xs
xsm
sm
md
lg

บทความจาก นสพ. ผู้จัดการ

x

เติมใจให้กัน:

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครั้งที่ 67

การประพฤติวิสุทธิ 7

เพื่อการบรรลุอนุปาทาปรินิพพาน

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ณ กรุงราชคฤห์ ตามพระอัธยาศัยพอสมควร แล้วเสด็จจาริกไป โดยลำดับถึงพระนครสาวัตถี ราชธานีแห่งแคว้นโกศล ประทับอยู่ที่เชตวนารามของอนาถปิณฑิกเศรษฐี

ท่านพระปุณณ มันตานีบุตรได้ข่าวว่า พระผู้มีพระภาค เสด็จมาถึงเมืองสาวัตถี ประทับอยู่ ณ เชตวนาราม จึงรีบ เก็บงำเสนาสนะ ถือบาตรและจีวรจาริกไปโดยลำดับ ตามเส้นทางที่จะไปนครสาวัตถี เมื่อถึงแล้วได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอดิเรกแล้วนั่งลง ณ ที่ควรแก่ตน พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสนทนาให้ พระปุณณะเห็นแจ้ง ให้อาจหาญร่าเริงด้วยธัมมิกถา คือ ถ้อยคำอันประกอบด้วยธรรมเป็นอันมาก

ท่านพระปุณณมันตานีบุตร ชื่นชมอนุโมทนาพระภาษิตของพระผู้มีพระภาค แล้วลุกจากอาสนะ ถวายอภิวาท ทำประทักษิณแล้วเข้าสู่ป่าอันธวันเพื่อพักกลางวัน

ขณะนั้นภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปหาพระสารีบุตร แล้วแจ้งข่าวให้ทราบว่า พระปุณณมันตานีบุตรที่ท่านสรรเสริญอยู่เนืองๆ นั้น บัดนี้ได้มาสู่เชตวนารามเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคแล้วไปพักกลางวัน ณ ป่าอันธวัน

ท่านพระสารีบุตรได้ทราบดังนั้น รีบถือผ้านิสีทนะ หรือผ้ารองนั่ง แล้วติดตามพระปุณณะไปข้างหลังพอมองเห็นศีรษะได้ ท่านทั้งสองไปนั่งพักกลางวันอยู่ที่โคนไม้ซึ่งไม่ห่างกันนัก

จวบจนสายัณหกาล พระสารีบุตรจึงออกจากที่พักผ่อน เข้าไปหาพระปุณณะ ได้ทักทายปราศรัยกันพอสมควรแล้ว พระสารีบุตร จึงถามขึ้นว่า

"ผู้มีอายุ ท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคของเราหรือ?" "ถูกแล้ว ท่านผู้มีอายุ" พระปุณณะตอบ

ท่านประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค เพื่อความบริสุทธิ์แห่งศีลหรือ? "ไม่ใช่อย่างนั้น ท่านผู้เจริญ"

"เพื่อความบริสุทธิ์แห่งจิตหรือ?" พระสารีบุตรถามต่อ "ไม่ใช่อย่างนั้น ท่านผู้เจริญ"

"เพื่อความบริสุทธิ์แห่งการข้ามพ้นความสงสัยหรือ?" "หามิได้"

"เพื่อความหมดจดแห่งความรู้ความเห็นว่าทางหรือมิใช่ทางหรือ?" "ไม่ใช่อย่างนั้น"

"เพื่อความหมดจดแห่งความรู้ความเห็นในปฏิปทาหรือ?" "หามิได้"

"เพื่อความหมดจดแห่งความรู้แจ้งเห็นจริงหรือ?" "ไม่ใช่อย่างนั้น"

"ท่านผู้มีอายุ" พระสารีบุตรกล่าว "ข้าพเจ้าถามท่านถึงการประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพื่อวิสุทธิ์อย่างใดอย่างหนึ่งถึง 7 ประการ ท่านก็ตอบปฏิเสธเสียสิ้น ถ้ากระนั้นท่านประพฤติพรหมจรรย์เพื่อสิ่งใด?"

พระปุณณะตอบว่า "เพื่อความดับ ไม่เหลือเชื้อ คือ อนุปาทาปรินิพพาน"

พระสารีบุตรได้ถามต่อไปถึงความหมายของอนุปาทาปรินิพพานว่า เป็นอย่างดียวกันกับศีลวิสุทธิ จิตติวิสุทธิ จนถึงญาณทัสสน วิสุทธิ หรือไม่ พระปุณณะตอบว่า ไม่ใช่ "ถ้าอย่างนั้น อะไรเล่าคือความหมายของอนุปาทาปรินิพพาน?"

พระปุณณมันตานีบุตร ผู้ได้รับการยกย่องจากพระศาสดาว่าเลิศกว่าสาวกทั้งหลายในการกล่าวธรรม ได้ตอบพระสารีบุตรว่า "ศีลวิสุทธิก็ดี...ญาณทัสสนวิสุทธิก็ดี...ยังเป็นธรรมที่มีอุปาทาน ถ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติวิสุทธิเหล่านี้ว่าเป็นอนุปาทาปรินิพพานแล้ว ก็ได้ชื่อว่า ทรงบัญญัติธรรมที่ยังมีอุปาทานว่าเป็นอนุปาทานปรินิพพาน"

"ท่านผู้เจริญ" พระปุณณะกล่าวต่อไป "ข้าพเจ้าขออุปมาให้ท่านฟัง เพราะว่าบุคคลบางคนสามารถเข้าใจความอันลึกซึ้งได้

ด้วยอุปมาเหมือนอย่างว่า พระเจ้าปเสนทิโกศลมีพระราชภารกิจด้วยบางอย่างที่จะต้องเสด็จไปยังเมืองสาเกต ในระหว่างเมืองสาเกตและสาวัตถีนั้น จะต้องใช้รถด่วนถึง 7 ผลัด (รถเทียมม้า) ทรงอาศัยรถแต่ละผลัดรับช่วงกันเรื่อยๆ ไป จนผลัดที่ 7 จึงถึงเมืองสาเกต ถ้าจะมีผู้ถามพระองค์ว่า เสด็จถึงเมืองสาเกตจากนครสาวัตถีด้วยรถผลัดใด พระองค์จะตรัสตอบอย่างไรจึงจะชอบด้วยเหตุผล

"ผู้มีอายุ" พระสารีบุตรตอบ "พระเจ้าปเสนทิโกศลจะต้องตรัสตอบว่า "ได้เสด็จมาโดยรถเป็นผลัดๆ ถึง 7 ผลัด"

พระปุณณมันตานีบุตรจึงกล่าวว่า "เรื่องวิสุทธิ 7 ก็ทำนองเดียวกัน อาศัยกันส่งไปเป็นทอดๆ เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่กัน จนถึงอนุปาทาปรินิพพาน ข้าพเจ้าประพฤติพรหมจรรย์เพื่ออนุปาทาปรินิพพานนั้น"

เมื่อพระปุณณมันตานีบุตรกล่าวอย่างนี้ พระสารีบุตรได้ถามขึ้นว่า

"ท่านผู้เจริญ เพื่อพรหมจรรย์เรียกนามท่านว่ากระไร?"

เมื่อพระปุณณะบอกนามของตนแล้ว พระสารีบุตรจึงกล่าวว่า

"ท่านผู้มีอายุ น่าอัศจรรย์นัก ธรรมอันลึกซึ้งท่านปุณณมันตานีบุตรเลือกเฟ้นมากล่าวด้วยปัญญาอันลึกซึ้งเยี่ยงพระสาวกผู้ได้สดับแล้ว รู้ทั่วถึงคำสั่งสอนของพระศาสดาโดยถ่องแท้จะพึงกล่าว เป็นลาภของเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ที่ได้พบเห็นได้นั่งใกล้ท่านพระปุณณะ

พระปุณณะได้เอ่ยถามนามของภิกษุซึ่งท่านร่วมสนทนาอยู่ด้วย พระสารีบุตรตอบว่า "ข้าพเจ้าชื่อ อุปติสสะ แต่เพื่อพรหมจรรย์เรียกข้าพเจ้าว่า สารีบุตร"

ครั้นได้ยินฉะนี้ พระปุณณมันตานีบุตรจึงกล่าวคำนิยมขึ้นว่า

"ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้ามิได้ทราบเลยว่ากำลังนั่งสนทนาอยู่กับพระสาวกผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ คล้ายพระศาสดา ถ้าได้ทราบแต่ต้น คงพูดไม่ออกเป็นแน่แท้ น่าอัศจรรย์จริงท่านผู้เจริญ ธรรมอันลึกซึ้งท่านสารีบุตรเลือกเฟ้นมาถามด้วยปัญญาอันลึกซึ้งตามเยี่ยงที่พระสาวกผู้ได้สดับแล้ว รู้ทั่วถึงคำสั่งสอนของพระศาสดาโดยถ่องแท้จะพึงถาม เป็นลาภของเพื่อนพรหมจรรย์ยิ่งนัก ที่ได้พบเห็น ได้นั่งใกล้ท่านสารีบุตร ไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์ อนึ่งนับได้ว่าเป็นลาภของข้าพเจ้าด้วย ที่ได้พบเห็น ได้นั่งใกล้ท่านสารีบุตร

พระเถระผู้ประเสริฐทั้งสอง ต่างชื่นชมภาษิตของกันและกันด้วยประการฉะนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น