ปุจฉา
คนเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ควรทำอย่างไรกับชีวิต และอะไรคือจุดหมายที่แท้จริงของการดำรงชีวิต อะไรคือความจริงแห่งชีวิตครับ
วิสัชนา
อ่านคำถามของคุณแล้ว อยากบอกว่า... อย่าคิดมากนะรักษาสุขภาพด้วย ขณะเดียวกัน ก็ต้องขอชมคุณว่า คุณเริ่มจะเข้าใจชีวิตได้มากขึ้นแล้ว ที่กล่าว ดังนี้เพราะ ชีวิตคือการตั้งคำถาม และค้นหาคำตอบ
การที่คุณรู้จักตั้งคำถามในชีวิตต้องถือว่าเป็นเรื่องดี ถึงแม้ว่าคุณจะยังมิสามารถค้นหาคำตอบได้ด้วยตัวคุณเองก็ไม่ถือว่าผิดบาปอะไร ขอเพียงมีคำถาม สักวันคุณต้องได้รับ คำตอบด้วยตนเอง นั่นจึงจะถือว่าเป็นคำตอบที่เหมาะเจาะ ถูกตรงต่อตัวคุณ
แต่ถ้าจักให้ฉันช่วยตอบให้ ก็ต้องขอตอบว่า... คนเรามีชีวิตอยู่เพื่อตาย แต่ก่อนจักตายควรจักปลดปล่อยชีวิตจิตวิญญาณให้หลุดพ้นจากเครื่องร้อยรัดพันธนาการ และผูกพันทั้งปวง ขณะเดียวกันก็นำพาชีวิตนี้ให้ทำดี มีสาระ ปราศจากสภาวะความผิดพลาด หรือถ้าจักผิด ก็ขอให้ผิดน้อยที่สุดด้วยความสำนึกว่า นี่คือหน้าที่สำคัญของชีวิต เรียกว่า มีลมหายใจ ได้ชีวิต เกิดพลังใช้ชีวิต สร้างสรรค์สาระ เมื่อหมดลมหายใจ สิ้นชีวิต ไร้พลัง แต่ยังไม่สิ้นสาระ และโปรดขอให้คุณได้เข้าใจด้วยว่า...
ที่สุดของสรรพสิ่งทั้งปวงที่กล่าวมานี้เป็นเพียงแค่สมมติ ขอให้ใช้สมมติ ยอมรับในสมมติ ให้ประโยชน์กับสมมติ ได้ประโยชน์จากสมมติ และท้ายที่สุดอย่ายึดติดในสิ่งที่เป็นสมมติ เหล่านี้คือคำตอบเรื่องชีวิต
ปุจฉา
ที่หลวงปู่ได้กล่าวว่า "จงเข้าใจในสมมติ ยอมรับในสมมติ และท้ายที่สุดอย่ายึดติดในสมมติ" สามารถจะนำหลักนี้มาประยุกต์มาใช้ในชีวิตประจำวันให้มีความสุข และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กันไปด้วยได้ อย่างไร ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจ และสังคมที่มีวัฒนธรรมการบริโภคและแข่งขันกันสูงมากในปัจจุบัน ถ้าไม่ยอมรับในสมมติเราจะหนีสมมติ(สังคม) ที่ไม่ ถูกต้องอย่างไร จึงจะไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม กราบขอบพระคุณหลวงปู่มากค่ะ
วิสัชนา
คุณคนขี้สงสัยเรื่องสมมติ คุณคงจะจำมาไม่หมด ก็เลยสงสัย ฉันจักช่วยบอกให้คุณจำและเข้าใจให้หมดจะได้หายสงสัย บทโศลกบทนี้ฉันเขียนไว้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ณ ถ้ำรังเสือว่า ลูกรัก จงใช้สมมติ ยอมรับสมมติ ให้เกียรติกับสมมติ ให้ประโยชน์ กับสมมติ รับประโยชน์จาก สมมติ และท้ายที่สุด อย่ายึดติดในสิ่งที่เป็นสมมติ หวังว่าคุณคงจะใคร่ครวญดูแล้วจะรู้คำตอบด้วยตัวคุณเอง
ปุจฉา
กราบนมัสการ และขออนุญาตเรียนถามอาจารย์ฯปู่พุทธะอิสระ ที่เคารพอย่างสูงว่า กระจกยันต์ที่พี่น้องชาวจีนชอบติดตั้งไว้หน้าประตูหรือหน้าบ้าน อยากทราบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไรครับผม
วิสัชนา
เรื่องกระจกยันต์แปดเหลี่ยม อันที่จริงมิได้เกี่ยวอะไรกับพุทธศาสนา แต่เป็นเครื่องรางคุ้มภัยของลัทธิเต๋า เขานำมาแก้ฮวงจุ้ยที่เป็นอัปมงคล
กระจกแปดเหลี่ยม คือ ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ 8 อย่าง ได้แก่ 1) ทิศเหนือ หมายถึง โลก 2) ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หมายถึง ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า 3) ทิศตะวันออก หมายถึง ดวงอาทิตย์ ไฟ 4) ทิศตะวันออกเฉียงใต้ หมายถึง น้ำ 5) ทิศใต้ หมายถึง สวรรค์ และพลังงาน 6) ทิศตะวันตกเฉียงใต้ หมายถึง ลม และไม้ 7) ทิศตะวันตก หมายถึง ฝน น้ำไหล และพระจันทร์ 8) ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หมายถึง ภูเขา
กระจกแปดเหลี่ยมหรือยันต์แปดทิศนี้ เรียกเป็นภาษาจีนว่า โป๊ยก่วย ประโยชน์ในการใช้นอกจากจะเป็นเครื่องราง ใช้ป้องกันคุณไสยแล้ว ยังจะใช้แก้ไขภัยพิบัติที่กำลังปรากฏอยู่ด้วย พร้อมทั้งยังถือว่าเป็นสิ่ง มีมงคลด้วย (ผิดถูกยังไงต้องขออภัย ได้แต่เดาๆ เอาอย่าถือว่า เป็นความถูกต้องทั้งหมด)
คนเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ควรทำอย่างไรกับชีวิต และอะไรคือจุดหมายที่แท้จริงของการดำรงชีวิต อะไรคือความจริงแห่งชีวิตครับ
วิสัชนา
อ่านคำถามของคุณแล้ว อยากบอกว่า... อย่าคิดมากนะรักษาสุขภาพด้วย ขณะเดียวกัน ก็ต้องขอชมคุณว่า คุณเริ่มจะเข้าใจชีวิตได้มากขึ้นแล้ว ที่กล่าว ดังนี้เพราะ ชีวิตคือการตั้งคำถาม และค้นหาคำตอบ
การที่คุณรู้จักตั้งคำถามในชีวิตต้องถือว่าเป็นเรื่องดี ถึงแม้ว่าคุณจะยังมิสามารถค้นหาคำตอบได้ด้วยตัวคุณเองก็ไม่ถือว่าผิดบาปอะไร ขอเพียงมีคำถาม สักวันคุณต้องได้รับ คำตอบด้วยตนเอง นั่นจึงจะถือว่าเป็นคำตอบที่เหมาะเจาะ ถูกตรงต่อตัวคุณ
แต่ถ้าจักให้ฉันช่วยตอบให้ ก็ต้องขอตอบว่า... คนเรามีชีวิตอยู่เพื่อตาย แต่ก่อนจักตายควรจักปลดปล่อยชีวิตจิตวิญญาณให้หลุดพ้นจากเครื่องร้อยรัดพันธนาการ และผูกพันทั้งปวง ขณะเดียวกันก็นำพาชีวิตนี้ให้ทำดี มีสาระ ปราศจากสภาวะความผิดพลาด หรือถ้าจักผิด ก็ขอให้ผิดน้อยที่สุดด้วยความสำนึกว่า นี่คือหน้าที่สำคัญของชีวิต เรียกว่า มีลมหายใจ ได้ชีวิต เกิดพลังใช้ชีวิต สร้างสรรค์สาระ เมื่อหมดลมหายใจ สิ้นชีวิต ไร้พลัง แต่ยังไม่สิ้นสาระ และโปรดขอให้คุณได้เข้าใจด้วยว่า...
ที่สุดของสรรพสิ่งทั้งปวงที่กล่าวมานี้เป็นเพียงแค่สมมติ ขอให้ใช้สมมติ ยอมรับในสมมติ ให้ประโยชน์กับสมมติ ได้ประโยชน์จากสมมติ และท้ายที่สุดอย่ายึดติดในสิ่งที่เป็นสมมติ เหล่านี้คือคำตอบเรื่องชีวิต
ปุจฉา
ที่หลวงปู่ได้กล่าวว่า "จงเข้าใจในสมมติ ยอมรับในสมมติ และท้ายที่สุดอย่ายึดติดในสมมติ" สามารถจะนำหลักนี้มาประยุกต์มาใช้ในชีวิตประจำวันให้มีความสุข และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กันไปด้วยได้ อย่างไร ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจ และสังคมที่มีวัฒนธรรมการบริโภคและแข่งขันกันสูงมากในปัจจุบัน ถ้าไม่ยอมรับในสมมติเราจะหนีสมมติ(สังคม) ที่ไม่ ถูกต้องอย่างไร จึงจะไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม กราบขอบพระคุณหลวงปู่มากค่ะ
วิสัชนา
คุณคนขี้สงสัยเรื่องสมมติ คุณคงจะจำมาไม่หมด ก็เลยสงสัย ฉันจักช่วยบอกให้คุณจำและเข้าใจให้หมดจะได้หายสงสัย บทโศลกบทนี้ฉันเขียนไว้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ณ ถ้ำรังเสือว่า ลูกรัก จงใช้สมมติ ยอมรับสมมติ ให้เกียรติกับสมมติ ให้ประโยชน์ กับสมมติ รับประโยชน์จาก สมมติ และท้ายที่สุด อย่ายึดติดในสิ่งที่เป็นสมมติ หวังว่าคุณคงจะใคร่ครวญดูแล้วจะรู้คำตอบด้วยตัวคุณเอง
ปุจฉา
กราบนมัสการ และขออนุญาตเรียนถามอาจารย์ฯปู่พุทธะอิสระ ที่เคารพอย่างสูงว่า กระจกยันต์ที่พี่น้องชาวจีนชอบติดตั้งไว้หน้าประตูหรือหน้าบ้าน อยากทราบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไรครับผม
วิสัชนา
เรื่องกระจกยันต์แปดเหลี่ยม อันที่จริงมิได้เกี่ยวอะไรกับพุทธศาสนา แต่เป็นเครื่องรางคุ้มภัยของลัทธิเต๋า เขานำมาแก้ฮวงจุ้ยที่เป็นอัปมงคล
กระจกแปดเหลี่ยม คือ ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ 8 อย่าง ได้แก่ 1) ทิศเหนือ หมายถึง โลก 2) ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หมายถึง ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า 3) ทิศตะวันออก หมายถึง ดวงอาทิตย์ ไฟ 4) ทิศตะวันออกเฉียงใต้ หมายถึง น้ำ 5) ทิศใต้ หมายถึง สวรรค์ และพลังงาน 6) ทิศตะวันตกเฉียงใต้ หมายถึง ลม และไม้ 7) ทิศตะวันตก หมายถึง ฝน น้ำไหล และพระจันทร์ 8) ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หมายถึง ภูเขา
กระจกแปดเหลี่ยมหรือยันต์แปดทิศนี้ เรียกเป็นภาษาจีนว่า โป๊ยก่วย ประโยชน์ในการใช้นอกจากจะเป็นเครื่องราง ใช้ป้องกันคุณไสยแล้ว ยังจะใช้แก้ไขภัยพิบัติที่กำลังปรากฏอยู่ด้วย พร้อมทั้งยังถือว่าเป็นสิ่ง มีมงคลด้วย (ผิดถูกยังไงต้องขออภัย ได้แต่เดาๆ เอาอย่าถือว่า เป็นความถูกต้องทั้งหมด)