"โสภณ องค์การณ์"
อะไรที่ว่าแน่ๆ เริ่มส่อเค้าลางให้เห็นชัดแล้วว่า ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน เพราะไม่มีใครสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทุกอย่าง
ตัวแปรจึงเป็นสภาวะปกติและมักจะเหนือความคาดหมายเสมอ สิ่งที่เกิดขึ้นช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้แต่เทวดาก็ยังมีโอกาสตกสวรรค์ได้ และจะนำไปสู่สภาวะไม่แน่นอนต่อเนื่องด้วยเหตุที่ตัวหลักสำคัญไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้ จะนำไปสู่สภาวะสับสนอลหม่าน เช่นฝูงกิ้งก่าตกต้นไม้พร้อมกับสร้อยทอง คางคกตกวอเป็นต้น
นั่นหมายถึงสภาพที่คนเคยมีอำนาจวาสนาตำแหน่งเสนาบดีจ้องแสวงหาผลประโยชน์ และความมั่งคั่งจากทรัพย์สินแผ่นดินก็จะหมดโอกาสไปด้วย
กรณีนักโทษชายเด็ดขาดต้องเผชิญวิบากกรรมรอบใหม่เมื่ออัยการมีคำสั่งฟ้องในคดีละเมิดกฎหมายมาตรา 112 ถือว่าเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด วิบัติเข้ามาซ้ำเติม อาจจะเป็นสภาวะไม่คาดฝัน จากเดิมที่มีความหวังว่าจะรอดเพราะพลังแฝงเร้นและขบวนการตัวช่วย ตามเสียงร่ำลือว่ามีข้อตกลงลับ ทำให้ตัวเองได้กลับแผ่นดินเกิดหลังจากเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศนาน 17 ปี
คำอ้างว่าติดโรคโควิดทำให้เลื่อนการมอบตัวไปถึงวันที่ 18 เดือนมิถุนายน ถือว่าเป็นเวลาอันมีค่าในการที่จะทำอะไรให้รอดพ้นจากคดีร้ายแรง
ติดโควิดจริงหรือไม่ ไม่มีใครรู้เพราะไม่มีรายละเอียดของสถานที่ออกใบรับรองแพทย์ ซึ่งทำให้ปัญหาความน่าเชื่อถือก่อนหน้านี้มาผสมโรงด้วย
สภาวะอย่างนี้ทำให้เกิดความคาดหมายว่า ผู้นำรัฐบาลถุงเท้าแดง ก็อยู่ในสภาพความเสี่ยงสูงเช่นกัน โดยเริ่มต้นจากหลุดพ้นจากตำแหน่งซึ่งจะทำให้รัฐบาลไปเฉพาะตัวผู้นำหรือทั้งก๊วนก็ได้
ว่ากันว่าผู้นำถุงเท้าแดงอาจจะเลือกลาออกหรือยุบสภาถ้าสถานการณ์เข้าตาร้าย ซึ่งจะนำไปสู่ความไม่แน่นอนว่าใครเป็นผู้นำคนต่อไป ถ้าเกิดความวุ่นวายก็อาจจะเกิดสภาวะแทรกซ้อนได้เช่นกันและนั่นจะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอำนาจการบริหารประเทศด้วย
ดังนั้นจึงต้องดูว่าช่วงเดือนมิถุนายนใครจะไปก่อนระหว่างผู้นำถุงเท้าแดงและนักโทษชายเด็ดขาด จะไปทั้งคู่ รอดทั้งคู่ หรือคนใดคนหนึ่งต้องไป สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน และต้องใช้เวลาต่างกัน
แน่นอน ทั้งคู่ต้องดิ้นรนเต็มที่ จะร่วมกันดิ้นหรือแยกกันเอาตัวรอดขึ้นอยู่กับข้อตกลงหลังจากมีข่าวว่ากินเกาเหลากันมาสักพักแล้ว เพราะเหตุมีคนอยากยุ่งกับอำนาจรัฐ
แถมยังมีเรื่องปีนเกลียวระหว่างเจ๊ๆ กับซ้อใหญ่ เรื่องผลประโยชน์และความอยากควบคุมอำนาจรัฐ สร้างความปวดหัวให้กับนักโทษชายเด็ดขาด
ถ้าเป็นโควิดจริงก็จะใช้เวลาช่วงนี้กบดานหาทางออกจากกรรมที่กำลังไล่ล่าจี้ก้นอยู่ และต้องระวังว่าจะต้องไม่เข้าคุกแม้แต่วันเดียว ที่ผ่านมาและสร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของประเทศอย่างมาก
ทั้งผู้นำถุงเท้าแดงและนักโทษชายเด็ดขาดก็มีคดีมากกว่าหนึ่งเรื่อง โอกาสจะรอดพ้นทุกอย่างจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ครั้งนี้พระสยามเทวาธิราชเอาจริง หลังจากกฎหมายบ้านเมืองถูกย่ำยีต่อเนื่อง
น่าแปลกก็คือช่วง 2-3 คืนนี้ บ้านจันทร์ ปิดไฟมืด อยู่ในสภาพเงียบเหงา แม้มีทางเข้าออกสามประตู การเคลื่อนไหวสามารถเป็นไปอย่างเร้นลับได้
หรือไปรับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ครอบครัวเป็นเจ้าของ เพื่อให้สมกับคำอ้างหลังจากการป่วยหกเดือนในโรงพยาบาลตำรวจไม่มีใครเชื่อ ยกเว้นพวกชมรมเชื่อคนง่าย
ความหวังที่จะเคลียร์ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพระสยามเทวาธิราช ดังนั้นเมื่อจนตรอกก็ต้องใช้มาตรการที่ยังมีอำนาจจัดการได้อยู่ถ้ารู้ว่าไม่รอดคุก
สมาชิกครอบครัวที่เคยไปไหนมาไหนกรีดกรายหรือแฟชั่นนำสมัยต่างเก็บตัวเงียบ และจะไม่แปลกใจถ้าหากมีการอพยพครั้งใหญ่ ไปอาศัยแผ่นดินคนอื่นอยู่ นั่นคือกลับไปอยู่ต่างประเทศ และผู้นำถุงเท้าแดงก็ล้มโต๊ะด้วยการประกาศยุบสภา ให้สมกับคำกล่าวก่อนหน้านี้ว่า “ ถ้ากูไม่มีความสุข พวกมึงก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่อย่างมีความสุข”
ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่ อีกไม่นานก็รู้ ที่แน่ชัดคือเวรกรรมมีจริง