xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมปฏิบัติ : ชีวิตเลือกได้ กำไร หรือขาดทุน (ต่อจากฉบับที่แล้ว)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ถ้าหากว่ารู้จักแล้วว่าค้าขายขาดทุนแล้วยังยอมขาดทุนอยู่ร่ำไป ไม่พยายามที่จะหาผลประโยชน์หากำไร เห็นว่าผิดแล้วยังดำเนินอยู่อีกมันก็หมดหนทาง ไม่ต้องฟังธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าต่อไป เท่านั้นก็พอ
ถ้าหากว่าเราตั้งใจจะหากำไรเพิ่มผลประโยชน์ในชีวิตของเรา คือเห็นว่าที่ทำมานั้นผิดและอยากจะแก้ไข พยายามดำเนินตามทางที่ถูกต้อง เป็นไปเพื่อความเจริญก้าวหน้าและผลประโยชน์ มันก็มีวันเวลาที่จะพอ
ชาตินี้เราไม่ได้เจริญก้าวหน้าด้วยคุณธรรมมาแล้ว เรารู้ตัวก็หันมาเจริญคุณธรรมอันใดอันหนึ่ง เป็นต้นว่าเจริญศีลให้มีขึ้นที่ตนวันนี้เสียก่อนให้มันถูกต้องมั่นคง ให้ได้ผลได้ประโยชน์ได้กำไรในวันนี้ เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป วันนี้ เดือนนี้ ปีนี้ ตลอดชาตินี้ มาหาผลประโยชน์กำไร มันก็ไม่ทุกข์ไม่จนน่ะซี
นี่อะไร! เกิดมาทีไรก็มีแต่ขาดทุน ยิ่งศีลธรรมก็ ไม่มี แล้วก็ไม่ยอมที่จะแก้ไขปรับปรุงตัวเอง ปล่อยให้ขาดทุนอยู่ร่ำไป เมื่อไรเล่ามันจะได้กำไร ดีไม่ดี จะไม่ได้มาค้าขายกับเขาอีก ซ้ำล่มจมไปไม่มีที่จะหันหน้าอ้าปากกับเขาสักที มันก็แย่ล่ะซี นี้จึงว่าชีวิตของคนเราน่าเสียดาย ถ้าเป็นอย่างนั้น เกิดมาแทนที่จะมา ค้าขายหาประโยชน์อย่างเขา เรากลับมายอมขาดทุน
ชั่วระยะเวลาชีวิตที่ยังเหลืออยู่นี้ ยังเหลืออยู่น้อย นิดเดียวแล้วยังยอมขาดทุนตลอดชาติ เมื่อตายไปแล้วก็ไม่ได้มาค้าขายกับเขาอีกแล้ว หมดหนทาง เวลา ก็หมดเท่านั้น ไม่มีโอกาสอีกแล้ว
เพราะฉะนั้นจึงว่าพากันตรวจตราดูของเราทุกๆ คน ตั้งต้นแต่ลืมตายังไม่ทันลุกจากที่นอนไปจนตลอดวัน ถ้าหากว่าทุกคนพากันตรวจตราดูคุณงามความดีของตน และความผิดความชอบของตนอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้แล้ว การอยู่ด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ก็จะเพลิดเพลินสนุกสนานด้วยการนับเงินนับทอง ด้วยการแลกเปลี่ยนสินค้า เอามานับแข่งขันกันดูว่าใครได้มากใครได้น้อย สามคนสี่คนหรือเก้าคนสิบคนก็ตาม ต่างคนต่างก็มีกำไรทุกคน ลองคิดดูจะมีความสุขไหม
ถ้าเราขาดทุนแล้ว เวลาคนอื่นเขานับ เราไม่มีอะไร จะนับ มองเห็นเข้าแล้วนอกจากจะอิจฉาริษยาเขาแล้วเราก็จะกลุ้มใจ คือเห็นเขาทำดีทนอยู่ไม่ได้ อันนั้นแหละเรียกว่าเกิดมารกแผ่นดิน ถ้าเรามาเปลี่ยนคำพูดใหม่ว่าคนเช่นนั้นเรียกว่าเกิดมารกศาสนา คนรกแผ่นดินแล้วมาตกอยู่ในพุทธศาสนาก็รกศาสนาอีก ไปสวรรค์ก็ไปกับเขาไม่ได้ เพราะสวรรค์มันเตียน สะอาดราบรื่น คนรกด้วยกายอยู่กับคนสะอาดไม่ได้เพราะเกะกะระราน คนรกด้วยวาจา คือพูดเท็จ สาม หาวโอ้อวด คนรกด้วยใจ คือคิดประทุษร้ายเบียด เบียนคนอื่น จิตใจไม่สงบ ไม่มีศีล ตกนรกตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่นี่แหละ ทุคติ ปฏิกงฺขา ตายไปแล้วแน่นอนที่สุดจะต้องไปสู่อบาย

หลวงปู่อบรมสั่งสมาธิ
เรายังไม่เคยทำความสงบ เหตุนั้นเบื้องต้นจงพากันทำความสงบเสียก่อน ที่อธิบายให้ฟังว่าให้ตรวจดูเรื่องของเรานั้น จะตรวจเท่าไรๆก็ไม่เห็นหรอกถ้าหากว่ามันไม่สงบ ถ้าจิตใจสงบลงเมื่อใดแล้วมันจะมาปรากฏที่ความสงบนั้นเอง เราจะไปตามหาตามค้นดูโน่นๆนี่ๆไม่มีวันจะเห็นของจริง ได้ ความดีมีอยู่แต่ไม่รู้จักของดี เพราะจิตของเราไม่ดีพอที่จะรู้จักของดี คือความสงบไม่มี เหตุนั้น จงสร้างความดี คือความสงบให้เกิดมีขึ้นที่ตนเสียก่อน พอที่จะรับเอาความดีนั้นมาพิจารณาให้เห็น ถึงแม้จะไม่ได้อะไรก็ตาม ขอแต่ให้ทำความสงบให้ได้เสียก่อน
ก่อนที่จะเกิดความสงบขึ้น ก็จำเป็นจะต้องใช้อุบายแยบคายหลายเรื่องหลายอย่าง วันนี้ลองใช้อุบายอันนี้ดูก็ได้ ตัวของเรานี่แหละ พิจารณาที่ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า มันมีชีวิตอยู่ได้เพราะลมหายใจ ถ้าลมไม่มีเสียแล้ว ร่างกายและชีวิตอันนี้ก็ไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะฉะนั้น สมมติบัญญัติขึ้นมาเองว่า ลมหายใจ เข้าออกหมดไป กำหนดว่ามันไม่มี มีแต่ตัวตั้งอยู่ ไม่ มีลมหายใจ แล้วก็พิจารณากำหนดให้มันเย็น กำหนดให้เย็นไปหมดทั่วทั้งร่างกาย เพราะไม่มีลมมันก็ไม่มีความอบอุ่น มันดับไป เย็นไป
คราวนี้มันก็พองอืดขึ้น เปื่อย เละไป เนื้อหนังหลุดออกไป ยังเหลือแต่โครงกระดูก ที่สุดโครงกระดูกก็ต้องผุพังไป เลยไม่มีอะไรเหลือตัวตนเลยไม่มี ถ้าหากเราพิจารณาแบบนี้ จิต มันจะเกิดความสลดสังเวช เพราะเหตุที่มันไม่เป็นสาระในตัวตนของเรา จิตจะสงบนิ่งแน่ว

(แสดงธรรม ณ วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย วันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๑๙)

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 101 เม.ย. 52 โดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย)
กำลังโหลดความคิดเห็น