เครื่องดนตรีโบราณ อย่าง Crystal Bowl และ Multi-Quartz Bowl ที่เชื่อว่า มีส่วนช่วยบำบัดผู้ป่วยจากโรคหลายๆโรค ให้ฟื้นคืนสู่สุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ ถูกบรรเลงขึ้นอีกครั้งในงาน White Concert ดนตรีสีขาว ปันน้ำใจเพื่อแพทย์อาสา ณ โรงละคร สถาบันเกอเธ่ประเทศไทย ถ.สาทร โดย อาจารย์กัมปนาท บัวฮมบุรา ผู้นำคณะนักดนตรีสมาธิบำบัดกลุ่ม ‘คีตาทอฝัน’ รวมถึงคณะนักดนตรีบำบัดรับเชิญจากประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารายได้ไปจัดตั้งกองทุนเครือข่ายแพทย์อาสาเพื่อผู้ป่วยโรคเรื้อรัง จ.นครราชสีมา
เป็นอีกครั้งที่อ.กัมปนาทย้อนคืนสู่เมืองไทยเพื่อช่วยเหลือเหล่ากัลยาณมิตรผู้มีส่วนช่วยขับเคลื่อนสังคมไปในทางที่ดีงาม ภายหลังจากที่ได้สัญจรไปยังประเทศต่างๆมาแล้วหลาย ประเทศ และตลอดมาได้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับดนตรีสมาธิบำบัดชนิดนี้ให้แก่ลูกศิษย์ลูกหาที่สนใจโดยไม่หวงวิชา ด้วยความเชื่อที่ว่า เราไม่สามารถสร้างโลกคนเดียวได้
“กิจกรรมในครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นเพราะแรงบันดาลใจจาก การที่ผมได้เห็นว่าแพทย์ทำงานหนัก โดยเฉพาะแพทย์อาสา ซึ่งทำงานกับผู้ป่วยที่มีความยากจน ไม่มีงบประมาณจากรัฐเลย ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ช่วยงานพวกเขาหลายครั้ง และหลายปีต่อเนื่อง ผมรู้สึกสงสาร ก็เลยอยากจะตั้งกอง ทุนให้พวกเขาได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง งบประมาณที่ได้จากการจัดงานครั้งนี้ ผมถือว่ามันเป็นน้ำใจของทุกคน ที่ช่วยให้ แพทย์ได้มีกำลังเงิน ส่วนกำลังใจพวกเขามีอยู่แล้ว ในการขับเคลื่อนงานต่อไป เพื่อผู้ป่วยที่มีความทุกข์ยาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็ง เบาหวาน ความดัน ซึ่งตอนนี้ทุกคนเป็น โรคชนิดเดียวกันมากขึ้น แม้กระทั่งแพทย์เองก็เป็น เพราะมีความเครียดจากเนื้องานที่ได้ทำ ผมจึงอยากจะผ่อนคลาย อยากจะบำบัดแพทย์ ในขณะเดียวกันก็อยากให้แพทย์มีความสุขจากการที่ได้เป็นผู้แบ่งปันอย่างแท้จริง โดยไม่ขัดสนเรื่องเงินทอง”
ดังนั้น ภายในงานดนตรีสีขาว เราจึงได้เห็นแพทย์หญิง สกาวเดือน นำแสงกุล หรือ ‘หมอฝน’ แพทย์อาสาจากโรงพยาบาลครบุรี จ.นครราชสีมา มาร่วมบรรเลง Crystal Bowl ขับกล่อมผู้คนภายในงานด้วย ซึ่งเธอได้ฝึกเล่นเครื่องดนตรี ชนิดนี้ผ่านการฝึกสอนของอาจารย์กัมปนาท มาเป็นระยะเวลาปีกว่าแล้ว และได้ทดลองใช้มันบำบัดผู้ป่วยที่อยู่ภายใต้ การดูแลของเธอ ควบคู่ไปกับการบำบัดในด้านอื่นๆ
ทุกวันนี้ชีวิตของคนเราส่วนใหญ่ล้วนกี่ยวข้องอยู่กับเทคโนโลยีอันทันสมัย แข่งขันกับเวลา และมุ่งตักตวงเอา แต่ความรู้ จนลืมไปว่าชีวิตของตัวเองนั้นขาดอะไรไปบ้าง เมื่อถึงเวลาหนึ่งโรคร้ายก็มารุมเร้าเอาเสียแล้ว
ดนตรีสมาธิบำบัดเป็นศาสตร์ทางเลือกหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ เพื่อช่วยทุเลาอาการของผู้ป่วยที่กำลังประสบกับโรคร้าย และช่วยคนปกติให้รู้จักผ่อนคลายตัวเองจากภาวะของชีวิตที่เต็ม ไปด้วยความยุ่งเหยิง หันมารักและใส่ใจตนเองจากภายใน
อ.กัมปนาทกล่าวว่าดนตรีสมาธิบำบัดจาก Crystal Bowl ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ผ่อนคลาย เนื่องจากโมเลกุลของ น้ำในร่างกายมนุษย์จะถูกจัดเรียงใหม่ เมื่อผ่อนคลายมาก ดื่มด่ำกับความรู้สึกที่เป็นสุขมาก โอกาสที่โรคร้ายจะหายจึง เป็นไปได้สูง
“มันคือการสลายความเครียดโดยที่เราไม่รู้ตัว หลายครั้งที่เราฟังดนตรีประเภทร็อคและมีความหนักหน่วง ใจของเราก็เต้นเร้าตามไปด้วย แต่พอเราหันมาสนใจดนตรีในท่วงทำนองที่เบาและผ่อนคลาย จะรู้สึกได้ว่าชีวิตมีความรู้สึก ที่ละเมียดมากขึ้น เพราะดนตรีมันส่งคลื่นเข้าไปบำบัดช่วยให้ร่างกายของเราผ่อนคลาย”
การเข้าสู่ความเป็นสุญญตา และปล่อยวางอย่างแท้จริง คือหัวใจสำคัญของผู้บำบัดตัวเองด้วยดนตรีสมาธิบำบัด ขณะที่ Crystal Bowl บรรเลง ทุกคนเปลี่ยนตัวเองให้อยู่ในท่านั่งที่ผ่อนคลายที่สุด ขณะที่หลายคนเอนกายลงไปนอนอยู่ในท่านิทราสมาธิ หรือ ท่าศพ
นักดนตรีสมาธิบำบัดเชื่อว่าในร่างกายของคนเรามีตัวโน้ตทางดนตรีเช่นเดียวกันกับเครื่องดนตรี เมื่อตัวโน้ตในร่างกายได้รับคลื่นที่พอเหมาะจากเครื่องดนตรีที่ถูกส่งเข้าไป จะก่อให้เกิดการประสานเป็นเนื้อเดียวกัน ร่างกายของคนเราจึงผ่อนคลาย และค่อยๆหลับใหลไปในที่สุด
“คลื่นมันเข้าไปบำบัดเราจากภายใน เราไม่ได้ฟังดนตรีด้วยหู แต่ฟังด้วยกายเราทั้งหมด ใจเราทั้งหมด มันจะเข้าสู่ทุกอณูเซลล์ของเรา จากนั้นอย่างที่บอกก็คือ มันจะไปจัดเรียงโมเลกุลของน้ำในร่างกายใหม่ ทำให้เราจะรู้สึกผ่อนคลาย บางครั้งจนลืมไปว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ พอตื่นขึ้นมาก็จะมีความสุข ซึ่งวิธีการคลายเครียดแบบนี้ มันก่อให้เกิด ปาฎิหาริย์ขึ้นได้ โรคร้ายอาจจะหายด้วยซ้ำไป”
ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว หากใจงาม กายก็จะงามตามไปด้วย ปัจจุบันที่กายเป็นทุกข์ ส่วนหนึ่งเพราะใจเป็นทุกข์นั่นเอง
“ผมเชื่อว่าดนตรีสมาธิบำบัดมันรักษาได้แทบทุกโรค ที่สำคัญคือมันรักษาใจเรา พอใจเราดี น้ำในร่างกายของเราก็จะเป็นรูปเป็นร่างที่ดี มีผลทำให้โรคหายได้ แล้วน้ำในร่างกาย มันจะเปลี่ยนได้จริงหรือไม่ ลองเอาน้ำเทลงไปใน Bowl ต่างๆ จากนั้นเคาะแล้วก็หมุน แล้วสวดมนต์ เราจะเห็นว่าน้ำมันตีตัว แตกเป็นเกล็ดเลย แล้วลองเอาน้ำที่บำบัดมาดื่มมันจะมีความเบามาก เพราะออกซิเจนมันถูกดึงลงสู่ผิวน้ำ มันจัดเรียงโมเลกุลในน้ำใหม่ ก่อนบำบัดน้ำมีรสชาติอีกอย่างหนึ่ง พอบำบัดแล้วรสชาติก็จะเบาอีกแบบหนึ่ง น้ำในร่างกายที่มีมากกว่า 70% ก็เป็นเช่นเดียวกัน”
อ.กัมปนาทเป็นผู้ก่อตั้ง ‘บ้านทอฝัน’ บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาของ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรีมาเป็นระยะเวลากว่า 11 ปี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาทางเลือกและได้รับการยอมรับจากแวดวงการศึกษาทางเลือกในประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนกลุ่มศิลปิน นักปรัชญา นักคิด นักเขียนชาวญี่ปุ่น และได้รับการแต่งตั้งจาก APENPO ประเทศญี่ปุ่นให้ทำหน้าที่ทูตสานความสัมพันธ์ไทยญี่ปุ่นด้านการศึกษาทางเลือก เพื่อสร้างเครือข่ายความรัก ความเมตตาและความเข้าใจระหว่างประเทศ
ต่อมาได้มีโอกาสศึกษาศาสตร์ด้านการบำบัดแนวธรรมชาติจาก Oneness University เมืองเชนไนน์ ประเทศอินเดีย และดำเนินงานด้านการศึกษาทางเลือกควบคู่กับการ ดำเนินงานด้านการบำบัดเรื่อยมา โดยเฉพาะการใช้ศาสตร์คลื่นเสียงดนตรีบำบัด โดยนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับการแพทย์สมัยใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพทางกาย ใจ และจิตวิญาณ แก่ทั้งคนป่วย และคนที่ไม่ได้ป่วย ให้เรียนรู้และเข้าใจในจิต วิญญาณแห่งความรักภายในตนเองให้มากยิ่งขึ้น
“ผมศึกษาเรื่องจิตวิญญาณมาตั้งแต่ตัวเองยังอายุ 15 จนปัจจุบันอายุ 44 ปี ผมเชื่อว่าธรรมะจัดสรรให้คนรู้จักคน ธรรมะจัดสรรให้คนรู้จักธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ผมทำงานกับเด็กกำพร้า ผมรู้สึกว่าสิ่งสำคัญคือผมต้องเยียวยาพวกเขาให้ได้ และก็บำบัดตัวเองให้ได้ด้วย เพราะชีวิตในวัยเด็กของ ผมเป็นคนที่เจ็บปวดมากในเรื่องความรัก เพราะผมขาดคุณ แม่มาตั้งแต่เด็กๆ
ผมใช้ดนตรีบำบัด ใช้ธรรมะรักษาตัวเองและเด็กๆเหล่า นั้นเรื่อยมา พอเห็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเปลี่ยน จึงคิดว่าสังคมก็น่าจะเปลี่ยนได้ด้วย ที่ผ่านมาผมเป็นวิทยากรบรรยายในต่างประเทศซะส่วนใหญ่ และใช้ดนตรีบำบัด รู้สึกว่าได้ผลดี ถ้าเราได้นำกลับมาใช้ในเมืองไทยบ้าง ก็น่าจะเกิดผลดีต่อแผ่นดินแม่ของเรา กับเพื่อนร่วมชาติของเรา”
เสียงร้องไห้ที่เต็มไปด้วยความหวัง ชีวิตที่มีโอกาสเริ่มต้นใหม่ คือกำลังใจที่ทำให้นักดนตรีสมาธิบำบัดทางเลือก ผู้นี้ สามารถขับเคลื่อนชีวิตและทำงานมาได้อย่างต่อเนื่อง
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 89 เม.ย. 51 โดย พรพิมล)