตียงกับสาวๆในวงการมายา จนกลายเป็นประเด็นใหญ่โตขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ

ประเดิมเปิดศักราชเป็นประเด็นทอล์ค ที่ติดตามกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีก่อน กับความความสัมพันธ์ที่ดูคลุมเครือจนหลายคนอดคิดไปในทางชู้สาวเสียมิได้ ระหว่าง “ทักษิณ” กับนักร้องสาวฉายาเจ้าหญิงอาร์แอนด์บี “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา” ซึ่งถ้าจะย้อนไปถึงบ่อเกิดที่ทำให้ทั้งคู่รู้จักกัน มาจากการแนะนำของนักการเมืองคนสนิทของทั้ง 2 ครอบครัวคือ “พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล” หรือ “เสี่ยเพ้ง” ที่มักจะชักชวนนักร้องสาวมาร้องเพลงที่พรรคเพื่อไทยอยู่หลายครั้ง จนเกิดเป็นความสนิทสนมกันขึ้น

โดยทักษิณมักจะใช้เวลาว่างกับสาวลีเดียในการทำกิจกรรมไดร์ฟกอล์ฟ ร้องคาราโอเกะ ท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนี่เองที่ทำให้เกิดข่าวลือว่า สาเหตุที่ทั้งคู่หายไปต่างประเทศด้วยกัน เพราะกำลังแอบสานสัมพันธ์กุ๊กกิ๊กกันอยู่ แต่ลีเดียก็มักจะออกมาแก้ข่าวว่า ไปเจอกันโดยบังเอิญ แถมแรกเริ่มเดิมทีลีเดียมีข่าวกิ๊กกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ของทักษิณอย่าง “โอ๊ค พานทองแท้” เสียด้วยซ้ำไป

ทั้งนี้ทักษิณยังเคยกล่าวว่า นักร้องสาวเป็นคนสนิทที่ใกล้ชิดตนมากที่สุด ขณะใช้ชีวิตร่อนเร่อยู่ต่างแดน กอปรกับช่วงนั้นลีเดียได้เก็บตัวเงียบไม่ออกงานใดๆ ทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในพฤติกรรมความสัมพันธ์ของทั้งคู่ กระทั่งมีข่าวลือที่กลายเป็นประเด็นทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ว่า นักร้องสาวตั้งครรภ์ ผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งคงหนีไม่พ้นทักษิณ
 
จากนั้นลีเดียก็ออกมาแก้ข่าวคลายปมความสัมพันธ์ระหว่างตนกับอดีตผู้นำ ในหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ค “LYDIA HERE I AM” ส่วน ทักษิณเองก็ออกมาแฉหมดเปลือกเช่นกันในพ็อกเก็ตบุ๊ค “ทักษิณ WHERE ARE YOU” โดยกล่าวว่าลีเดียเป็นภาพของลูกสะใภ้ในฝัน อีกทั้งในพ็อกเก็ตบุ๊คทั้งสองเล่มยังได้นำภาพความสนิทสนมของทั้งคู่และ 2 ครอบครัวมาเผยแพร่ด้วย

จากการที่นั่งแท่นเป็นคนโปรดของทักษิณ ดังนั้นทันทีที่มีข่าวนักโทษหลบหนีประกาศหย่าภรรยา “คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์” ลีเดียจึงหนีไม่พ้นถูกมองเป็นมือที่สาม ซึ่งเจ้าตัวก็เลือกที่จะเก็บตัวเงียบไม่ออกมาโต้ข่าวใดๆ จนล่าสุดที่กลายเป็นข่าวฮือฮา เมื่อเธอไปจองซื้อคฤหาสน์หรูพร้อมลานจอดเครื่องบินส่วนตัวราคา 40 ล้าน แถมยังดอดซื้อที่ดินแถวเขาใหญ่ ทำให้เป็นที่สงสัยของคนทั้งประเทศว่า ลีเดียร่ำรวยขนาดนั้นจริง หรือได้เงินจากทักษิณมาปรนเปรอซื้อให้ ซึ่งภายหลังเจ้าตัวก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ครอบครัวตนมีธุรกิจทำถนน มีเงินมีทองพอตัว ไม่จำเป็นต้องแบมือขอเงินใคร

มาต่อที่ “ใหม่ เจริญปุระ” ที่มีข่าวเป็นสาวในสต๊อกเบอร์ 2 ของทักษิณ หลังจากมีข่าวกับลีเดียจนกลายเป็นกระแสให้คนทั้งประเทศพูดถึง จนเดือดร้อนไปทั้งครอบครัวแล้ว นักโทษหลบหนีก็ไปคว้านักร้องสาวค่ายแกรมมี่มาเป็นเพื่อนใจคนใหม่เพิ่ม โดยความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มขึ้นเมื่อปลายยุครัฐบาลไทยรักไทย และดำเนินอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ซึ่งหากจะเท้าความกันจริงๆแล้วใหม่เริ่มรู้จักทักษิณ ตั้งแต่เธอยังเป็นเบบี้ เนื่องจาก 2 ครอบครัวทั้ง “ชินวัตร” และ “เจริญปุระ” มีสัมพันธ์อันดีมาช้านาน จากการที่พ่อของนักโทษหลบหนีเองเคยเปิดโรงภาพยนตร์ และซื้อหนังของ “รุจน์ รณภพ” ซึ่งเป็นพ่อของใหม่ ไปฉายที่โรงหนังของตน และเมื่อช่วงที่รุจน์ทำงานอยู่บ.ไฟว์สตาร์ ตัวทักษิณเองก็ยังเคยมาซื้อหนังเรื่อง “บ้านทรายทอง” ซึ่งทำให้ประทับใจนางเอกชื่อ “พจมาน”

ต่อมาทั้งคู่มีโอกาสโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้ง เมื่อใหม่เป็นนักร้องค่ายแกรมมี่ของ “อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” ซึ่งเป็นเพื่อนซี้ของทักษิณ ทั้งคู่คุยกันถูกคอพออดีตผู้นำควักเงินซื้อทีมฟุตบอลชื่อดังของอังกฤษอย่าง แมนซิตี้ ใหม่เลยถูกทาบทามให้ไปร่วมร้องเพลงในงานเปิดตัว จนกลายเป็นกระแสข่าวลือถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง โดยทั้งคู่มักจะใช้เวลาว่างเจอกันที่ประเทศอังกฤษหลายครั้ง ซึ่งครั้งนึงมีคนเห็น “ใหม่-ทักษิณ” เดินกระหนุงกระหนิงกันที่ห้างดังในอังกฤษ จนกลายเป็นประเด็นทอล์คให้คนไทยได้พูดถึงกันหนาหู แต่พอใหม่บินกลับมาเมืองไทย เจ้าตัวก็รีบชี้แจงว่าเป็นการเจอกันโดยบังเอิญ หลังจากที่ตนพาแม่และพี่สาวไปเที่ยวฝรั่งเศส

จากนั้นไม่นานมีข่าวว่า ใหม่กำลังจะสร้างหนังของตัวเอง โดยมีทักษิณอาสาเป็นนายทุนทุ่มงบให้ถึง 100 ล้านบาท ซึ่งเจ้าตัวก็ปฏิเสธว่าไม่เคยพูดคุยเรื่องนี้กับอีกฝ่าย ล่าสุดมีข่าวลืออีกระลอกว่า หลังทักษิณต้องระเห็จเร่ร่อนไปใช้ชีวิตอยู่ดูไบ ใหม่ก็แอบดอดไปเยี่ยม และความก็มาแตกเมื่อมีคนเห็นทั้งคู่ไปเดินช้อปปิ้งกันสองต่อสองในดูไบ โดยใหม่นุ่งกางเกงขาสั้นจู๋ ทั้งสวมแหวนกันแดดอำพราง พอเห็นคนกำลังจะแอบถ่ายรูปตัวเองกับทักษิณ เจ้าตัวก็ใช้วิชานินจาหลบหนี ทำให้ไม่มีใครบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานได้

เมื่อกลับถึงเมืองไทยใหม่ก็ออกมาชี้แจงกับสื่อว่า ไปพบกับทักษิณที่ดูไบมาจริง แต่เป็นการเจอกันโดยบังเอิญ และเมื่อเร็วๆนี้ยังมีข่าวอีกว่า ทั้ง 2 สาวที่ขึ้นชื่อเป็นกิ๊กของทักษิณอย่าง “ใหม่-ลีเดีย” เตรียมจับมือกันเปิดค่ายเพลง โดยมีทักษิณเป็นนายทุน แต่สองนักร้องสาวก็ออกมาปฏิเสธเหมือนเช่นเคยว่า เป็นแค่ข่าวลือ ไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด

แต่คนพี่ที่ว่าแน่แล้ว เจอคนน้องอย่าง “พายัพ ชินวัตร” อาจมีสิทธิ์ต้องถอย เพราะรายหลังถึงขนาดทำเอาม่ายทรงเครื่อง “สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์” ต้องลี้ภัยทิ้งหน้าที่การงานที่เมืองไทย แล้วหอบลูกสาว “นนนี่” หนีไปตั้งรกรากใหม่ถาวรที่เมืองมะกัน กลายเป็นประเด็นทอล์คให้พูดถึงกันหนาหูส่งท้ายปี

โดยหลังจากที่ม่ายสาวได้ประกาศหย่าขาดจากสามีถึง 2 ครั้ง 2 ครา พร้อมลั่นวาจาว่าจะไม่แต่งงานใหม่กับใครอีก แถมยังหันเหชีวิตเข้าสู่สายธรรมะเต็มตัว จนมีโอกาสได้เจอกับพายัพ ม่ายสาวได้คิดถึงการต่อยอดทางธุรกิจ หวังพึ่งใบบุญพายัพเปิดธุรกิจสปาที่ดูไบ จึงทำให้เกิดความสนิทสนมเดินทางไปดูไบด้วยกัน และมักชวนกันไปตระเวนทำบุญที่วัดหลายแห่งอยู่บ่อยๆ

แต่ถึงจะโดนเมาท์หนาหูยังไง สิเรียมก็ยังคงปฏิเสธความสัมพันธ์ว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ เมื่อโดนซักคำถามถี่เข้า เจ้าตัวก็ชิ่งหนีไม่ยอมตอบคำถามสื่อเลย จนพายัพเองเป็นคนเปิดประเด็นด้วยการนำรูปหวานขณะทำบุญด้วยกันมาโชว์ พร้อมบอกเป็นรูปที่เก็บไว้ในมือถือ เพราะแอบปลื้มฝ่ายหญิง “ในอดีตและปัจจุบันไม่มีอะไร แต่ในอนาคตไม่แน่” ซึ่งคำพูดกำกวมนี่เองที่ทำให้เป็นที่โจษจันเรื่องความสัมพันธ์อันคลุมเครือ จากนั้นก็มีภาพหวานขณะทั้งคู่ควงกันไปทำบุญทอดกฐินที่จ.ศรีสะเกษ ออกมาฟ้องอีกระลอก ซึ่งถ้าดูจากในภาพแล้ว ไม่ผิดแปลกอะไรไปจากคู่สามีภรรยาที่ไปทำบุญด้วยกันเลย

เมื่อถูกเสียงวิจารณ์จากประชาชน และคนรอบข้างปรามาสหนักเข้า จนม่ายสาวไม่อาจต้านทานไหว เจ้าตัวจึงตัดสินใจหอบลูกสาวลี้ภัยแบบกะทันหัน โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเธอ ซึ่งเป็นพันธมิตรอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ก่อนจะย้ายไปตั้งรกรากอยู่อเมริกาแบบถาวร ซึ่งเหตุผลจริงๆที่ทำให้สิเรียมต้องทิ้งวงการกะทันหัน ยังคงเป็นถกเถียงกันอยู่ว่าเป็นเพราะเหตุใด พายัพมีส่วนเกี่ยวข้อง และเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ให้ม่ายสาวหนีลี้ภัยหรือไม่ ยังคงเป็นปริศนาที่รอวันเปิดเผยคำตอบอยู่







เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

กำลังโหลดความคิดเห็น