ปิดท้ายสัปดาห์นี้...คงต้องขออนุญาตไปพูดถึงนักการเมืองในยุโรป อย่างท่านนายกรัฐมนตรีฮังการี “นายViktor Orban” ไว้อีกสักหน่อย เพราะถ้าหากการให้คุณค่าความเป็นคน การให้รางวัลระดับโลก อย่างที่เรียกๆ กันว่า “โนเบลสันติภาพ” อะไรทำนองนั้น ไม่ได้ถูกนำมาใช้เป็นแค่ “เครื่องมือทางการเมือง” มาโดยตลอด จนถึงกับเคยต้องยัดเยียดรางวัลเหล่านี้ให้กับผู้นำอเมริกาอย่าง “โอมาบ้า” (โอบามา) ทั้งที่ไม่ได้ทำ “อหิวาต์” ใดๆ มาก่อนเลย แถมคิดจะหันมาเปิดฉาก “สงคราม” ในภูมิภาคเอเชีย มา “ปักหมุดไว้ในเอเชีย” กันอีกต่างหาก หรือยัดรางวัลใส่มือศิลปินยุคซิกส์ตี้ อย่างคุณน้า “Bob Dylan” เพื่อแสดงออกถึงความเป็น “เสรีนิยม” (ลิเบอร่าน) จนคุณน้าท่านออกอาการงงง์ง์ง์ๆ-มึนซ์ซ์ซ์ๆ ไม่รู้จะเดินทางไปรับดี-ไม่รับดี สิ่งที่เรียกว่ารางวัล “โนเบลสันติภาพ” งวดนี้ หรืองวดไหนก็ตาม มันน่าที่จะส่งมอบให้กับ “นักการเมืองฮังการี” รายนี้นี่แหละมันถึงจะเข้าท่า-เข้าทาง เข้าร่อง-ปล่องชิ้น เป็นไปตาม “มาตรฐาน” อันถูกต้อง-ชอบธรรม...
เพราะถึงแม้จะถือเป็นพวก “แกะดำ” ในยุโรป อันเนื่องมาจากความไม่เห็นพ้อง-ไม่เห็นควรด้วยกับความกระหาย กระเหี้ยนกระหือรือของพวก “บ้าสงคราม” ทั้งหลาย ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ที่ไม่คิดจะเปิดช่อง เปิดหนทางเจรจาเพื่อหาทางยุติข้อขัดแย้งระหว่าง “รัสเซีย-ยูเครน” เอาไว้เลย ยังมุ่งแต่จะยุ-จะยั่วให้ทุกสิ่งทุกอย่างบานปลายไปสู่ “สงครามโลก” ชนิดไม่ใช่แค่สงครามโลกเท่าที่เคยมีมา แต่อาจลุกลามบานปลาย กลายเป็น “สงครามนิวเคลียร์” ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ การยืนหยัดยืนยันไม่เอาด้วยกับ “สงคราม” ของนายกรัฐมนตรีฮังการีรายนี้ แม้จะส่งผลให้ตัวเองต้องโดดเดี่ยว โฮมอโลน ในหมู่นักการเมืองยุโรปเพียงใดก็ตาม แต่ด้วยความยึดมั่นอยู่ “ผลประโยชน์แห่งชาติ” ของประชาชนชาวฮังการี ของชาวยุโรป ไปจนถึงชาวโลกเอาเลยก็ว่าได้ ที่ทำให้นายกรัฐมนตรี “Viktor Orban” ท่านพร้อมที่จะเดินหน้าไปตาม “แนวทางสันติภาพ” อย่างไม่คิดจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ไม่คิดจะลด-ละ-เลิกใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย...
และด้วยเผอิญนับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 ก.ค.ที่เพิ่งผ่านมา...ถือเป็นช่วงวาระที่การดำรงตำแหน่ง “ประธานคณะมนตรียุโรป” (European Council) ของบรรดาชาติยุโรป 27 ชาติที่ผลัดกันเป็นรายละ 6 เดือน หมุนเวียน-เปลี่ยนมือมาถึงผู้นำฮังการีรายนี้พอดิบ-พอดี แม้ว่าโดยฐานะ-ตำแหน่งดังกล่าวจะไม่ถึงกับมีความสลักสำคัญอะไรมาก คือมีฐานะเป็นแค่เจ้าภาพในการจัดประชุมต่างๆ ภายในหมู่ประเทศยุโรป เป็นผู้กำหนดวาระการประชุม ผู้อำนวยความสะดวกในการพบปะ-เจรจา หรือการถกเถียงในหมู่นักการเมืองยุโรป ฯลฯ แต่ภายใต้ฉากสถานการณ์หน้าสิ่ว-หน้าขวาน หน้าข้าว-หน้าเหล้า อันเนื่องมาจากปมความขัดแย้งกรณี “รัสเซีย-ยูเครน” นี่แหละ ที่ทำให้ฐานะ-ตำแหน่งดังกล่าว สามารถถูกนำไปแปรสภาพให้กลายเป็น “พรมเช็ดเท้า” หรือเป็น “ผ้าพันคอ” ของบรรดาชาติต่างๆ ในยุโรปได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะเมื่อผู้นำโลกอย่างคุณพ่ออเมริกาท่านเพียรพยายามฉุดกระชากลากถูให้โลกทั้งโลกโจนเข้าสู่ “สงคราม” เพื่อหวังบั่นทอน ทำลายมหาอำนาจคู่แข่งอย่างจีนและรัสเซีย มุ่งหวังที่จะดำรงความเป็นผู้นำของ “โลกขั้วอำนาจเดียว” ต่อไปให้จงได้...
ตำแหน่งประธานคณะมนตรียุโรป ภายใต้นักการเมืองสวีเดน อย่างนายกรัฐมนตรี “Ulf Kristersson” หรือนายกรัฐมนตรีเบลเยียม อย่าง “นายCharles Michel” เลยมีสภาพไม่ต่างอะไรไปจาก “พรมเช็ดเท้า” ของคุณพ่ออเมริกาไปโดยปริยาย แต่ครั้นเมื่อถึงรอบของนักการเมืองฮังการี อย่างนายกรัฐมนตรี “Viktor Orban” การอาศัยสถานะ-ตำแหน่งดังกล่าว ออก “เดินสาย” ไปจับเข่า-จับหัวหน่าวผู้นำยูเครน “นายVolodymyr Zelensky” เป็นรายแรก เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (2 ก.ค.) ก่อนต่อไปเจ๊าะแจ๊ะเจรจากับผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “ปูติน” เมื่อช่วงวันศุกร์ที่แล้ว (5 ก.ค.) ถึงกรุงมอสโก จนถือเป็นผู้นำชาติยุโรปรายแรกที่เดินทางไปเยือนรัสเซีย หลังการบุกยูเครนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว (ค.ศ. 2022) จึงก่อให้เกิดความระเบิดเถิดเทิงความฉุนเต่า ฉุนตะพาบ ต่อบรรดานักการเมืองในยุโรป ที่กำลังรุมเหยียบ-รุมกระทืบประเทศรัสเซียไม่ว่าด้วยการ “แซงชั่น” ระดับหนักหนาสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึง 15,000 รายการ หรือการสนับสนุนให้เกิดการเข่นฆ่า สังหาร ระหว่างชาวสลาฟด้วยกันเอง เช่นชาวรัสเซียและยูเครน จนตายโหง-ตายห่าไปแล้วไม่รู้จะกี่แสน-กี่ล้าน ชนิดต้องลุกขึ้นมาด่า มาวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำฮังการีรายนี้แบบเสียๆ-หายๆ หาว่าไม่เป็นกลาง ไม่ได้รับคำสั่งใดๆ จากชาติสมาชิกในอียู หรือเป็น “เพื่อนปูติน” อะไรไปโน่น!!!
แต่สิ่งที่นักการเมืองฮังการีรายนี้...ท่านได้ให้สัมภาษณ์ถึงบทบาท ท่าที และสิ่งที่อยู่ภายในใจของท่าน ต่อนิตยสาร “Die Weltwoche” ของสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ก.ค.) ถึงปฏิบัติการในลักษณะดังกล่าว ต้องเรียกว่า...เป็นอะไรที่น่าทึ่ง-น่าประทับใจเอามากๆ โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า... “แม้ผมถูกวิจารณ์ว่าเป็นเพื่อนปูติน แต่คงต้องยอมรับว่าอันดับแรกผมคือเพื่อนของประชาชนชาวฮังการี และสองผมคือเพื่อนของสันติภาพ นี่เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะด้วยเหตุแห่งสันติภาพนี่เอง ที่ทำให้ผมต้องไปพบปะเจรจากับปูติน เพื่อหาหนทางที่สั้นที่สุด-เร็วที่สุด ในอันที่จะหยุดยั้งสงครามลงไปให้จงได้...” หรือ... “เพราะการแสวงหาสันติภาพนั้น ไม่จำเป็นต้องมีใครสั่ง และแม้ผมจะไม่ได้อยู่ในฐานะตัวแทนของใคร แต่ผมคือเครื่องมือที่อยู่ในอุ้งหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้า เครื่องมือของปวงชนผู้ใฝ่หาสันติภาพ...”
นี่...ต้องเรียกว่าอะไรจะเก๋ จะเท่ จะน่ายกย่องสรรเสริญ น่าให้การยอมรับเท่านี้ย่อมไม่มีอีกแล้ว และก็คงไม่ใช่แค่การอาศัยฐานะประธานคณะมนตรียุโรป ออกเดินสายพบปะผู้นำยูเครน-ผู้นำรัสเซียคราวนี้เท่านั้น แต่ในช่วงระยะ 6 เดือนนับจากนี้เป็นต้นไป นายกรัฐมนตรีฮังการีรายนี้ท่านยังประกาศว่าพร้อมจะกระทำการ “เซอร์ไพรส์” ให้พวก “บ้าสงคราม” ในยุโรปต้องอ้าปาก-ตาค้างกันอีกเป็นจำนวนไม่น้อย โดยท่านคิดจะไปพบปะกับใครต่อใคร คงต้องคอยจับตาอย่างมิอาจกะพริบตาเป็นอันขาด แต่ที่แน่ๆ ก็คือการเดินสายเพื่อแสวงหาสันติภาพในลักษณะดังกล่าว ก็ก่อให้เกิดความชื่นชมต่อนักการเมืองในยุโรปจำนวนมิใช่น้อย ไม่ว่าผู้นำประเทศสโลวัก อย่าง “นายRobert Fico” ที่เพิ่งหายป่วยจากการถูกลอบสังหาร โดยไม่คิดจะถือสาหาความใดๆ กับผู้ลงมือ ที่ออกมาสรรเสริญ ยกย่องนายกรัฐมนตรีฮังการีถึงขั้นว่า ถ้าหาก “หมอไม่ห้าม” ก็พร้อมที่จะออกเดินสายร่วมกับผู้นำฮังการีทุกเมื่อ...
ไม่ต่างไปจากผู้นำพรรคการเมืองออสเตรีย และสาธารณรัฐเช็ก ที่เพิ่งกวาดที่นั่งสมาชิกในรัฐสภายุโรป (European Commission) มาได้เป็นจำนวนมิใช่น้อย ที่ได้ร่วมผนึกกำลังกับนายกรัฐมนตรีฮังการี ก่อตั้งกลุ่มก้อนที่เรียกว่า “Patriots for Europe” พร้อมกับการนำเสนอคำขวัญว่ามุ่งที่จะ “Make Europe Great Again” ด้วยการเลิกเป็น “พรมเช็ดเท้า” ให้กับผู้หนึ่ง-ผู้ใด หันมาเป็นตัวของตัวเอง หรือเป็น “ผ้าพันคอ” ชาวยุโรปทั้งหลายน่าจะเหมาะกว่า ทั้งนี้...โดยมีบรรดานักการเมืองฝ่ายขวาจากฝรั่งเศสที่เพิ่งได้รับเลือกเข้าเป็นสมาชิกสภายุโรปอีก 30 ที่นั่ง ประกาศที่จะให้ความร่วมมือกับกลุ่มก้อนดังกล่าว จนอาจกลายเป็นกลุ่มพลังที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ในรัฐสภายุโรป ดังที่สำนักข่าว “Politico” เขาสรุปไว้ล่วงหน้าเอาเลยก็เป็นได้...
โดยถ้าหากเป็นไปในแนวนี้...ก็คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า โอกาสที่พวก “บ้าสงคราม” ในยุโรปและอเมริกาจะฉุดลากกระชากถูให้โลกทั้งโลกต้องพลอยฉิบหาย-วายวอดตามไปด้วย น่าจะลดความเป็นไปได้ลงไปมั่งไม่มาก-ก็น้อยเพราะแม้แต่หนึ่งในชาติสมาชิก “NATO” อย่างประธานาธิบดี “Recep Tayyip Erdogan” แห่งตุรกี-ตุรเคีย ท่านก็ยังอดไม่ได้ที่จะออกมา “เตือน” บรรดาผู้ใฝ่หา ผู้แสวงหาสันติภาพทั้งหลายเอาไว้ดังๆ ว่าโดย “ธาตุแท้” ของ “บางประเทศในตะวันตก” หรือของคุณพ่ออเมริกานั่นแหละ สหายที่เพียรพยายามขับเคลื่อน ผลักดัน โลกทั้งโลกให้ต้องเข้าสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3” ให้จงได้ หรือเพราะ...“มันเป็นสิ่งที่แจ้งชัดอยู่แล้วว่าพวกพ่อค้าอาวุธทั้งหลายต้องการ...เงิน และตลาดค้าอาวุธก็อยู่ในมือของพวกอุตสาหกรรมอาวุธตะวันตก” การยุแยงตะแคงรั่วให้ชาติต่างๆ หันไปปิดช่อง ปิดทาง ปิดโอกาส ในอันที่จะแสวงหาสันติภาพ เพื่อเพิ่มพูนผลประโยชน์และกำไรให้กับ “ตัวกูเอง” มันจึงหนักหน่วงและรุนแรงไปได้ถึงปานนั้น....
ด้วยเหตุนี้...ภายใต้ฉากสถานการณ์ที่บรรดาชาวโลกทั้งหลาย ยังพอมองเห็นถึงคุณค่า คุณประโยชน์ของ “สันติภาพ” จนทำให้ “การเลือกตั้ง” ตามระบอบ “ประชาธิปไตย” ในประเทศต่างๆ ส่งผลให้ “ปวงชน” ผู้ถือครอง “อำนาจอธิปไตย” แต่ละประเทศแสดงออกถึงความปรารถนา-ต้องการที่ “ขัดแย้ง” และ “สวนทาง” กับรัฐบาลหรือนักการเมืองของตัวเอง ไม่ว่าในอังกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี ฯลฯอย่างเห็นได้โดยชัดเจน อันนี้นี่แหละ...ที่อาจช่วยให้ “ไฟนรกสุดขอบฟ้า” ไม่ต้องลุกโพลงเป็นประกายไฟไหม้ลามทุ่งไปทั่วทั้งโลก และเป็นสิ่งที่นักการเมืองฮังการี อย่างนายกรัฐมนตรี “Viktor Orban” ท่านยังไม่คิดจะสิ้นหวัง หมดหวัง กับการใช้กรรมวิธีเช่นนี้ ด้วยการใช้ช่วงจังหวะและโอกาสดังกล่าว พร้อมที่จะกระทำตนเป็น “เครื่องมือ” ของ “พระผู้เป็นเจ้า” ไปด้วยประการละฉะนี้...