xs
xsm
sm
md
lg

อาหารเป็นยา : กินทับทิม บำรุงหัวใจ ยับยั้งมะเร็ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พูดถึง ‘ทับทิม’ ผลกลมๆ เมล็ดสีแดงๆ เด็กสมัยนี้อาจไม่ค่อยรู้จัก แต่คนรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายรู้จักกันดี โดยเฉพาะชาวจีนซึ่งนิยมนำผลทับทิมมาไหว้พระไหว้เจ้า เพราะเชื่อว่าเป็นผลไม้มงคล เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญงอกงามและความอุดมสมบูรณ์(อาจเป็นเพราะทับทิมมีเมล็ดมาก มีความสวยงาม และรับประทานได้) จึงมักให้ผลทับทิมเป็นของขวัญแก่บ่าวสาวในพิธีแต่งงาน เพื่อให้มีลูกหลานมากๆ และยังเชื่อด้วยว่า ใบและกิ่งทับทิมช่วยขับไล่ภูติผีปีศาจ ดังนั้นจึงมักนิยมปลูกต้นทับทิมไว้ในบริเวณบ้าน
แต่จริงๆแล้วทับทิมไม่ได้เกิดในเมืองจีนค่ะ สันนิษฐานกันว่าต้นกำเนิดของทับทิมนั้นอยู่ในแถบเอเชียตะวันตก หรือดินแดนที่เรียกกันว่าเปอร์เซีย (ปัจจุบันก็คืออิหร่าน) มีมานานหลายพันปีแล้ว เพราะปรากฏในบันทึกมาก มายในสมัยนั้น เช่น เทวตำนานกรีก การแพทย์แผนโบราณของอียิปต์คัมภีร์ไบเบิล เป็นต้น โดยได้มีการนำทับทิมมาทำเป็นยารักษาโรค ในตำรับการแพทย์โบราณของเปอร์เซีย ระบุว่าทับทิมมีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยฟอกไตและท่อปัสสาวะ ช่วยการทำงานของหัวใจและตับ เป็นยาบำรุงกำลัง ฟอกโลหิต ช่วยในการย่อยอาหาร ขจัดไขมันส่วนเกิน ปรับฮอร์โมนในสตรีวัยทอง ต่อต้านการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ป้องกันโรคขี้หลงขี้ลืมและช่วยให้ผิวพรรณดี
ทั้งนี้ได้มีการศึกษาวิจัยในระยะหลัง ช่วยยืนยันถึงสรรพคุณทางยาของทับทิมไว้มากมาย ได้แก่
ในเปลือกทับทิมมีสารในกลุ่มแทนนินสูง มีสรรพคุณใช้เป็นยาแก้ท้องเดิน โรคบิด ฆ่าเชื้อแบคทีเรียหลายสิบชนิด ลดอาการอักเสบ ทั้งยังมีฤทธิ์ต่อต้านและยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด ไม่ให้เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น
การวิจัยทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา พบว่าในน้ำทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด และมีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถลดภาวะการสะสมไขมันในผนังเส้นเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตันและแข็งตัวซึ่งจะก่อให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดตามมา รวมทั้งทำให้เส้นเลือดที่หนาตัวและมีไขมัน สะสม ซึ่งเป็นเส้นเลือดที่ไม่ดี มีความหนาตัวลดลง และลดไขมันที่สะสมลงอีกด้วย ช่วยบำรุงหัวใจในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด โดยเพิ่มการไหลเวียนที่ดีขึ้น และลดภาวะหัวใจขาดเลือดในผู้ป่วยโรคหัวใจ นอกจากนี้สารจากทับทิมยังช่วยบำรุงตับ มีฤทธิ์ป้องกันการเป็นพิษต่อตับ และยับยั้งเซลล์มะเร็งอีกด้วย
รวมถึงมีการทดลองทางเภสัชวิทยา พบว่า เปลือกหุ้มรากทับทิมมีฤทธิ์ใน การขับพยาธิตัวตืด นอกจากนี้เปลือกหุ้มรากยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อได้หลายชนิด เช่น เชื้อไทฟอยด์ เชื้อวัณโรค เป็นต้น และยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ผิวหนังด้วย
ส่วนตำรับการแพทย์แผนไทยได้บอกถึงสรรพคุณของทับทิมว่า
ใบ มีรสฝาด แก้ท้องร่วง แก้บิดมูก เลือด สมานแผล ดอก มีรสฝาดหวาน ต้มดื่มแก้หูชั้นในอักเสบ บดโรยแผล ที่มีเลือดออก เนื้อมีรสหวานอมเปรี้ยว เป็นยาระบายอ่อนๆ บำรุงหัวใจ เปลือก มีรสฝาด ต้มดื่มแก้ท้องร่วง แก้บิดมูก เลือด ถ่ายพยาธิ แก้ตกขาว สมานแผล ฆ่าเชื้อโรค เปลือกราก ต้มดื่มแก้ระดูขาว แก้ตกเลือด ถ่ายพยาธิ
นอกจากนี้ ทางสมุนไพรของจีนถือ ว่าทับทิมมีฤทธิ์เย็น รสหวานอมเปรี้ยว จึงช่วยแก้กระหาย ป้องกันโลหิตจาง ระงับกลิ่นปาก ลดไข้ แก้ตาอักเสบ หลอดลมอักเสบ และบำรุงสายตา
ถึงแม้จะรู้กันมาหลายพันปีแล้วว่าทับทิมเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้หลายชนิด แต่ก็ไม่ค่อยมีใครชอบกินทับทิม เหมือนผลไม้อื่นๆ แค่นำมาใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น อาจเป็นเพราะว่าทับทิมมีเนื้อน้อยก็เป็นได้ บ้าน เราจึงไม่ค่อยมีใครปลูกขาย มีแต่ปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้าน ทับทิมก็เลยกลายเป็นผลไม้หายาก ค่อนข้างมีราคา แพง แต่ปัจจุบันมีทับทิมจากประเทศจีนส่งเข้ามาขายมาก และมีราคาถูก จึงถือเป็นโอกาสดีของผู้บริโภค
แต่ถ้ายังหาซื้อรับประทานลำบากก็น่าจะหาต้นมาปลูกเลยก็ได้ค่ะ เพราะประโยชน์คุ้มทั้งต้นใบดอกราก
อ้อ..ถ้ารับประทานทีละเม็ดลำบาก ก็นำมาคั้นเป็นน้ำดื่ม ชื่นอกชื่นใจและได้ประโยชน์เช่นเดียวกันค่ะ

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 100 มี.ค. 52 โดยป้าบัว)
กำลังโหลดความคิดเห็น