xs
xsm
sm
md
lg

ใจคอโหดร้าย ตายไปเป็นเปรต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มีเรื่องเกิดขึ้นครั้งอดีตกาลว่า ในกรุงสาวัตถีมีเศรษฐี ผู้หนึ่ง เป็นคนใจบุญ มีความศรัทธาเลื่อมใสในพุทธศาสนา เขามีภริยาผู้หนึ่งชื่อว่า “มัตตา” นางเป็นคนไม่มีศรัทธา ไม่มีความเลื่อมใส ใจคอโหดร้าย โกรธง่าย นอกจากนั้นนางยังเป็นหมันอีก สามีกลัวว่าจะไม่มีลูกไว้สืบสกุล จึงไปมีเมียน้อยคนหนึ่ง ซึ่งมาจากครอบครัวที่มีฐานะเท่ากัน เมียน้อยคนนี้มีนิสัยใจบุญสุนทานเช่นเดียวกับสามี จึงเป็นที่รักที่ชอบใจของสามีมาก อยู่กันไปไม่นานนัก เมียน้อยก็ตั้งครรภ์ นางอุ้มท้องอยู่นานถึง ๑๐ เดือน จึงคลอดลูกคนแรกออกมา ตั้งชื่อว่า “ภูตะ” เมียหลวงที่เป็นหมันจึงเกิด ความอิจฉาริษยาเมียน้อยมาก

อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่เมียหลวงและเมียน้อยกำลังยืนสระผมอยู่ สามีเดินมาเห็นก็เข้าไปยืนพูดคุยอยู่กับเมียน้อย เป็นเวลานานโดยไม่สนใจเมียหลวงเลย เพราะสามีหลงรักเมียน้อยมากกว่า ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะว่านางสวยกว่าเมียหลวงเท่านั้น แต่นางเป็นคนดี ชอบทำบุญกุศล จึงเข้ากันได้ดีกับสามี ส่วนเมียหลวงเมื่อเห็นสามียืนคุยอยู่กับเมียน้อยเป็นเวลานาน ต่อหน้าต่อตาโดยไม่สนใจตนเองเลย จึงทนไม่ไหว เกิดความอิจฉาริษยาเป็นอย่างมาก จึงเดินไปเอาเศษขยะที่กวาดสุมไว้ในบ้านมาโยนใส่หัวของเมียน้อย

เหตุการณ์ผ่านไปหลายปี เมียหลวงก็ถึงแก่ความตาย และด้วยอำนาจแห่งกรรมชั่วที่ตนกระทำไว้จึงไปบังเกิดเป็น เปรต เสวยทุกข์นานาประการ

อยู่มาวันหนึ่ง นางเปรตได้มาปรากฏตัวให้เมียน้อยเห็น ขณะนั้นนางกำลังอาบน้ำอยู่ที่หลังบ้าน แต่นางก็ไม่ได้ตกใจกลัวแต่ประการใด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เปรตนี้เป็นอดีตเมียหลวง จึงถาม ขึ้นว่า

ทำไมท่านจึงเปลือยกาย และมีรูปร่างน่าเกลียด น่ากลัว ซูบผอม เหลือแต่เส้นเอ็น ท่านเป็นใคร ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้

นางเปรตจึงบอกว่า ฉันคืออดีตเมียหลวง ฉันได้ทำกรรมชั่วไว้กับท่านจึงต้องมาเกิดเป็นเปรตอยู่อย่างนี้

กรรมชั่วอะไรที่ท่านได้ทำไว้?

นางเปรตบอกว่า เพราะฉันเป็นคนใจคอโหดร้าย หยาบช้า มักมีความอิจฉา ริษยา ตระหนี่ โอ้อวด และได้พูดคำหยาบกับท่านเป็นประจำนั่นไง หลังจากตายแล้วจึงทำให้มาเกิดเป็นเปรตอยู่อย่างนี้

ฉันรู้ว่าท่านเป็นคนใจคอโหดร้าย แต่ทำไมร่างกายของท่านต้องเปื้อนฝุ่นด้วย?

นางเปรตจึงบอกว่า ท่านจำไม่ได้หรือตอนที่ท่านกับฉันพา กันอาบน้ำอยู่สองคน สามีเข้ามาหาและมายืนคุยกับท่านนาน ฉันจึงเกิดความอิจฉาได้เอาฝุ่นโยนใส่หัวท่านนั่นไง กรรมชั่วนี้เองทำให้ฉันมีร่างกายเปื้อนฝุ่น

ที่ท่านเป็นหิดคันไปทั้งตัว เพราะทำกรรมอะไรไว้?

นางเปรตตอบว่า เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าครั้งหนึ่งตอน ที่เราสองคนพากันไปเก็บยาสมุนไพรในป่า ฉันได้แอบเอาหมามุ่ยกลับมาบ้านด้วยและแอบเอาไปโปรยลงใส่ที่นอนของท่าน เพราะกรรมนั้นฉันจึงเป็นหิดคันไปทั้งตัว

แล้วเหตุที่ท่านต้องเปลือยกายล่ะ เพราะทำกรรมอะไรไว้?

นางเปรตตอบว่า วันหนึ่งที่มีการรวมมิตรสหายและญาติๆ ท่านได้รับเชิญให้ไปร่วมงาน แต่ฉันไม่มีใครเชิญเลย ตอนท่านเผลอ ฉันจึงได้ขโมยเสื้อผ้าของท่านไปซ่อน ผลแห่งกรรมนี้ทำให้ฉันต้องเป็นเปรตเปลือยกาย

ทำไมท่านจึงมีกลิ่นกายเหม็นเหมือนอุจจาระ?

นางเปรตตอบว่า ที่ฉันเป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าได้ขโมยของหอม ดอกไม้ และเครื่องแต่งตัวของท่าน เอาไปทิ้งลงในหลุมอุจจาระ กรรมชั่วนั้นจึงทำให้ฉันมีกลิ่นกายเหม็นเหมือนอุจจาระ

แล้วทำไมท่านจึงยากจน?

ที่ยากจนก็เพราะว่า ถึงแม้ฉันจะมีทรัพย์สมบัติต่างๆ มากมาย เท่าๆ กับท่าน แต่ฉันไม่เคยให้ทานเลย เพราะผลแห่งกรรมนั้นทำให้ฉันเกิดเป็นเปรตยากจน ถึงแม้ตอนนั้นท่านจะกล่าวตักเตือนฉัน ห้ามไม่ให้ฉันทำกรรมชั่ว เพราะจะทำให้ตกนรก แต่ฉันก็ไม่เชื่อท่าน เพราะในจิตใจมีแต่ความอิจฉาริษยานี่เอง

เมื่อฟังคำตอบของนางเปรตหมดแล้ว เมียน้อยจึงพูดว่า

“ท่านจงพิจารณาดูกรรมชั่วของท่านเถิด เมื่อก่อนคนรับใช้ และเครื่องอาภรณ์ทั้งหลาย มีอยู่ในบ้านของท่าน แต่เดี๋ยวนี้คนรับใช้เหล่านั้นพากันไปรับใช้คนอื่น ทรัพย์สมบัติทั้งหลายท่านก็เอาไปไม่ได้ ตอนนี้สามีของเรากำลังไปตลาดอยู่ ท่านอย่าเพิ่งไปไหน บางทีเขาอาจจะให้อะไรแก่ท่านบ้าง”

นางเปรตจึงบอกว่า “อย่าเลย ฉันอาย ไม่อยากพบเขาในสภาพเช่นนี้ ไม่อยากให้เขารู้ว่าฉันได้ทำความชั่วต่างๆ ไว้มากมาย”

เมื่อเป็นเช่นนี้เมียน้อยจึงถามว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะให้อะไรแก่ท่านดี หรือจะให้ฉันทำบุญอะไรให้ ท่านจึงจะได้รับความสุขสำเร็จตามปรารถนา”

นางเปรตได้แนะนำว่า “ท่านจงนิมนต์พระมา ๘ รูป ถวายภัตตาหาร แล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ฉัน ทำอย่างนี้แล้ว ฉันจะได้รับความสุข พ้นจากความทุกข์ที่เป็นอยู่ขณะนี้”

เมียน้อยรับปากแล้วจึงนิมนต์พระสงฆ์ ๘ รูป มาฉันภัตตาหาร และถวายไตรจีวร อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้นางเปรต และด้วยผลแห่งบุญนี้ทำให้ ข้าว น้ำ และเสื้อผ้า เกิดขึ้นแก่นางเปรตทันที ร่างกายของนางที่เคยเปื้อนฝุ่นก็กลับกลายเป็นสะอาดบริสุทธิ์ ประดับด้วยผ้าและอาภรณ์อันวิจิตรสวยงามดุจดั่งนางอัปสร ทำให้นางเปรตกล้าเข้าไปหาสามี และเมื่อเมียน้อยเห็นสภาพใหม่ของนางเปรตจึงได้สอบถามนางเปรตต่อหน้าสามี ถึงเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้

นางเปรตเอ่ยขึ้นว่า “เมื่อก่อนฉันเป็นเมียหลวงชื่อมัตตา ส่วนท่านเป็นเมียน้อยชื่อติสสา ฉันได้ทำกรรมชั่วไว้ เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้วจึงไปเกิดเป็นเปรต แต่ฉันได้อนุโมทนาบุญที่ท่านทำอุทิศให้ จึงได้พ้นจากความทุกข์นั้น ฉันขออวยพรให้ท่านพร้อมด้วยญาติทุกคน จงมีอายุยืนนาน และในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้จงหมั่นปฏิบัติธรรม หมั่นให้ทาน รักษาศีล เมื่อตายไปจะไม่ต้องเศร้าโศกเสียใจ เหมือนฉัน”

สามีได้ฟังเหตุการณ์ที่อดีตเมียหลวงเล่าให้ฟังแล้วจึงนำ เรื่องนี้ไปเล่าให้พระภิกษุฟัง พระภิกษุจึงได้กราบทูลให้พระพุทธเจ้าทรงทราบ พระพุทธองค์จึงทรงยกเรื่องนั้นมา เป็นเหตุในการแสดงพระธรรมเทศนา ทำให้คนที่ได้ฟัง เกิดความสลดสังเวชใจ และเข้าใจถึงผลแห่งกรรมดีกรรมชั่ว ทุกคนจึงสามารถละความตระหนี่ที่มีอยู่ในจิตใจออกไปได้ พร้อมทั้งตั้งใจมั่นที่จะเป็นคนดีมีศีลมีธรรม

.......

ความโกรธ ความอิจฉาริษยา เป็นเหมือนกับไฟที่คอยเผาใจมนุษย์อยู่ตลอดเวลา ใครมีความโกรธมากก็ยิ่งทำให้คนผู้นั้นทุกข์มาก แต่หากผู้ใดดับไฟคือความโกรธ ความอิจฉาริษยาที่อยู่ในใจให้หมดไปได้ด้วยน้ำใจ คือความเมตตา กรุณาต่อกัน จิตใจก็จะเย็นสบาย มีความสงบเย็นภายใน จะคิดทำการสิ่งใดก็สามารถทำได้ประสบความสำเร็จ ไม่เกิด โทษแก่ตนเองและสังคม

ทุกคนจึงควรดูแลใจของตัวเองให้ดี เพราะใจเป็นตัวการสำคัญที่จะนำไปสู่การกระทำต่างๆ หากจิตใจดีการกระทำก็ออกมาดี หากจิตใจชั่วการกระทำก็ออกมาชั่ว ฉะนั้นจงหมั่นสอดส่องดูแลรักษาใจของตนเองอย่าให้คิดชั่ว อันจะนำ ไปสู่การพูดชั่ว ทำชั่ว อย่างไม่มีที่สิ้นสุด


(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 92 ก.ค. 51 โดย มาลาวชิโร)
กำลังโหลดความคิดเห็น