ชาวพม่านับหมื่นแห่บริจาคเส้นผมสร้างถนน-สะพาน สู่เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์
• พม่า : นิตยสารกุมุทรา อ้างคำกล่าวของพระภิกษุรูปหนึ่งว่า มีหญิงชาวบ้านราว 30,000 คนและชายมากกว่า 100 คนจากใจกลางเมืองมัณฑะเลย์และเมืองใกล้เคียง ได้มาบริจาคเส้นผมหนักเกือบ 800 กก. ในโครงการรณรงค์ หาเงินซ่อมถนนไปยังเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดนากา ในมัณฑะเลย์ ซึ่งการเดินทางเข้าไปที่วัดแห่งนี้ บางช่วงต้องใช้การเดินเท้าหรือนั่งบนหลังช้างเท่านั้น
“เส้นผมบางมัดวัดได้ยาวถึง 4 ฟุต” พระชิน วายามะ นันทะ เจ้าอาวาสวัดนากา กล่าว
ส่วนพระที่เป็นผู้ดูแลการบำรุงรักษาเจดีย์อลองดอว์ กัฐผะ (Alaungdaw Kathapha) บอกว่าจะนำเงินที่ได้จากการขายเส้นผมไปซ่อมถนนและสร้างสะพานที่เป็นทางเข้าสู่สถานที่จาริกแสวง บุญอันมีชื่อเสียง โดยเส้นผมเหล่านี้จะถูกนำไปทำวิกหรือเส้นผมตุ๊กตา
“เงินที่ได้จากการขายเส้นผมนี้ จะนำไปซ่อมถนนบางช่วงยาว 25 ก.ม. และสร้างสะพานใหม่ขนาดเล็กและกลางอีกราว 15 แห่ง” เจ้าอาวาสวัดนากา กล่าว
โดยจะตั้งชื่อสะพานใหม่แห่งหนึ่งว่า สะพาน “ชเว ซัน วี” หรือ “สะพานเส้นผมทองคำ”
(จาก The Telegraph)
ชัมมูและแคชเมียร์เร่งฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา
• อินเดีย : การท่องเที่ยวของรัฐชัมมูและแคชเมียร์ในอินเดีย มีแผนที่จะปัดฝุ่นแหล่งโบราณสถานทางพุทธศาสนาที่มีอยู่หลายแห่งภายในรัฐ เพื่อดึงดูดนักแสวงบุญชาวพุทธให้เข้ามาเยือน โดยได้ยื่นแผนฟื้นฟูไปยังหน่วยงานสำรวจทางโบราณคดีของอินเดีย เสนอให้ติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานในบริเวณดังกล่าว
สถานที่สำคัญๆ เช่น ปาริหัสโประ, ฮาร์วัน และกนิษปุระ-อุชกุระ ซึ่งยังหลงเหลือซากปรักหักพังของวัดพุทธ จะถูกบรรจุอยู่ในโครงการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาดังกล่าว
นอกจากจะมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว สถานที่เหล่านี้ยังมีความสำคัญทางด้านจิตใจต่อชาวพุทธทั่วโลก
“เรากำลังจะพัฒนาสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา เริ่มจากฮาร์วัน ที่เคยเป็นสถานที่จัดประชุมชาวพุทธโลกครั้งที่ 2 ยังมีสถูปโบราณหลงเหลืออยู่ เช่นเดียวกับที่ปาริหัสโปรา ซึ่งมีสถูปที่มีชื่อเสียงองค์หนึ่ง โครงการของเราก็คือ เราจะพัฒนาวงแหวนแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาทั้งหมด” ฟารุค ชาห์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวรัฐชัมมูและแคชเมียร์กล่าว
“ปาริหัสโประ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงในพุทธศาสนา ถ้ารัฐบาลกลางและรัฐบาลแคชเมียร์ให้ความสำคัญในการฟื้นฟูปรับปรุงให้สวยงาม เชื่อแน่ว่า จะมีชาวพุทธที่เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่กันมาก ซึ่งจะเกิดผลดีกับคนในท้องถิ่นซึ่งยากจน พวกเขาจะมีงานทำ ปัญหาการว่างงานก็จะหมดไป” ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าว
(จาก Sindh Today)
ล้อแห่งมนตรา
• อเมริกา : บริษัท Karmacar ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ ในรูปแบบของภาพพิมพ์ บทสวดมนต์ “โอม มณี ปัทเม ฮุม” ของชาวพุทธทิเบต เพื่อใช้ติดไว้ที่กะทะล้อรถยนต์ เพื่อปรับเปลี่ยนรูปล้อรถทั่วๆไปให้กลายเป็นวงล้อแห่งธรรม
เอดัวโด ซิอัมมาเรลล่า ผู้อำนวยการบริษัทกล่าวว่า “เราเริ่มต้นที่ล้อรถ เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า รถก็จำเป็นต้องมีธรรมะคุ้มครอง คุณอาจจะไม่ได้มองว่านี่เป็นเรื่องของเทคโนโลยี แต่จริงๆแล้วมันใช่เลย เพราะการทำสมาธิและสวดมนต์ ก็คือ เทคโนโลยีสำหรับจิตวิญญาณนั่นเอง”
“มันเป็นไอเดียง่ายๆ ที่นำพลังในทางสร้างสรรค์มาสู่โลกใบนี้ นี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่” โรมูโล คาลิสตรี ประธานบริษัทกล่าว
ลูกค้าของบริษัทมีทั้งพระภิกษุและคนหนุ่มสาวที่กำลังแสวงหาวิธีง่ายๆแต่ทรงพลัง ในการตกแต่งรถให้เข้ากับวิถีชีวิตของตนเองและคนรอบๆข้าง
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการบริษัทกล่าวว่า บริษัทจะบริจาค 10 % ของกำไรที่ได้ ให้แก่กลุ่มคนที่ส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี “เราต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในสังคม โดยการลงมือปฏิบัติจริงๆ ในเดือนกันยายนนี้ เราจะเดินทางไปที่อินเดีย เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กๆ ซึ่งไร้ที่อยู่อาศัย เราต้องการส่งเสริมความคิดที่ว่าเราจะเดินไปพร้อมๆกันเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน”
Karmacar ภาพพิมพ์บทสวดมนต์ติดล้อ มีทั้งสีดำและสีขาว จำหน่ายในราคา 24.95 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 900 บาท) ต่อ1 ล้อ คาดว่าเร็วๆ นี้จะวางจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปในสหรัฐ
(จาก PRWeb via Yahoo! News)
พบพุทธศิลป์หายาก ในทะเลทรายโกบี
• มองโกเลีย : พบโบราณวัตถุ ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าหายากทางพุทธศาสนา ที่ไม่เคยมีคนเห็นมานานกว่า 70 ปี ถูกขุดขึ้นมาจากทะเลทรายโกบี
วัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวถูกฝังในราวปี 1930 ในช่วงที่มีการกวาดล้างระบบคอมมิวนิสต์ของชาวมองโกเลีย ซึ่งวัดพุทธหลายร้อยแห่งถูกปล้นและเผาทำลาย มีทั้งพระพุทธรูป งานศิลปะ เอกสารเก่า และข้าวของเครื่องใช้ ของพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 19
เชื่อกันว่ามีหีบสมบัติทั้งหมด 64 ใบ ของพระแดนซาน ราฟจา ฝังในทะเลทราย โดยพระตูเดฟเป็นผู้นำไปซ่อน เพื่อให้รอดพ้นจากการปล้นสะดมของกองทัพมองโกเลียและโซเวียตในขณะนั้น
พระตูเดฟได้บอกความลับนี้แก่หลานชาย และต่อมาในราวปี 1990 เขาก็ได้ขุดหีบสมบัติขึ้นมาบางส่วน และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ชม
ขณะนี้ทีมค้นหาสมบัติ ได้พบหีบเพิ่มอีก 2 ใบ ไมเคิล ไอเซนริกเลอร์ หัวหน้าทีมบอกว่าในหีบเต็มไปด้วยสิ่งของที่เป็นพุทธศิลป์อันน่าอัศจรรย์ที่สุด
“มันมีมูลค่ามากมายมหาศาลสำหรับ วัฒนธรรมมองโกเลีย เพราะว่าพุทธศาสนา เกือบจะดับสูญไปในช่วงที่ดินแดนถูกปกครองโดยลัทธิคอมมิวนิสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปี 1930”
ทั้งนี้ โบราณวัตถุล่าสุดที่ขุดพบ จะถูกนำออกแสดงที่พิพิธภัณฑ์ “แดนซาน ราฟจา” ในเมืองเซนส์แฮนด์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของนครอูลัน บาตอร์ เมืองหลวงของมองโกเลีย
อนึ่ง ยังมีหีบสมบัติอีกราว 20 หีบที่ยังคงรอการค้นหา อยู่ในทะเลทรายโกบี
(จาก BBC)
พระทิเบต แสดงนาฏลีลา ในเทศกาลเฮมิส
• อินเดีย : พระสงฆ์ทิเบตแต่งกายในชุดร่ายรำเพื่อร่วมแสดงนาฏลีลาแบบ “ชาอาม” ในเทศกาล “เฮมิส” ที่จัดขึ้นที่วัดเฮมิส ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเลห์ ในเขตลาดัคห์ ของรัฐชัมมูและแคชเมียร์ในอินเดียไปทางใต้ราว 45 กม. เมื่อวันที่ 2 กค.ที่ผ่านมา
เทศกาลดังกล่าวจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันคล้ายวันเกิดของคุรุปัทมสัมภพ ผู้ต่อสู้กับเหล่าภูตผีปีศาจและสิ่งชั่วร้าย เพื่อปกป้องชาวบ้านท้องถิ่น
อนึ่ง ลาดัคห์ เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงดงามของเทือกเขาหิมาลัยและวัฒนธรรมท้องถิ่น บางครั้งจึงถูกเรียกว่าเป็น“ลิตเติ้ลทิเบต” เนื่องจากชนพื้นเมืองซึ่งอยู่กันอย่างกระจัดกระจายบางตานั้น สืบเชื้อสายมาจากทิเบตและอินโด-อารยัน
คณะสงฆ์เวียดนามจับมือภาครัฐ ร่วมส่งเสริมพุทธศาสนาในต่างแดน
• เวียดนาม : คณะสงฆ์เวียดนามจับมือกับคณะกรรมาธิการกิจการเวียดนามโพ้นทะเล ในการดำเนินการร่วมกันในโครงการที่มีขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของชาวเวียดนามในต่างแดน ที่ต้องการปฏิบัติธรรม
โครงการนี้ถือเป็นความร่วมมือครั้งแรกของทั้ง 2 ฝ่าย โดยพระติช ตันห์ ตู รองประธานสภาบริหารของคณะสงฆ์เวียดนาม และเหวียน ตันห์ เซิน” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เวียดนาม และประธานคณะกรรมาธิการฯ ร่วมลงนาม ที่กรุงฮานอย เมื่อเร็วๆนี้
“การลงนามในครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ทางรัฐบาลเชื่อถือในกิจกรรมของคณะสงฆ์ และเคารพสิทธิเสรีภาพทางศาสนาของประชาชนชาวเวียดนามทั้งในและนอกประเทศ” เซินกล่าวในพิธีร่วมลงนาม
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวด้วยว่า โครงการนี้จะช่วย ให้ชาวเวียดนามที่อยู่ต่างประเทศมากกว่า 4 ล้านคน ฝึกปฏิบัติธรรมได้ง่ายขึ้น และที่ผ่านมา ทั้งสององค์กรได้สนับสนุนกิจกรรมทางพุทธศาสนามาโดยตลอด ทั้งที่จัดขึ้นในเวียดนามและต่างประเทศ
และเพื่อเน้นย้ำว่า ศาสนาพุทธจะอยู่คู่กับประเทศเวียดนามโดยตลอด พระติช ตันห์ ตู ได้ให้คำมั่นที่จะทำงานร่วมกับคณะกรรมาธิการฯ ในกิจกรรมทางพุทธศาสนา โดยมุ่งเน้นไปที่ชุมชนเวียดนาม ที่อยู่ต่างแดน
(จาก VNB)
จีนเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ ดีไซน์แบบพุทธศิลป์ หวังเจาะฐานผู้ใช้ที่นับถือพุทธ
• จีน : หลังจากที่จีนได้ผลิตโทรศัพท์มือถือ ที่มีชื่อว่า โอดิน 99 ได้ออกมาเจาะตลาดชาวพุทธ โดยมีรูปแบบและการใช้งานที่เหมาะสำหรับพุทธศาสนิกชนเมื่อไม่นานมานี้ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ล่าสุดก็ได้ออกโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ C 91 ออกมาเจาะตลาดคนพุทธอีกครั้ง ด้วยดีไซน์ที่คล้ายดอกบัว โดยพื้นเป็น ลวดลายกลีบบัว และตรงกลางของฝาด้านหน้าเป็นรูปดอกบัว ซึ่งผู้ผลิตบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากพุทธศิลป์
ตัวเครื่องเป็นแบบฝาพับเปิด-ปิด เคลือบทอง ดูหรูหรา แผงปุ่มกดใช้งานพร้อมตัวเลขออกแบบเป็นแผ่นวงกลมเคลือบทอง ตรงกลางของปุ่มกด 4 ทิศทางนั้นเป็นภาพเครื่องหมายสวัสติกะ (สัญลักษณ์เก่าแก่ของชาวพุทธที่หมายถึงความโชคดี) สำหรับฟังซ์ชั่นการใช้งานก็ มีไม่น้อยทั้งระบบ 2 ซิมการ์ด จอ LCD 2 นิ้ว พร้อมกล้องขนาด 1.3 เมกะพิกเซล วิทยุ FM หูฟังแบบบลูทูธ ฯลฯ แต่สิ่งที่พิเศษสำหรับคนพุทธคือ เมื่อผู้ใช้เปิดฝาโทรศัพท์ขึ้น จะมีเพลงธรรมะดังขึ้นอัตโนมัติ ซึ่งในเครื่องนี้บรรจุไว้ถึง 13 เพลง ราคาขายอยู่ที่ 123 ดอลลาร์สหรัฐ(ราว 4,300 บาท)
(จาก Imart.com)
กองโบราณคดี ปากีสถาน ร้องยูเนสโกให้ช่วยปกป้องสถูปพุทธ
• ปากีสถาน : เจ้าหน้าที่กองโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ส่วนภูมิภาคของปากีสถาน ร้องขอให้องค์กรยูเนสโกและกองโบราณคดีกลาง เข้ามาช่วยปกป้องสถูปและวัดพุทธ จากการถูกลักลอบขุดค้น หาโบราณวัตถุ
ข้อเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ 2 นายของกองโบราณคดีฯ ที่ตั้งอยู่ในเมืองตักศิลาของปากีสถาน พบว่ามีการลักลอบขุดค้นหาโบราณวัตถุ และมีของเก่าแก่หลายชิ้นถูกขโมยไปจากวัด
ในรายงานที่ยื่นให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า การขุดเจาะค้นหารอบๆบริเวณด้วยเครื่องมือหนัก ทำให้ สถูป และตัววัดได้รับความเสียหาย
“เป็นไปได้ว่า พระพุทธรูปขนาดเล็ก 2-3 องค์ได้ถูกขโมยไปด้วย”เจ้าหน้าที่กล่าวในรายงาน
โดยระบุว่า ถ้าทางรัฐเป็นผู้ดำเนิน การขุดเจาะค้นหาอย่างเป็นระบบbไม่เพียงแต่จะเป็นการช่วยรักษามรดกทางวัฒนธรรมเอาไว้ แต่ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีนักสำรวจ นักศึกษาโบราณคดี นักท่องเที่ยว และนักวิชาการจากทั่วโลก เดินทางมาเยี่ยมชมอารยธรรมอันเก่าแก่เป็นจำนวนมาก
มูฮัมหมัด บาเดอร์ ข่าน รองผู้อำนวยการกองโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์กลาง ได้ยืนยันถึงความเสียหายอย่างหนักของบริเวณโบราณสถานดังกล่าว โดยบอกว่า รายงานการลักลอบขุดเจาะโดยมาเฟียซึ่งร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ถูกยื่นไปยังสำนักงานใหญ่และเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงเรียบร้อยแล้ว และเขายังกล่าวสนับสนุนการปกป้องรักษาบริเวณโบราณสถาน มิให้มีผู้ลักลอบเข้ามาขุดเจาะหาโบราณวัตถุ ซึ่งเปรียบเสมือนผู้ทำลายมรดกของชาติ
(จาก Dawn)
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 106 กันยายน 2552 โดยเภตรา)
• พม่า : นิตยสารกุมุทรา อ้างคำกล่าวของพระภิกษุรูปหนึ่งว่า มีหญิงชาวบ้านราว 30,000 คนและชายมากกว่า 100 คนจากใจกลางเมืองมัณฑะเลย์และเมืองใกล้เคียง ได้มาบริจาคเส้นผมหนักเกือบ 800 กก. ในโครงการรณรงค์ หาเงินซ่อมถนนไปยังเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดนากา ในมัณฑะเลย์ ซึ่งการเดินทางเข้าไปที่วัดแห่งนี้ บางช่วงต้องใช้การเดินเท้าหรือนั่งบนหลังช้างเท่านั้น
“เส้นผมบางมัดวัดได้ยาวถึง 4 ฟุต” พระชิน วายามะ นันทะ เจ้าอาวาสวัดนากา กล่าว
ส่วนพระที่เป็นผู้ดูแลการบำรุงรักษาเจดีย์อลองดอว์ กัฐผะ (Alaungdaw Kathapha) บอกว่าจะนำเงินที่ได้จากการขายเส้นผมไปซ่อมถนนและสร้างสะพานที่เป็นทางเข้าสู่สถานที่จาริกแสวง บุญอันมีชื่อเสียง โดยเส้นผมเหล่านี้จะถูกนำไปทำวิกหรือเส้นผมตุ๊กตา
“เงินที่ได้จากการขายเส้นผมนี้ จะนำไปซ่อมถนนบางช่วงยาว 25 ก.ม. และสร้างสะพานใหม่ขนาดเล็กและกลางอีกราว 15 แห่ง” เจ้าอาวาสวัดนากา กล่าว
โดยจะตั้งชื่อสะพานใหม่แห่งหนึ่งว่า สะพาน “ชเว ซัน วี” หรือ “สะพานเส้นผมทองคำ”
(จาก The Telegraph)
ชัมมูและแคชเมียร์เร่งฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา
• อินเดีย : การท่องเที่ยวของรัฐชัมมูและแคชเมียร์ในอินเดีย มีแผนที่จะปัดฝุ่นแหล่งโบราณสถานทางพุทธศาสนาที่มีอยู่หลายแห่งภายในรัฐ เพื่อดึงดูดนักแสวงบุญชาวพุทธให้เข้ามาเยือน โดยได้ยื่นแผนฟื้นฟูไปยังหน่วยงานสำรวจทางโบราณคดีของอินเดีย เสนอให้ติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานในบริเวณดังกล่าว
สถานที่สำคัญๆ เช่น ปาริหัสโประ, ฮาร์วัน และกนิษปุระ-อุชกุระ ซึ่งยังหลงเหลือซากปรักหักพังของวัดพุทธ จะถูกบรรจุอยู่ในโครงการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาดังกล่าว
นอกจากจะมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว สถานที่เหล่านี้ยังมีความสำคัญทางด้านจิตใจต่อชาวพุทธทั่วโลก
“เรากำลังจะพัฒนาสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา เริ่มจากฮาร์วัน ที่เคยเป็นสถานที่จัดประชุมชาวพุทธโลกครั้งที่ 2 ยังมีสถูปโบราณหลงเหลืออยู่ เช่นเดียวกับที่ปาริหัสโปรา ซึ่งมีสถูปที่มีชื่อเสียงองค์หนึ่ง โครงการของเราก็คือ เราจะพัฒนาวงแหวนแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาทั้งหมด” ฟารุค ชาห์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวรัฐชัมมูและแคชเมียร์กล่าว
“ปาริหัสโประ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงในพุทธศาสนา ถ้ารัฐบาลกลางและรัฐบาลแคชเมียร์ให้ความสำคัญในการฟื้นฟูปรับปรุงให้สวยงาม เชื่อแน่ว่า จะมีชาวพุทธที่เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่กันมาก ซึ่งจะเกิดผลดีกับคนในท้องถิ่นซึ่งยากจน พวกเขาจะมีงานทำ ปัญหาการว่างงานก็จะหมดไป” ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าว
(จาก Sindh Today)
ล้อแห่งมนตรา
• อเมริกา : บริษัท Karmacar ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ ในรูปแบบของภาพพิมพ์ บทสวดมนต์ “โอม มณี ปัทเม ฮุม” ของชาวพุทธทิเบต เพื่อใช้ติดไว้ที่กะทะล้อรถยนต์ เพื่อปรับเปลี่ยนรูปล้อรถทั่วๆไปให้กลายเป็นวงล้อแห่งธรรม
เอดัวโด ซิอัมมาเรลล่า ผู้อำนวยการบริษัทกล่าวว่า “เราเริ่มต้นที่ล้อรถ เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า รถก็จำเป็นต้องมีธรรมะคุ้มครอง คุณอาจจะไม่ได้มองว่านี่เป็นเรื่องของเทคโนโลยี แต่จริงๆแล้วมันใช่เลย เพราะการทำสมาธิและสวดมนต์ ก็คือ เทคโนโลยีสำหรับจิตวิญญาณนั่นเอง”
“มันเป็นไอเดียง่ายๆ ที่นำพลังในทางสร้างสรรค์มาสู่โลกใบนี้ นี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่” โรมูโล คาลิสตรี ประธานบริษัทกล่าว
ลูกค้าของบริษัทมีทั้งพระภิกษุและคนหนุ่มสาวที่กำลังแสวงหาวิธีง่ายๆแต่ทรงพลัง ในการตกแต่งรถให้เข้ากับวิถีชีวิตของตนเองและคนรอบๆข้าง
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการบริษัทกล่าวว่า บริษัทจะบริจาค 10 % ของกำไรที่ได้ ให้แก่กลุ่มคนที่ส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี “เราต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในสังคม โดยการลงมือปฏิบัติจริงๆ ในเดือนกันยายนนี้ เราจะเดินทางไปที่อินเดีย เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กๆ ซึ่งไร้ที่อยู่อาศัย เราต้องการส่งเสริมความคิดที่ว่าเราจะเดินไปพร้อมๆกันเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน”
Karmacar ภาพพิมพ์บทสวดมนต์ติดล้อ มีทั้งสีดำและสีขาว จำหน่ายในราคา 24.95 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 900 บาท) ต่อ1 ล้อ คาดว่าเร็วๆ นี้จะวางจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปในสหรัฐ
(จาก PRWeb via Yahoo! News)
พบพุทธศิลป์หายาก ในทะเลทรายโกบี
• มองโกเลีย : พบโบราณวัตถุ ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าหายากทางพุทธศาสนา ที่ไม่เคยมีคนเห็นมานานกว่า 70 ปี ถูกขุดขึ้นมาจากทะเลทรายโกบี
วัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวถูกฝังในราวปี 1930 ในช่วงที่มีการกวาดล้างระบบคอมมิวนิสต์ของชาวมองโกเลีย ซึ่งวัดพุทธหลายร้อยแห่งถูกปล้นและเผาทำลาย มีทั้งพระพุทธรูป งานศิลปะ เอกสารเก่า และข้าวของเครื่องใช้ ของพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 19
เชื่อกันว่ามีหีบสมบัติทั้งหมด 64 ใบ ของพระแดนซาน ราฟจา ฝังในทะเลทราย โดยพระตูเดฟเป็นผู้นำไปซ่อน เพื่อให้รอดพ้นจากการปล้นสะดมของกองทัพมองโกเลียและโซเวียตในขณะนั้น
พระตูเดฟได้บอกความลับนี้แก่หลานชาย และต่อมาในราวปี 1990 เขาก็ได้ขุดหีบสมบัติขึ้นมาบางส่วน และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ชม
ขณะนี้ทีมค้นหาสมบัติ ได้พบหีบเพิ่มอีก 2 ใบ ไมเคิล ไอเซนริกเลอร์ หัวหน้าทีมบอกว่าในหีบเต็มไปด้วยสิ่งของที่เป็นพุทธศิลป์อันน่าอัศจรรย์ที่สุด
“มันมีมูลค่ามากมายมหาศาลสำหรับ วัฒนธรรมมองโกเลีย เพราะว่าพุทธศาสนา เกือบจะดับสูญไปในช่วงที่ดินแดนถูกปกครองโดยลัทธิคอมมิวนิสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปี 1930”
ทั้งนี้ โบราณวัตถุล่าสุดที่ขุดพบ จะถูกนำออกแสดงที่พิพิธภัณฑ์ “แดนซาน ราฟจา” ในเมืองเซนส์แฮนด์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของนครอูลัน บาตอร์ เมืองหลวงของมองโกเลีย
อนึ่ง ยังมีหีบสมบัติอีกราว 20 หีบที่ยังคงรอการค้นหา อยู่ในทะเลทรายโกบี
(จาก BBC)
พระทิเบต แสดงนาฏลีลา ในเทศกาลเฮมิส
• อินเดีย : พระสงฆ์ทิเบตแต่งกายในชุดร่ายรำเพื่อร่วมแสดงนาฏลีลาแบบ “ชาอาม” ในเทศกาล “เฮมิส” ที่จัดขึ้นที่วัดเฮมิส ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเลห์ ในเขตลาดัคห์ ของรัฐชัมมูและแคชเมียร์ในอินเดียไปทางใต้ราว 45 กม. เมื่อวันที่ 2 กค.ที่ผ่านมา
เทศกาลดังกล่าวจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันคล้ายวันเกิดของคุรุปัทมสัมภพ ผู้ต่อสู้กับเหล่าภูตผีปีศาจและสิ่งชั่วร้าย เพื่อปกป้องชาวบ้านท้องถิ่น
อนึ่ง ลาดัคห์ เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงดงามของเทือกเขาหิมาลัยและวัฒนธรรมท้องถิ่น บางครั้งจึงถูกเรียกว่าเป็น“ลิตเติ้ลทิเบต” เนื่องจากชนพื้นเมืองซึ่งอยู่กันอย่างกระจัดกระจายบางตานั้น สืบเชื้อสายมาจากทิเบตและอินโด-อารยัน
คณะสงฆ์เวียดนามจับมือภาครัฐ ร่วมส่งเสริมพุทธศาสนาในต่างแดน
• เวียดนาม : คณะสงฆ์เวียดนามจับมือกับคณะกรรมาธิการกิจการเวียดนามโพ้นทะเล ในการดำเนินการร่วมกันในโครงการที่มีขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของชาวเวียดนามในต่างแดน ที่ต้องการปฏิบัติธรรม
โครงการนี้ถือเป็นความร่วมมือครั้งแรกของทั้ง 2 ฝ่าย โดยพระติช ตันห์ ตู รองประธานสภาบริหารของคณะสงฆ์เวียดนาม และเหวียน ตันห์ เซิน” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เวียดนาม และประธานคณะกรรมาธิการฯ ร่วมลงนาม ที่กรุงฮานอย เมื่อเร็วๆนี้
“การลงนามในครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ทางรัฐบาลเชื่อถือในกิจกรรมของคณะสงฆ์ และเคารพสิทธิเสรีภาพทางศาสนาของประชาชนชาวเวียดนามทั้งในและนอกประเทศ” เซินกล่าวในพิธีร่วมลงนาม
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวด้วยว่า โครงการนี้จะช่วย ให้ชาวเวียดนามที่อยู่ต่างประเทศมากกว่า 4 ล้านคน ฝึกปฏิบัติธรรมได้ง่ายขึ้น และที่ผ่านมา ทั้งสององค์กรได้สนับสนุนกิจกรรมทางพุทธศาสนามาโดยตลอด ทั้งที่จัดขึ้นในเวียดนามและต่างประเทศ
และเพื่อเน้นย้ำว่า ศาสนาพุทธจะอยู่คู่กับประเทศเวียดนามโดยตลอด พระติช ตันห์ ตู ได้ให้คำมั่นที่จะทำงานร่วมกับคณะกรรมาธิการฯ ในกิจกรรมทางพุทธศาสนา โดยมุ่งเน้นไปที่ชุมชนเวียดนาม ที่อยู่ต่างแดน
(จาก VNB)
จีนเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ ดีไซน์แบบพุทธศิลป์ หวังเจาะฐานผู้ใช้ที่นับถือพุทธ
• จีน : หลังจากที่จีนได้ผลิตโทรศัพท์มือถือ ที่มีชื่อว่า โอดิน 99 ได้ออกมาเจาะตลาดชาวพุทธ โดยมีรูปแบบและการใช้งานที่เหมาะสำหรับพุทธศาสนิกชนเมื่อไม่นานมานี้ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ล่าสุดก็ได้ออกโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ C 91 ออกมาเจาะตลาดคนพุทธอีกครั้ง ด้วยดีไซน์ที่คล้ายดอกบัว โดยพื้นเป็น ลวดลายกลีบบัว และตรงกลางของฝาด้านหน้าเป็นรูปดอกบัว ซึ่งผู้ผลิตบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากพุทธศิลป์
ตัวเครื่องเป็นแบบฝาพับเปิด-ปิด เคลือบทอง ดูหรูหรา แผงปุ่มกดใช้งานพร้อมตัวเลขออกแบบเป็นแผ่นวงกลมเคลือบทอง ตรงกลางของปุ่มกด 4 ทิศทางนั้นเป็นภาพเครื่องหมายสวัสติกะ (สัญลักษณ์เก่าแก่ของชาวพุทธที่หมายถึงความโชคดี) สำหรับฟังซ์ชั่นการใช้งานก็ มีไม่น้อยทั้งระบบ 2 ซิมการ์ด จอ LCD 2 นิ้ว พร้อมกล้องขนาด 1.3 เมกะพิกเซล วิทยุ FM หูฟังแบบบลูทูธ ฯลฯ แต่สิ่งที่พิเศษสำหรับคนพุทธคือ เมื่อผู้ใช้เปิดฝาโทรศัพท์ขึ้น จะมีเพลงธรรมะดังขึ้นอัตโนมัติ ซึ่งในเครื่องนี้บรรจุไว้ถึง 13 เพลง ราคาขายอยู่ที่ 123 ดอลลาร์สหรัฐ(ราว 4,300 บาท)
(จาก Imart.com)
กองโบราณคดี ปากีสถาน ร้องยูเนสโกให้ช่วยปกป้องสถูปพุทธ
• ปากีสถาน : เจ้าหน้าที่กองโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ส่วนภูมิภาคของปากีสถาน ร้องขอให้องค์กรยูเนสโกและกองโบราณคดีกลาง เข้ามาช่วยปกป้องสถูปและวัดพุทธ จากการถูกลักลอบขุดค้น หาโบราณวัตถุ
ข้อเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ 2 นายของกองโบราณคดีฯ ที่ตั้งอยู่ในเมืองตักศิลาของปากีสถาน พบว่ามีการลักลอบขุดค้นหาโบราณวัตถุ และมีของเก่าแก่หลายชิ้นถูกขโมยไปจากวัด
ในรายงานที่ยื่นให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า การขุดเจาะค้นหารอบๆบริเวณด้วยเครื่องมือหนัก ทำให้ สถูป และตัววัดได้รับความเสียหาย
“เป็นไปได้ว่า พระพุทธรูปขนาดเล็ก 2-3 องค์ได้ถูกขโมยไปด้วย”เจ้าหน้าที่กล่าวในรายงาน
โดยระบุว่า ถ้าทางรัฐเป็นผู้ดำเนิน การขุดเจาะค้นหาอย่างเป็นระบบbไม่เพียงแต่จะเป็นการช่วยรักษามรดกทางวัฒนธรรมเอาไว้ แต่ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีนักสำรวจ นักศึกษาโบราณคดี นักท่องเที่ยว และนักวิชาการจากทั่วโลก เดินทางมาเยี่ยมชมอารยธรรมอันเก่าแก่เป็นจำนวนมาก
มูฮัมหมัด บาเดอร์ ข่าน รองผู้อำนวยการกองโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์กลาง ได้ยืนยันถึงความเสียหายอย่างหนักของบริเวณโบราณสถานดังกล่าว โดยบอกว่า รายงานการลักลอบขุดเจาะโดยมาเฟียซึ่งร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ถูกยื่นไปยังสำนักงานใหญ่และเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงเรียบร้อยแล้ว และเขายังกล่าวสนับสนุนการปกป้องรักษาบริเวณโบราณสถาน มิให้มีผู้ลักลอบเข้ามาขุดเจาะหาโบราณวัตถุ ซึ่งเปรียบเสมือนผู้ทำลายมรดกของชาติ
(จาก Dawn)
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 106 กันยายน 2552 โดยเภตรา)