กระบี่ - ผู้ใหญ่บ้านทับปริก กระบี่ เผยแหล่งโบราณบริเวณเขาหน้าวังหมี ถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง ได้รับความเสียหายแล้ว 30-40% แม้จะมีการยืนยันจากรมศิลป์ว่าเป็นแหล่งโบราณคดีก็ยังมีการระเบิดเขาอย่างต่อเนื่อง ด้านผู้ใช้รถบนท้องถนนสายเพชรเกษม ฝากแขวงการทางซ่อมถนนด่วนหลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากรถบรรทุกหิน
นายบุญฤกษ์ เต้บำรุง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า บริเวณเขาหน้าวังหมี หมู่ที่ 2 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีการค้นพบโบราณวัตถุ เช่น วัตถุทรงพาน เศษหม้อดิน อายุราว 2,000-4,000ปี เมื่อช่วงต้นปี 2550 นั้น ขณะนี้ได้ถูกบริษัทนายเหมือง จำกัด เข้าไปดำเนินการระเบิดย่อยหินได้รับความเสียไปแล้วประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าที่ผ่านทางกรมศิลปากรได้ทำหนังสือยืนยันมายังผู้เกี่ยวข้องหลายครั้ง รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ว่าบริเวณเขาหน้าวังหมีนั้นเป็นแหล่งโบราณคดี ก็ตาม
นายบุญฤกษ์กล่าวอีกว่า การที่แหล่งโบราณถูกทำลาย ชาวต่างชาติที่ผ่านมาเห็นก็ยังรู้สึกเสียดาย นอกจากนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ก็เริ่มได้รับผลกระทบมากขึ้น เช่น เสียงระเบิดดัง ฝุ่นละออง และมีรถบรรทุกวิ่งตลอดทั้งคืน และพืชผลทางการเกษตรของชาวชาวบ้านก็ให้ผลผลิตน้อยลง แหล่งน้ำในลำห้วยก็ตื้นเขิน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังนิ่งเฉยปล่อยให้นายทุนดำเนินการโดยไม่ได้มีการทักท้วงแต่อย่างใด
“ส่วนกรณีที่ทางบริษัทนายเหมืองฯอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในพื้นที่เขตปกครองของหมูที่ 2 นั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนเป็นผู้ใหญ่บ้านมานาน 10 กว่าปีแล้ว ทราบดีว่าบริเวณใดเป็นเขตปกครองของตน และนอกจากนี้ทางกำนันตำบลทับปริกก็ได้ยืนยันแล้วว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตการปกครองของหมู่ที่ 2 ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดและการที่ทางบริษัทขออนุญาตสัมประทานบัตรระเบิดย่อยหินในพื้นที่หมูที่6 นั้น แต่มาดำเนินการในหมู่ที่2 นั้น ถือว่าไม่ถูกต้องด้วย” นายบุญฤกษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากชาวบ้านในพื้นที่ที่มีการระเบิดย่อยหินจะได้รับผลกระทบแล้ว ยังส่งผลให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสายเพชรเกษมบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 19 บริเวณทางแยกเข้าบ้านในสระ ต.เขาทอง ได้รับความเดือดร้อนไปด้วย เนื่องจากถนนบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางที่รถบรรทุกหินวิ่งออกมาจากโรงโม่หิน ทำให้ถนนเกิดการชำรุดเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่ ถนนที่รถวิ่งได้จาก 2 แลนด์ เหลือเพียง 1 แลนด์ แต่ก็ไม่ได้รับการเหลียวแลจากแขวงการทางกระบี่ ไม่มีการซ่อมแซม ปล่อยให้ผู้ใช้รถเสี่ยงกับการเกิดอันตรายบนท้องถนนทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
นายบุญฤกษ์ เต้บำรุง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า บริเวณเขาหน้าวังหมี หมู่ที่ 2 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีการค้นพบโบราณวัตถุ เช่น วัตถุทรงพาน เศษหม้อดิน อายุราว 2,000-4,000ปี เมื่อช่วงต้นปี 2550 นั้น ขณะนี้ได้ถูกบริษัทนายเหมือง จำกัด เข้าไปดำเนินการระเบิดย่อยหินได้รับความเสียไปแล้วประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าที่ผ่านทางกรมศิลปากรได้ทำหนังสือยืนยันมายังผู้เกี่ยวข้องหลายครั้ง รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ว่าบริเวณเขาหน้าวังหมีนั้นเป็นแหล่งโบราณคดี ก็ตาม
นายบุญฤกษ์กล่าวอีกว่า การที่แหล่งโบราณถูกทำลาย ชาวต่างชาติที่ผ่านมาเห็นก็ยังรู้สึกเสียดาย นอกจากนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ก็เริ่มได้รับผลกระทบมากขึ้น เช่น เสียงระเบิดดัง ฝุ่นละออง และมีรถบรรทุกวิ่งตลอดทั้งคืน และพืชผลทางการเกษตรของชาวชาวบ้านก็ให้ผลผลิตน้อยลง แหล่งน้ำในลำห้วยก็ตื้นเขิน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังนิ่งเฉยปล่อยให้นายทุนดำเนินการโดยไม่ได้มีการทักท้วงแต่อย่างใด
“ส่วนกรณีที่ทางบริษัทนายเหมืองฯอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในพื้นที่เขตปกครองของหมูที่ 2 นั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนเป็นผู้ใหญ่บ้านมานาน 10 กว่าปีแล้ว ทราบดีว่าบริเวณใดเป็นเขตปกครองของตน และนอกจากนี้ทางกำนันตำบลทับปริกก็ได้ยืนยันแล้วว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตการปกครองของหมู่ที่ 2 ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดและการที่ทางบริษัทขออนุญาตสัมประทานบัตรระเบิดย่อยหินในพื้นที่หมูที่6 นั้น แต่มาดำเนินการในหมู่ที่2 นั้น ถือว่าไม่ถูกต้องด้วย” นายบุญฤกษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากชาวบ้านในพื้นที่ที่มีการระเบิดย่อยหินจะได้รับผลกระทบแล้ว ยังส่งผลให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสายเพชรเกษมบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 19 บริเวณทางแยกเข้าบ้านในสระ ต.เขาทอง ได้รับความเดือดร้อนไปด้วย เนื่องจากถนนบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางที่รถบรรทุกหินวิ่งออกมาจากโรงโม่หิน ทำให้ถนนเกิดการชำรุดเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่ ถนนที่รถวิ่งได้จาก 2 แลนด์ เหลือเพียง 1 แลนด์ แต่ก็ไม่ได้รับการเหลียวแลจากแขวงการทางกระบี่ ไม่มีการซ่อมแซม ปล่อยให้ผู้ใช้รถเสี่ยงกับการเกิดอันตรายบนท้องถนนทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
