xs
xsm
sm
md
lg

ไวน์‘เขาใหญ่’ทำพิษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



ช่วงนี้จะเห็นว่านักโทษชายเด็ดขาดบ้านจันทร์ส่องหล้า เก็บตัวเงียบไม่ออกมาเพ่นพ่านทำกิจกรรมอะไรหลังจากที่ศาลอาญาไม่อนุมัติให้เดินทางออกนอกประเทศ

คำขออนุมัติขอไปตรวจร่างกายจากอาการเจ็บป่วยดั้งเดิมและขอไปพบกับบุคคลสำคัญในดูไบจึงถูกปฏิเสธ เพราะตุลาการพิจารณาว่าแพทย์ไทยมีขีดความสามารถในการรักษาอาการเจ็บป่วยของนักโทษชายเด็ดขาดได้

ส่วนการไปพบบุคคลสำคัญก็ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีความจำเป็นอย่างไร อีกทั้งระบบเทคโนโลยีปัจจุบันทันสมัยสามารถสื่อสารกันได้ทั่วทุกมุมโลก

ดังนั้น ความพยายามจะเดินทางออกนอกประเทศของนักโทษชายเด็ดขาดจึงอยู่ในสภาพเหมือนคนต้องกินแห้ว เป็นความผิดหวังหลังจากที่มีเสรีภาพไปไหนมาไหนอย่างสบายโดยกรมคุมประพฤติแทบไม่ต้องดูแล

เป็นเรื่องประหลาดที่คนที่พึ่งมาจากดูไบหลังจาก 17 ปี ลี้ภัยนอกประเทศขอกลับไปรักษาตัว ทั้งที่สภาพร่างกายก็ไม่มีอาการเจ็บป่วยอะไรให้เห็น แม้แต่การอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจก็ไม่มีใครเชื่อว่าอยู่จริง

ชาวดูไบชอบมารักษาความเจ็บป่วยในประเทศไทยมากกว่าแม้ดูไบจะมีศูนย์การแพทย์ที่ทันสมัยและคนดูไบได้รับการรักษาพยาบาลฟรีเป็นสวัสดิการ

อาการป่วยของนักโทษชาย ที่อ้างก็ไม่มีใครเชื่อว่าเป็นความจริง พร้อมที่เป็นเรื่องให้สืบสวนตลอดเวลาซึ่งขณะนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนก็ได้เดินเรื่องกับ ป.ป.ช.แล้ว ข้อเท็จจริงเรื่องการเจ็บป่วยจริงหรือปลอมก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเดือดร้อน อาจเสี่ยงคุกตะรางก็ได้

หลังจากการได้พักโทษ แทนที่จะอยู่ในที่กักกันอย่างสงบเสงี่ยม ตามคำสั่งศาลและพระบรมราชโองการให้อภัยโทษโดยมีเงื่อนไขต่างๆ แต่ปรากฏว่านักโทษชายทักษิณไม่ใส่ใจ ทำตัวเป็นผู้มีอิสรเสรีไปไหนก็ได้ตามใจ

จัดงานเลี้ยงเอิกเกริกในสถานที่กักกัน เชิญบริวารมาร่วมงานเลี้ยง ล่าสุดไปร่วมจัดงานที่เขาใหญ่ โดยไม่ต้องใส่ใจว่าที่ผ่านมานั้นชาวบ้านจะคิดอย่างไรว่ามีสิทธิพิเศษอะไร เหนือนักโทษหรือผู้ถูกกักกันธรรมดา

การไปปรากฏตัวในที่ต่างๆ ไม่มีอาการเจ็บป่วยหลงเหลือย่อมสร้างความหมั่นไส้ให้คนหลายระดับ เพราะนักโทษชายได้แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้มีบารมีและไม่สนใจต่อกฎหมาย คำสั่งศาลหรือเงื่อนไขในการพักโทษ

จุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญคืองานวันเกิดที่เขาใหญ่จัดโดยมีบรรดาบริวารนายทุนการเมือง นักธุรกิจรายใหญ่ มหาเศรษฐี ซึ่งรวมกันแล้วเป็นบรรดาเสือสิงห์กระทิงแรดในวงการต่างๆ

นักโทษชายผู้มีบารมีย่อมแสดงออกให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่งานเลี้ยงต้อนรับย่อมมีเครื่องดื่มราคาแพงเช่นไวน์ขวดละเป็นหมื่นหรือหลายแสนบาท ที่นักการเมืองและนายทุนสามานย์ขนมาปรนเปรอให้

ไวน์ก็เป็นเครื่องดื่มเปลี่ยนนิสัยดื่มมากก็จะทำให้ลืมตัวพูดมากแล้วแต่นิสัยของแต่ละบุคคล บางคนเมาแล้วหาเรื่องคน บางคนเมาแล้วโม้โอ้อวดไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น บางคนเมาลืมตัวโมโหปาแก้วไวน์ทิ้งก็มี

โบราณว่าหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง เป็นความจริงเมื่อพูดอะไรไปแล้วคำพูดจะเป็นนายตนเอง ถ้าพลาดไปแล้วมีแต่คนจ้องเหยียบย่ำซ้ำเติม

นักโทษชายก็ไม่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์นี้ พอไวน์ราคาแพงเข้าปากมากเข้าก็จำเป็นต้องพูดมาก ยิ่งมีขบวนการสอพลอเลียแข้งเลียขา หวังผลประโยชน์ทางธุรกิจการเมืองตำแหน่งต่างๆ ก็ย่อมมีคำป้อยอ

อาการลืมตัวพร้อมกับปริมาณไวน์ในร่างกายมากขึ้น คำพูดก็ต้องมากขึ้นและถ้อยคำบางอย่างส่งผลกระทบต่อผู้อื่น ถ้าเป็นคนธรรมดาก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นบุคคลพิเศษผลที่ตามมาย่อมไม่ดีแน่

ก่อนหน้านี้นักโทษชายก็พูดบอกว่า “ผมถูกยัดข้อหา” ทั้งที่คำสารภาพความผิดปรากฏอยู่ในราชกิจจานุเบกษา นั่นได้สร้างความหมั่นไส้ให้กับบุคคลหลายระดับอยู่แล้ว

การแสดงเป็นผู้มีบารมีก็ไม่ต้องเกรงใจใครย่อมทำให้เกิดกระแสด้านลบมีเสียงทักท้วงและเรียกร้องให้มีการสอบสวนว่าป่วยจริงหรือไม่

แต่คำพูดที่งานเลี้ยงเขาใหญ่ที่เกินเลยไปเพราะฤทธิ์น้ำเมาทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง จึงเกิดความหวั่นไหว ยิ่งคำคุยโม้ว่าพร้อมจะไปต่างประเทศได้ทุกเวลา ก็ถูกพิสูจน์ด้วยคำปฏิเสธจากศาลว่าไม่จริง

ดังนั้น ช่วงนี้นักโทษชายจึงต้องเก็บตัวอยู่ในสถานที่กักกันไม่สามารถไปแสดงอำนาจบารมีที่เคยทำได้ พร้อมต้องรอเวลาว่าสถานการณ์จะทุเลาจนถึงวันที่ 31 เดือนนี้ที่จะพ้นโทษ ช่วงนี้ใครจะไปเยี่ยมยังไม่กล้า

และก็ยังมีคดีมาตรา 112 เป็นชนักปักหลังยังไม่มีอิสระร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงเป็นเงื่อนไขที่เจ้าตัวไม่สามารถต่อรองได้ ทุกวันนี้เพียงแต่หวังว่าคำพูดที่โอ้อวดช่วงงานเขาใหญ่จะไม่ทำให้มีผลด้านลบยืดเยื้อ

และเป็นการพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า” และชะตามนุษย์มิสู้ฟ้าลิขิต

เตือนแล้วว่าแผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ มีพระสยามเทวาธิราชคุ้มครอง แต่ละยุคก็เหมือนนางสงกรานต์ที่เปลี่ยนไป แต่ละปีมีผลต่อแผ่นดินต่างกัน

พระสยามเทวาธิราชก็เปลี่ยนบทบาทเหมือนนางสงกรานต์ ซึ่งส่งผลต่อประเทศแตกต่าง แล้วแต่สถานการณ์และความจำเป็น โดยมีความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชนเป็นเป้าหมาย

และยังคงความศักดิ์สิทธิ์ที่ใครจะล่วงเกินมิได้

เมื่อนักโทษชายเด็ดขาดลองของกับพระสยามเทวาธิราชยุคนี้ผลได้รับ จึงเป็นอย่างที่เห็นอยู่ ยังไม่จบ และไม่มีใครทำนายได้ว่าจะจบอย่างไร

เป็นบทเรียนสำคัญที่นักโทษชายจดจำหรือไม่ต้องรอดู สำคัญอย่าให้อารมณ์และความรู้สึกถูกระบายตามปริมาณไวน์ที่กรอกเข้าปาก แล้วทำให้นิสัยเปลี่ยนไป

จะทำให้ชะตาชีวิตเปลี่ยนไปด้วยแม้เจ้าตัวต้องการหรือไม่ก็ตาม ช่วงนี้ได้แต่สวดมนต์อ้อนวอนภาวนาขออภัยต่อฟ้าดินเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น