xs
xsm
sm
md
lg

บทความจาก นสพ. ผู้จัดการ

x

สื่อใจสมานสร้างสรรค์:

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ถึงอย่างไรก็ตาม ความทุกข์จากการทำดี
ก็สอนใจคนติดดีได้ดีกว่าการทำความชั่วอย่างแน่นอน


เรื่องที่ 85
โครงการสร้างเสริมสุขภาวะทางปัญญา

ปีนี้นับเป็นปีที่ 2 ของ โครงการสร้างเสริมสุขภาวะทางปัญญา ที่เปิดโอกาสให้ผู้มีความคิดสร้างสรรค์ในทางดีๆ ไม่ว่าจะเพิ่งคิดขึ้นมาได้ใหม่ หรือทำดีมาตั้งนานแล้ว และอยากทำต่อไป หาก ไฟฝันของคุณยังไม่หมด ขอเชิญส่งโครงการมาร่วมสร้างสรรค์ความสุขให้สังคมไทย ผ่านคณะที่ปรึกษาโครงการฯ โดยมี พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล เป็นประธานที่ปรึกษา พร้อมด้วย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์ อาจารย์กำพล ทองบุญนุ่ม ดร.ประมวล เพ็งจันทร์ คุณรสนา โตสิตระกูล และ คุณสนิทสุดา เอกชัย

35 โครงการที่ผ่านการคัดเลือก จะได้รับทุนสนับสนุนการทำ โครงการตามความเป็นจริงและเหมาะสม สูงสุดไม่เกิน 160,000 บาท ต่อโครงการ เป็นการให้โอกาสสำคัญสนับสนุนกำลังใจแก่ผู้มีโพธิจิต ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด ขอเพียงให้แนวคิด แนวปฏิบัติ มุ่งสร้างเสริมทัศนคติดีงาม 4 ประการ คือ คิดถึงผู้อื่นมากกว่าตนเอง ไม่พึ่งพิงความสุขทางวัตถุอย่างเดียว เชื่อมั่นในความเพียร ของตน ไม่หวังลาภลอยคอยโชค และรู้จักคิดอย่างมีเหตุผล เป็นประโยชน์เกื้อกูล

โดยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้และมีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่จำเป็นต้องอิงรูปแบบหรือพิธีกรรมทางศาสนา และมุ่งเน้นให้มีเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าครั้งละ 35 คน เป็นกิจกรรมที่ทำ ต่อเนื่องมากกว่า 1 ครั้ง ครั้งละไม่น้อยกว่า 5 วัน 4 คืน

เห็นไหมคะว่า กติกาไม่ยาก วางแนวคิดไว้กว้างๆ ให้ฝันต่อ ได้อย่างอิสระ และไม่จำเป็นต้องยื่นขอในนามองค์กรหรือหน่วยงาน ขอเพียงให้มีคณะผู้รับผิดชอบและดำเนินโครงการเป็นทีม อย่างน้อย 5 คน และมีที่ปรึกษา 1 คน มีข้อแม้นิดเดียวว่า จะต้องเป็นโครงการปลอดเหล้า และบุหรี่ เท่านั้น

ผู้สนใจดูรายละเอียดได้จาก www.budnet.org หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เครือข่ายพุทธิกา เพื่อพระพุทธศาสนา และสังคม โทร.0-2424-7409 หรือ 08-0450-8890

สังคมไทยกำลังต้องการภูมิคุ้มกันความทุกข์ ไม่มีอะไรจะเสริมสร้างภูมิคุ้มกันความทุกข์ให้เข้มแข็งเท่าการมีสุขภาวะทางปัญญา สังคมจะดีขึ้นได้ ถ้าเราไม่มัวแต่คิด แล้วนิ่งเฉย นะคะ

แล้วอะไรคือสาระสำคัญของสุขภาวะทางปัญญา ตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ระบุว่า สุขภาพทางปัญญา หมายความว่า ความรู้ทั่ว รู้เท่าทัน และความเข้าใจอย่างแยกได้ ในเหตุผลแห่งความดีความชั่ว ความมีประโยชน์ และความมีโทษ ซึ่งนำไปสู่ความมีจิตใจอันดีงาม และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

ผู้มีสุขภาวะทางปัญญาจะสามารถนำตนและคนรอบข้างบรรลุถึงสุขแท้จากการมีทัศนคติที่ถูกต้อง รู้เท่าทันความจริงของชีวิตและโลก รู้จักแก้ทุกข์ได้ด้วยปัญญา รู้จักการเป็นผู้ให้และเสียสละต่อส่วนรวม จึงมีความสุขจากการดำเนินชีวิตที่ดีงาม นำมาซึ่งความสุขแท้ยั่งยืนบนฐานของมิตรภาพสู่การพัฒนาสุขภาพองค์รวม

เหล่านี้คือฝันที่เป็นจริงได้ของสังคมอุดมคติ มาร่วมกันเรียนรู้ผ่านกิจกรรม และประสบการณ์จริง ก่อนกระบวนการก็มีการเตรียมความพร้อม สร้างความชัดเจนและทำความเข้าใจร่วมกัน หลังจากนั้นก็จะได้ไตร่ตรองทบทวน จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน นับว่าเป็นการใช้กระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดความสนุก ความสุข และเกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติสู่เส้นทางแห่งสัมมาทิฏฐิ

มีเวลาให้คิดและเขียนโครงการส่งให้ทันวันที่ 14 สิงหาคม 2552 นี้นะคะ ไม่ต้องเคร่งเครียดค่ะ หากวางร่างโครงการคร่าวๆ ไว้ในสมองแล้ว ลองทำใจโปร่งๆ นึกถึงบรรยากาศอันร่มรื่นของสวนทิพย์ริมแม่น้ำ หรือจะปลีกตัวไปทำภาวนา พร้อมกราบบูชา คุณครูบาอาจารย์ หลวงปู่ หลวงพ่อผู้ที่เราศรัทธา ก็จะเกิดกำลังใจ ปรากฏภาพโครงการอันคมชัดขึ้นมาในจิตใจได"

สำหรับผู้เขียนเอง มีโอกาสไปกราบและปฏิบัติธรรมกับ หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต ที่สวนทิพย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ซอยวัดกู้ 5 แยกปากเกร็ด แม้ท่านจะมีอายุถึง 95 ปีแล้ว แต่ท่านก็ยังเมตตานำปฏิบัติทุกวัน วันละ 2 ช่วง คือ 15.00-18.00 น. กับ 20.00-23.00 น. เลือกเวลากันตามสะดวก และเชิญร่วมสมทบทุนในบุญ โรงทานของหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่องค์สมเด็จพระสังคราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้โดยโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาย่อย โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น บัญชีเลขที่ 471-1-06146-8

ถึงแม้เราจะเป็นคนเก่ง มีความคิดสร้างสรรค์ประโยชน์ จัดทำโครงการดีๆ ได้สำเร็จมากมาย แต่หากยังไม่สามารถก้าวข้าม ผ่านอารมณ์ ชนิด ทำดีเลือกหน้า ทำไม่ดีไม่เลือกหน้า ไปได้ และยังแยกไม่ออกว่าความแตกต่างระหว่างคำว่าถูกใจกับถูกต้องเป็นอย่างไร เราก็ยังไปได้ไม่ถึงไหน เพราะยังไม่สามารถไถ่ถอนอคติออกจากใจได้

สำหรับคนติดดีที่ได้ตั้งใจทุ่มเททำความดีแล้ว แต่ยังเป็นทุกข์ อยู่ ขอจงเชื่อเถอะว่า ถึงอย่างไรก็ตาม ความทุกข์จากการทำดี ก็สอนใจคนติดดี ได้ดีกว่าการทำความชั่วอย่างแน่นอนค่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น